ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 699

สรุปบท ตอนที่ 699 สวามิภักดิ์ต่อฉางอัน: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

อ่านสรุป ตอนที่ 699 สวามิภักดิ์ต่อฉางอัน จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

บทที่ ตอนที่ 699 สวามิภักดิ์ต่อฉางอัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฉลิมพล อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ท้องฟ้าสว่างไสว

มู่หรงฉีเข้าวัง และเอาเรื่องนักรบมั่วเป่ยผู้กล้าซึ่งตั้งใจฆ่าปิดปากใต้เท้าหลู่ที่จับได้ตอนกลางคืนมากราบทูลต่อฮ่องเต้

ฮ่องเต้มีความสุขกับเรื่องไม่คาดฝันจริงๆ

ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองจริงๆ ปราบใต้เท้าหลู่ได้ แล้วยังลงโทษเกี่ยวกับความผิดขององค์ชายอันต๋าได้ด้วย

ฮ่องเต้ไม่มีอารมณ์เสด็จออกว่าราชการแล้ว เขารีบสั่งให้คนไปพาใต้เท้าหลู่เข้าวัง จากนั้นให้มู่หรงฉีพานักรบผู้กล้าไปยังห้องทรงพระอักษรของตนเองเพื่อเข้าสู่กระบวนการไต่สวน

นักรบผู้กล้าได้สติแล้ว แต่กลับไม่ได้เบาะแสอะไรที่เป็นประโยชน์จากเขาเลยสักนิด นอกจากเขาจะรู้ว่าคนที่สั่งให้ตนเองมาวางยาใต้เท้าหลู่คือองค์ชายอันต๋า เรื่องอื่นๆ เขาไม่รู้เลยสักอย่าง

หลังจากขายผ้าเอาหน้ารอด ก็รีบสั่งให้คนไปศาลาพักม้า และเชิญองค์ชายอันต๋ามาทันที

คนแรกที่เข้าวังคือใต้เท้าหลู่

ใต้เท้าหลู่ผ่านการล้างหน้าบ้วนปากอย่างง่ายๆ และเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาดเหมาะสมแล้ว ถึงแม้หน้าตาจะธรรมดา แต่ตอนเดินเหินกลับดูองอาจห้าวหาญ และดูมีมาดเล็กน้อย

ฮ่องเต้ปฏิบัติต่อเขาด้วยความกรุณาและน่าเกรงขาม

พอพบหน้ากัน อย่างแรกฮ่องเต้แสดงอำนาจด้วยการไต่สวนเขาว่าสมรู้ร่วมคิดกับเสด็จอารองเพื่อทำการซื้อขายปืนจริงหรือไม่

ใต้เท้าหลู่ยอมรับโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

จากนั้นถามอีกครั้ง เรื่องลักพาตัวเหลิ่งชิงฮวนและเรื่องที่ข้าปิดปากเชลยศึกมั่วเป่ย เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาทันที

ฮ่องเต้แสดงอำนาจด้วยการตบโต๊ะ “พวกเจ้ามั่วเป่ยไม่สนใจอำนาจฉางอันของข้า รังแกคนอื่นเกินไปแล้ว”

ซ้ำยังแสดงอำนาจว่าจะจับใต้เท้าหลู่ลงไปฟันทิ้ง เพื่อขู่ขวัญเขา ใต้เท้าหลู่เลยชิงยอมรับก่อน

เขากล่าวอย่างจริงใจว่า “ฝ่าบาท ข้าน้อยเลอะเลือนไปชั่วขณะหนึ่ง โดนคนบงการ จึงทำเรื่องมิควรพวกนี้ บัดนี้เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป ฝ่าบาทโปรดให้โอกาสข้าน้อยเปลี่ยนแปลง ข้าน้อยจะพูดทุอย่างที่ทราบออกมาให้หมดแน่นอน”

นี่เรียกว่าผู้รู้สถานการณ์ คือผู้มีปัญญาเป็นเลิศ

ฝ่าบาทอำพรางความตื่นเต้นดีใจบนใบหน้าหลังจากแผนการสำเร็จ “เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า เรื่องพวกนี้องค์ชายอันต๋าล้วนบงการให้เจ้าทำอย่างนั้นหรือ”

ใต้เท้าหลู่ผงกหัว “พ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วเรื่องที่อ๋องรองเลี้ยงดูและฝึกฝนทหาร พวกเจ้ารู้แค่ไหน”

ใต้เท้าหลู่กล่าวตามจริง “อ๋องรองเป็นคนที่ผู้ดูแลครอบครัวคนรองของตระกูลโฉวแนะนำให้ข้าน้อยรู้จัก และเสนอว่าต้องการระเบิดฟ้าคำรณกับปืนที่พวกเรามั่วเป่ยสร้างจำนวนหนึ่ง พอกษัตริย์มั่วเป่ยได้ยินคนอื่นยุแยง ด้วยความชราและโง่เขลา รักษาผืนแผ่นดินให้สงบสุขได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น จึงไม่สนใจเรื่องสร้างอาวุธสงคราม ส่วนองค์ชายอันต๋าแสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่จนทำให้องค์ชายมั่วเป่ยหลายพระองค์ริษยา”

“ดังนั้น ข้ากับองค์ชายอันต๋าเลยหารือกันว่าจะใช้ปืนล้าหลังจำนวนหนึ่งแลกกับตำลึงเงินจำนวนมากของอ๋องรอง จากนั้นก็สามารถใช้ตำลึงเงินพวกนี้หลอมอาวุธสงครามที่ทันสมัยขึ้นเป็นการส่วนตัว ด้วยเหตุนี้จึงตอบรับการเจรจาซื้อขายนี้ ส่วนสถานการณ์ของเสด็จอารอง พวกเราทราบน้อยมาก ตอนแรกไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของเขาด้วยซ้ำ ต่อมาอ๋องฉีทำการตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นชัดเจนแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูด”

“เช่นนั้นคนที่สมรู้ร่วมคิดสังหารเชลยศึกมั่วเป่ยกับพวกเจ้าเป็นใคร” ฮ่องเต้ซักถามต่อ

“เป็นคนของเสด็จอารองเช่นกัน แซ่เหอ คนอื่นจะเรียกเขาว่าหัวหน้าเหอ พวกเราคิดอะไรไม่ออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาเลยเป็นฝ่ายติดต่อพวกเรามา แต่ว่าคราวนี้ เขาข้ามผ่านข้า และไปหาองค์ชายอันต๋าโดยตรง”

“แล้วปืนที่มั่วเป่ยเก็บเอาไว้ที่เหอซีในตอนแรกล่ะ ตอนนี้มันอยู่ที่ไหนเจ้าคงจะรู้ตลอดสินะ”

“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”” ใต้เท้าหลู่ส่ายหน้า “เพราะว่าปืนจำนวนนั้นบัดนี้มิได้อยู่ในมือของพวกเราแล้ว”

“หมายความว่าอย่างไร”

“องค์ชายอันต๋าสมรู้ร่วมคิดกับหัวหน้าเหอ หัวหน้าเหอรับผิดชอบฆ่าปิดปากเชลยศึกมั่วเป่ย ส่วนค่าตอบแทน ก็คือปืนกับระเบิดฟ้าคำรณพวกนั้น หลังจากพวกเขาทำสำเร็จ ก็เปลี่ยนเจ้าของ ตกอยู่ในมือของหัวหน้าเหอแล้ว”

“สำหรับความสามารถของใต้เท้าหลู่ ข้าได้ยินมานานแล้ว ความสามารถของท่านไม่ควรกลบฝังอยู่ที่มั่วเป่ย เจ้าควรจะมีสถานที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้นที่สามารถแสดงความทะเยอทะยานของตนเองออกมาได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถปรับแก้บันทึกประวัติศาสตร์ และเพิ่มหมึกสีเข้มด้านบนได้”

ใต้เท้าหลู่ได้ยินก็ดีใจใหญ่ จึงคุกเข่าแสดงความเคารพ “ขอบพระทัยที่ฝ่าบาทชื่นชม หากฝ่าบาทไม่รังเกียจ ข้าน้อยยินดีสวามิภักดิ์ต่อฝ่าบาท จะจงรักภักดีจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

ฮ่องเต้พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ใต้เท้าหลู่ยังคงเป็นม้าพันธุ์ดี ข้ายินดีจะเป็นปั๋วเล่อของเจ้า ให้โอกาสเจ้าแสดงความชำนาญออกมา! ฉางอันเป็นสถานที่ที่เจ้าจะก้าวหน้า!”

ใต้เท้าหลู่ทำหน้าซาบซึ้ง “ข้าน้อยยอมเป็นม้ารับใช้ท่าน แต่ว่าทางมั่วเป่ยคงจะไม่ยอมวางมือแน่ ความปลอดภัยของข้าน้อยเกรงว่าจะรับประกันไม่ได้เป็นการชั่วคราว”

“จริงด้วย”

ใต้เท้าหลู่ชำเลืองมองมู่หรงฉีที่เงียบมาตลอดทางด้านข้าง “เป็นพระกรุณาที่ข้าน้อยได้รับการรักษาจากพระชายาฉี รู้สึกซาบซึ้งยิ่ง หวังว่าจะได้แสดงการขอโทษต่อหน้าพระชายาฉี และละทิ้งความเคียดแค้นก่อนหน้านี้ หากอ๋องฉีไม่รังเกียจ ข้าน้อยอยากเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องฉี จะได้สะดวกแก่การดูแลร่างกายเล็กน้อย”

ฮ่องเต้ยังไม่ทันแสดงความคิดเห็น มู่หรงฉีก็ปฏิเสธ “ช่วงนี้ภายในค่ายทหารงานยุ่งมาก ลูกไม่กลับบ้านตอนกลางคืนบ่อยๆ ประกอบกับชิงฮวนกำลังตั้งครรภ์ ทำงานหนักไม่สะดวก”

ฮ่องเต้เข้าใจความแหลมคมระหว่างการโต้ตอบของทั้งสองคน

ใต้เท้าหลู่กลัวมู่หรงฉีเพราะว่าความแค้นส่วนตัว หากแอบกระทำอะไรอยู่เบื้องหลังอีก จะเป็นภัยต่อชีวิตของตนเอง ดังนั้นเลยเป็นฝ่ายขอเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องฉี

ส่วนมู่หรงฉีกังวลว่าใต้เท้าหลู่จะเป็นอันตรายต่อชิงฮวนเลยไม่ตบตกลง

หากเป็นตามปกติ ฮ่องเต้คงจะตอบตกลงทันที แต่ตอนนี้ชิงฮวนกำลังตั้งครรภ์ ท้องหลานของตนเองอยู่ ทำให้ชิงฮวนโกรธ ก็ถือว่าทำให้หลานของตนเองโกรธ เช่นนั้นคงไม่ได้

ฮ่องเต้เลยปฏิเสธอย่างนุ่มนวล

“ข้าจะรีบประทานจวน และส่งกองกำลังทหารไปคุ้มครองความปลอดภัยของใต้เท้าหลู่ แต่ว่ายังต้องใช้เวลาซ่อมแซมจวนอีกสองสามวัน สองวันนี้อยู่ที่จวนอ๋องฉีไปก่อนเถอะ ฉีเอ๋อร์ เจ้าเห็นอย่างไร”

แน่นอนว่าไม่เห็นด้วย แต่พระราชโองการของฮ่องเต้ ใครจะกล้าขัดขืน มู่หรงฉีพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “ลูกเคารพความประสงค์ของเสด็จพ่อ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา