ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 68

สรุปบท ตอนที่ 68 ซาบซึ้งอย่างไม่ทันตั้งตัว: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 68 ซาบซึ้งอย่างไม่ทันตั้งตัว จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 68 ซาบซึ้งอย่างไม่ทันตั้งตัว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เหลิ่งชิงฮวนกัดฟันแน่น พยายามกลั้นความเจ็บปวดในลำคอ เป็นผลให้นางรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ และมีอาการวิงเวียนศีรษะทว่าไม่สามารถพูดออกมาได้

หลังจากกัดฟันทนมาพักหนึ่ง ท้ายที่สุดนางก็อดกลั้นต่อไปอีกไม่ไหว “หยุด!”

คนขับรถม้าหยุดในทันที

เหลิ่งชิงฮวนไม่สามารถทนได้อีกต่อไปกระโดดออกจากรถในสองก้าว รีบวิ่งไปที่ข้างถนน

เป็นเพราะเที่ยงนี้ท้องว่างยังไม่ได้กินอะไร จึงอาเจียนเป็นน้ำกรด

คนขับรถม้าพูดด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย “ถนนช่วงนี้เต็มไปด้วยหลุมบ่อ หลังจากเข้าเมืองจะดีขึ้นขอรับ”

เหลิ่งชิงฮวนหายใจไม่ออกและไม่สามารถตอบได้

มู่หรงฉีขี่ม้านำหน้าก็หยุดม้าของเขาเช่นกัน ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าที่ซีดเซียวของนาง มือจับบังเหียนแน่นขึ้น เส้นเลือดบนมือปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นและมีสีหน้ามืดครึ้ม แม้ว่าเขาจะไม่เคยเป็นพ่อมาก่อน แต่เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพราะอะไร

เขายกบังเหียนขึ้นและควบม้าเข้าไปในเมืองเพียงลำพัง

คนขับรถม้ายืนอยู่ด้านข้างได้แต่รออย่างอดทน

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกอึดอัดมากจนรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย นางทรุดตัวนั่งลงข้างถนน แม้ว่าจะต้องเดินกลับด้วยสองขา ทว่านางไม่ต้องการกลับไปที่รถม้าอีก

ก่อนจะโบกมืออย่างอ่อนแรง “เจ้าไปเถิด ข้าขอนั่งพักอีกสักหน่อยแล้วจะเดินกลับไปเอง”

ทว่าคนขับรถมือกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง

หลังจากนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นหันหลังหยิบสารละลายน้ำตาลกลูโคสและหยิบยาแก้อาเจียนออกมา โดยตั้งใจที่จะเติมพลังงานหลังจากพักผ่อน

ทันใดนั้นมีเสียงเกือกม้าดังแว่วมาแต่ไกล แล่นมาตามถนนอย่างเร่งรีบจากทิศทางของประตูเมือง

เหลิ่งชิงฮวนเหลือบมองและเห็นว่าเป็นมู่หรงฉีที่จากไปแล้ว เขากลับมาโดยถือขวดไวน์ไว้ในมือ

นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยพลางจ้องมองที่เขาอย่างว่างเปล่า

มู่หรงฉีลงจากหลังม้าและเดินตรงไปหานาง ดึงจุกขวดไวน์ในมือออกแล้วยื่นให้โดยไม่พูดอะไรสักคำ

เหลิ่งชิงฮวนรับไว้อย่างโง่เขลา เมื่อนางเขย่ามันจึงได้ยินว่ามีบางอย่างเสียงกระทบกันอยู่ข้างใน ราวกับเสียงก้อนน้ำแข็งกระทบกัน มีชั้นของหยดน้ำเย็นที่ผนังด้านนอกขวดอยู่ในฝ่ามือ กำลังแผ่กระจายความเย็นไปถึงแขนขาทั้งหมดในทันที

“นี่คืออะไร”

มู่หรงฉีไม่ตอบพร้อมกับรักษาใบหน้าเย็นชา

จากนั้นนางจึงเอาขวดมาดม กลิ่นเปรี้ยวหวานตีขึ้นจมูกทันที นี่ไม่ใช่เหล้าแต่เป็นน้ำบ๊วย! แถมยังมีน้ำแข็งอีกด้วย

เครื่องดื่มเย็นๆ แบบนี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งในยุคปัจจุบัน ทว่าหายากในสมัยโบราณ เขาไปเอามาจากไหน เมื่อกี้ฉันคิดว่าเขาโกรธก็เลยทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียว แต่เขาจงใจไปน้ำนี่มันให้ฉันงั้นเหรอ

ชายผู้เย็นชาและไร้ความปรานีกลายเป็นคนอบอุ่นไก่ทอดไปแล้วหรือเนี่ย

เหลิ่งชิงฮวนกระชับมือที่ถือขวดที่กำลังสั่นเล็กน้อย ดวงตาของนางมีความชื้นทว่าไม่อยากให้มู่หรงฉีเห็นท่าทางน่าสงสารของตัวเอง ดังนั้นจึงรีบกัดริมฝีปากล่างแล้วก้มหน้าลง

ทว่าหมอกในดวงตากลับไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ทำให้ขนตาของนางเปียกชื้น น้ำบ๊วยขวดนี้กับบ้านหลังเล็กๆ ของพี่ชายดันทำให้นางรู้สึกซาบซึ้งอย่างไม่ทันตั้งตัว ชั่วพริบตานั้นทำให้นางรู้สึกเศร้าใจนึกถึงชีวิตการเดินทางข้ามเวลาในทันที

