สรุปตอน ตอนที่ 67 เราจะคืนดีกันหรือไม่ – จากเรื่อง ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล
ตอน ตอนที่ 67 เราจะคืนดีกันหรือไม่ ของนิยายนิยาย โรแมนติคเรื่องดัง ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดยนักเขียน เฉลิมพล เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ทางกลับจวนเสนาบดีเป็นหลุมเป็นบ่อเล็กน้อย รถม้าเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า โดยมีผู้คนเดินอยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลน
เหลิ่งชิงฮวนกำลังนั่งอยู่ในรถม้า ขณะที่มู่หรงฉียังคงขี่ม้า ระหว่างทางเหลิ่งชิงฮวนยกม่านขึ้นพลางเอนกายออกมานอนนอกหน้าต่างเพื่อมองดูมูหรงฉีซึ่งกำลังขี่ม้า
เกือบเป็นเวลาสายันต์ แสงแดดอ่อนนุ่มละมุนตกกระทบร่างของมู่หรงฉีเบาๆ ความเย็นชาและแข็งกระด้างของใบหน้าหล่อเหลาด้านข้างนั้นดูอ่อนโยนมากขึ้น เศษเสี้ยวของดวงอาทิตย์อันอบอุ่นสาดส่องอยู่บนผมสีดำขลับ สายลมพัดโชยมา แสงสีทองส่องผ่านช่องว่างในเส้นผมเป็นครั้งคราว
“นี่ เมื่อครู่ตอนที่หม่อนฉันไปชงชา ท่านพี่พูดอะไรกับท่านบ้างหรือ”
ร่างกายของมู่หรงฉีเหยียดตรงตรง เขาขี่ม้าอย่างมั่นคงราวกับต้นสนอันแข็งแรง ทว่าเมื่อได้ยินคำถามของนาง เขาจึงตอบกลับโดยไม่แม้แต่จะมอง “เจ้ากำลังพูดใครหรือ”
“ท่านไง !”
“ข้าไม่ได้ชื่อ...นี่”
เหลิ่งชิงฮวนแสดงอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อ๋องฉีผู้มีเกียรติ”
มู่หรงฉียังคงไม่พอใจกับชื่อนี้ แต่ในขณะนั้นเองเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการให้นางเรียกเขาว่าอย่างไรเช่นกัน
“พี่ชายของเจ้าบอกว่าตอนเจ้ายังเด็กสามหรือสี่ขวบ เจ้ามักจะฉี่รดที่นอนอยู่บ่อยๆ เจ้าน่ะโง่เขลา และยังขอให้ข้าไม่ถือสาพร้อมกับดูแลเจ้าให้ดี”
“ถุย!” เหลิ่งชิงฮวนถ่มน้ำลาย “ไร้สาระ ท่านน่ะสิที่ฉี่รดที่นอน”
“เจ้าไม่ได้นอนเตียงเดียวกับข้าและเจ้ารู้ได้อย่างไร” มู่หรงฉีหรี่ตาลงพลางหันหน้ามองนาง
ทันใดนั้นเหลิ่งชิงฮวนก็หน้าแดงตั้งแต่แก้มจนถึงหู
เธอเอนตัวไปด้านข้าง มู่หรงฉีเห็นแก้มแดงระเรื่อภายใต้พระอาทิตย์ตกดินอันนุ่มนวลแผ่ซ่านออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งติ่งหูเล็กกลายเป็นสีแดงฉาน ส่องแสงเจิดจ้าราวกับแกะสลัก
ยิ่งไปกว่านั้นนางไม่ได้เจาะหู เวลานี้ขนปุยที่ด้านบนของนางสะดุดตามากขึ้นเพราะความแวววาว ซึ่งดูน่ารักมากเป็นอย่างยิ่ง
เขาตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกที่เรียกว่าใจสั่นระเบิดขึ้นในหัวใจของเขาท่วมท้นอย่างรวดเร็ว
เหลิ่งชิงฮวนโกรธจนสะบัดผ้าม่านกลับพลางหดตัวกลับเข้าไปข้างใน “ปากสุนัขย่อมคายงาช้างออกมาไม่ได้”
จากนั้นมู่หรงฉียกมุมปากของเขาอย่างลำพองใจ ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มของเขาได้ “ข้าลืมไป ทุกวันนี้เจ้านอนอยู่บนเตียงของข้าจริงๆ”
เหลิ่งชิงฮวนตะคอกด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “หม่อมฉันคิดอยู่แล้วเชียว ที่พวกท่านสองคนจงใจให้ข้าออกไปที่อื่น ต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่”
“ข้าน่ะให้พี่ชายของเจ้าเตรียมตัวสำหรับการสอบอย่างสบายใจ ปล่อยให้เรื่องอื่นๆ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของข้าเอง นี่คือเรื่องไม่ดีงั้นหรือ”
นั่นหมายความว่ามู่หรงฉีรับปากแล้ว เหลิ่งชิงฮวนเปิดม่านอีกครั้งพลางพิงหน้าต่างรถ และวางคางไว้บนหลังมือ ขนตาหนาของนางเสมือนผีเสื้อหลากสีเกาะอยู่บนกิ่งไม้ในตอนเช้ากระพือปีกเบาๆ
“ยังมีความลับที่ตกลงกันไว้ ห้ามบอกใคร”
มู่หรงฉีคาดเดาสถานการณ์ของสองพี่น้องในจวนเสนาบดีได้บ้างแล้ว ทว่ายากที่จะพูดออกไป “พี่ชายของเจ้าให้ใช้ประโยคนี้...ท่ามกลางขุนเขาที่เต็มไปด้วยเมฆหมอก”
เหลิ่งชิงฮวนมองไปในระยะไกล ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ท่านพี่ของข้าสุขภาพไม่ค่อยดี ห่างเหินจากวิชาความรู้มานาน ไม่รู้ว่าจะสมดั่งใจปรารถนาหรือไม่”
เรื่องนี้ทำเอาเหลิ่งชิงฮวน อยากจะร้องไห้จริงๆ เห็นฉันเป็นอะไร กะหล่ำปลีชั้นดีของฉันถูกหมูป่าที่ไหนไม่รู้มาจากไหนบดขยี้ และยังกลายเป็นฝ่ายผิดมากที่สุดอีก ทว่ามุมมองของคนสมัยก่อนนี่ถือเป็นอาชญากรรมอันเลวร้าย เธอจะสวมบทภรรยามีชู้ให้กับราชสำนัก มู่หรงฉีปล่อยยอมปล่อยนางไปโดยไม่ถือสาเอาความ ช่างเถอะ แค่ยอมรับความพ่ายแพ้สักครั้งจะเป็นไรไป
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับตัวนางและมู่หรงฉีที่จะพูดคุยกันอย่างใจเย็น แค่เอ่ยปากพูดก็ต้องมีเรื่องทะเลาะกันทุกครั้ง
ฉันกำลังทำร้ายหล่อนงั้นเหรอ แม่ของเธอมาข่มเหงฉันเองแท้ๆ
“ถ้าอย่างนั้นอ๋องฉีโปรดบอกกับเหลิ่งชิงหลางด้วยว่านางจะทำอะไรก็ได้ในจวนอ๋อง แต่ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ตำหนักฉาวเทียนเป็นอาณาเขตของข้า โปรดอย่ารุกล้ำซึ่งกันแล้วกัน! อย่าให้นางมาหาเรื่องข้าที่ตำหนักฉาวเทียนอีก โชคดีที่วันนี้ข้าไม่สนใจเอาความ แต่คราวหน้าอาจไม่โชคดีอย่างนี้แน่นอน”
“พรึ่บ” ม่านรถถูกดึงลงอีกครั้ง
มู่หรงฉีตะคอกเบาๆ อย่างไม่พอใจเล็กน้อย “ตำหนักฉาวเทียนเป็นของข้า”
ไม่มีเสียงใดๆ ในรถม้า มู่หรงฉีเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามอีกครั้ง “เมื่อครู่พี่ชายของเจ้าบอกกับข้าว่าเจ้าน่ะไม่มีทักษะวิชาการแพทย์ แม้แต่การต้มยายังทำไม่เป็น”
เหลิ่งชิงฮวนสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อปรับอารมณ์ ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเล็กน้อย ทำให้ปฏิกิริยาของการตั้งครรภ์เกิดขึ้น น้ำรสเปรี้ยวดันขึ้นมาจากลำคอ นางกัดฟันแน่นไม่ให้ตัวเองอาเจียนออกมา
“คำถามนี้สำคัญด้วยหรือ”
“สำคัญมาก!”
มู่หรงฉีเป็นคนเจ้าระเบียบ เมื่อนึกถึงความสงสัยของเขาที่มีต่อเธอในโรงน้ำชาครั้งล่าสุด เขารู้สึกกระวนกระวายที่จะรู้คำตอบ หากเป็นอย่างที่เหลิ่งชิงเฮ่อพูดจริงๆ หลังจากที่นางรอดชีวิตจากภัยพิบัติ กลับมีจิตวิญญาณบางอย่างซึ่งอธิบายไม่ได้ และเรื่องยาปลุกกำหนัดที่เขาครุ่นคิดอยู่ในใจนั้นเป็นความเข้าใจผิด
เช่นนั้นยาปลุกกำหนัดในคืนฝนตกมีต้นกำเนิดจากที่อื่นหรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...