“หากเจ้าไม่ชอบก็โยนทิ้งไปเสีย” มู่หรงฉีเห็นว่าเธอกำลังถือขวดแต่ไม่มีความตั้งใจที่จะดื่มจึงพูดอย่างเย็นชา

เหลิ่งชิงฮวนไม่ตอบ ก่อนจะยกขึ้นมาจิบอึกใหญ่ รสเย็นหวานและเปรี้ยวกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของบ๊วยเลื่อนผ่านลำคอและเข้าสู่ท้อง ทันใดนั้นพลังงานร่างกายที่ถูกดึงออกไปราวกับหวนคืน ทำให้นางยกขึ้นมาจิบครั้งที่สองและครั้งที่สาม

มู่หรงฉีมองใบหน้าของนาง ตาอันแหลมคมเห็นว่ามุมตาของนางส่องแสงราวกับว่ามีไอน้ำเกาะอยู่ ทำให้ขนตาหยิกยังเปียก

ทันใดนั้นเมื่อนึกถึงสายตาเหยียดหยามของนางเมื่อครู่จึงตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้มีหนามแหลมคมก็จริง แต่แท้จริงแล้วนางทั้งนุ่มนวลและเร้าใจอย่างยิ่ง เพียงแค่น้ำบ๊วยรสเปรี้ยวหนึ่งขวดสามารถทำให้นางน้ำตาไหลได้

ใช่ สมน้ำหน้าฉันจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่าจะต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ฉันก็ยังยืนยันที่จะเก็บเด็กคนนี้ไว้

นี่กำลังล้อเล่นหรือไงกัน เหมือนนั่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาเลย ใกล้เกินไปแล้ว ถ้าเข้าไปในเมืองทั้งๆ สภาพแบบนี้มันจะไม่น่าอายเกินไปหน่อยเหรอ

มันแตกต่างจากครั้งก่อนที่ฉันได้รับคำสั่งให้ไปที่ค่ายทหาร ครั้งนี้เพราะความประหม่า ประสาทสัมผัสของฉันจึงไวเป็นพิเศษ

เหลิ่งชิงฮวนโน้มตัวไปข้างหน้าให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือหนึ่งถือขวดน้ำบ๊วยไว้ และใช้อีกมือข้างจับแผงคอของม้าแน่น เกรงว่าจะล้มลงไปอีก หน้าอกที่อบอุ่นด้านหลังพิงเขาเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายและกล้ามเนื้อที่แข็งแรงผ่านเสื้อตัวบาง

เมื่อลมพัด ผมของนางจะพลิ้วสยายไปด้านหลัง เหมือนว่ามันจะพันกับผมสีดำของเขาและถูกับใบหน้าของเขาด้วย ความคลุมเครือเล็กน้อยเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองอย่างเงียบๆ

นางเคลื่อนไหวไม่สะดวก

มู่หรงฉีเป็นคนใจร้อนจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ารังเกียจ “หากเจ้าไม่รู้วิธีขี่ม้าก็อย่าขยับตัว หากเจ้าตกลงไปข้าจะไม่ช่วย...”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกอึดอัดมากยิ่งขึ้น ก่อนจะกระซิบ “ลูกปัดของข้าปลิวไปตามสายลมแล้ว”

มู่หรงฉีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลงจากหลังม้า ก้มลงเพื่อค้นหา “ผู้หญิงสร้างแต่ปัญหาเสียจริง”

เหลิ่งชิงฮวนที่อยู่หลังม้ายิ้มอย่างมีชัย ก่อนจะเขย่าบังเหียน “ไป!”

ม้าเคลื่อนตัวออกไปและเหลือทิ้งไว้เพียงฝุ่นคลุ้ง เหลิ่งชิงฮวนซึ่งกำลังขี่ม้าถือขวดเหล้าไว้ในมือข้างหนึ่ง และอีกข้างถือบังเหียนด้วยหลังเหยียดตรง ผมปลิวไสวและท่าทางอันกล้าหาญ

ใครว่าฉันขี่ม้าไม่เป็นล่ะ

“ผู้ชายอย่างพวกท่านต่างหากที่รนหาเรื่องเอง ลาก่อน ท่านอ๋อง” เสียงดังขึ้นจากที่ไกลด้วยความภาคภูมิใจ

มู่หรงฉีเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ทว่าไหล่ของเขากลับดูผ่อนคลาย หลังจากที่ม้าวิ่งไปได้ไกล เสียงนกหวีดก็ดังขึ้น ทำให้ม้าตัวเดิมหันหลังวิ่งกลับมาหาเขาอีกครั้ง ไม่ว่าเหลิ่งชิงฮวนจะตะโกนอย่างไร มันก็ไม่ฟัง

เหลิ่งชิงฮวนซึ่งกำลังขี่ม้าด้วยความภาคภูมิใจเมื่อครู่กลับถูกใครบางคนจับได้มู่หรงฉี ทำให้นางรู้สึกโกรธอยู่ครู่หนึ่ง

มู่หรงฉียิ้มอย่างเย็นชา “เจ้าให้ข้าเข้าใจว่าทำคุณบูชาโทษโปรดสัตว์ได้บาปหมายถึงอะไร ห้ามเอาใจพวกผู้หญิง”

นางลงจากหลังม้าด้วยท่าทีสิ้นหวัง เดินกลับเข้าไปในรถม้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะเอนกายนอนลงในรถม้าราวกับว่าชีวิตจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

สุภาษิตบอกไว้ว่าธรรมะสูงหนึ่งคืบ มารร้ายสูงหนึ่งศอก ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาจริงๆ สินะ เลิกดิ้นรนได้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา