ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 698

สรุปบท ตอนที่ 698 ความเป็นมาที่แท้จริงของพระชายาฉี: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

อ่านสรุป ตอนที่ 698 ความเป็นมาที่แท้จริงของพระชายาฉี จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

บทที่ ตอนที่ 698 ความเป็นมาที่แท้จริงของพระชายาฉี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เฉลิมพล อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ใต้เท้าหลู่ทำเสียงไม่พอใจ “ก่อนที่ข้าจะแอบเข้ามาฉางอันเพื่อลักพาตัวพระชายาฉี เขาก็เกิดความคิดที่สังหารข้าแล้ว แอบสมรู้ร่วมคิดกับหัวหน้าเหอที่อยู่ข้างกายเสด็จอารอง ไม่ว่าสุดท้ายจะประสบความสำเร็จหรือว่าล้มเหลว ก็จะไม่มีทางปล่อยให้ข้าตกไปอยู่ในมือของพวกท่านอย่างปลอดภัย เพื่อที่ลับความของเขาจะได้ไม่หลุดออกไหล”

“สุดท้ายภายในเตาเผาเครื่องเคลือบ พระชายาฉียุแยงให้ข้ากับหัวหน้าเหอโกรธกัน และข้ามีจิตในที่ระมัดระวังต่อเขาอยู่แล้ว หลังหลบหนีออกไปจากเมืองหลวง เขาก็แอบลงมือกับข้า ข้าเข้าใจผิดคิดว่าเขาทำเพื่อแหวนนาโน เลยถือโอกาสแผนซ้อนแผน โดยแกล้งดื่มเหล้าผสมยาพิษที่เขาส่งมาให้ข้า จากนั้นแกล้งทำเป็นถูกพิษ”

“เขาไม่เคยสงสัยเลย คิดว่าทำสำเร็จ บอกข้าอย่างภาคภูมิว่าข้ากำลังจะกลายเป็นคนตายที่ยังมีชีวิต พูดไม่ได้ เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ จากนั้นองค์ชายอันต๋าถึงจะมอบข้าให้แก่ฉางอันอย่างสบายใจ”

“ตอนนี้ข้าเพิ่งจะรู้ว่าพวกเขาสมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้ว และข้ากลายเป็นคนที่ถูกทอดทิ้ง ตอนนั้นข้าไม่มีทางโต้ตอบ เพราะว่าในบรรดาคนสนิทที่ข้างพามาด้วย นึกไม่ถึงว่าส่วนมากจะเป็นสายสืบที่องค์ชายอันต๋าสอดแทรกเข้ามา ตอนนั้นพวกเขาช่วยเหลือศัตรูต่อต้านตนเอง และข้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะหลบหนี”

“ภายใต้ความจนปัญญา ข้าทำได้เพียงแสร้งทำเป็นพิษออกฤทธิ์ ปลอมตัวเป็นคนตายที่ยังมีชีวิตที่เป็นโรคอัมพาตครึ่งซีก คนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิง ไม่ว่าอย่างไรสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ หลังจากมาถึงเมืองหลวงก็เห็นโอกาสลงมือ”

“ก็แบบนี้แหละ ข้ากลับไปยังข้างกายองค์ชายอันต๋าอีกครั้ง เขาเคยทดสอบข้าทุกวิถีทาง เช่นเดียวกับการแสดงในวันนี้มันไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะต้องอธิบายกับฉางอันหากไม่ใช่เพราะข้าอดทนในสิ่งที่คนทั่วไปทนไม่ได้ เกรงว่าชีวิตน้อยๆ ของข้าคงจะจบสิ้นไปนานแล้ว”

หัวหน้าเหอที่เขาเอ่ยถึง คงจะเป็นคนคลุมหน้านิ้วขาดที่เป็นลูกน้องของเสด็จอารอง

“เจ้าอยากยอมจำนนต่อฉางอันหรือ” มู่หรงฉีถาม

“ข้าสามารถใช้เวลาหนึ่งปี ทำให้อาวุธและอุปกรณ์ของฉางอันเหนือกว่ามั่วเป่ย และโลกหล้าจะไร้ความกังวล ถ้าหากอ๋องฉียอมเปลี่ยนสงครามให้กลายเป็นสันติภาพกับข้า ข้าสามารถช่วยท่านยึดครองโลกหล้า สังคมสงบสุขยาวนาน”

“เช่นนั้นหลังจากเจ้าหลบหนีมาจากเงื้อมมือขององค์ชายอันต๋า ก็สามารถเลิกปลอมตัวได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นบอกให้คนไปกราบทูลฝ่าบาท เหตุใดยังต้องแกล้งทำแบบนี้ให้เปลืองแรงด้วย”

“ความเป็นความตายนั้นสำคัญยิ่ง ท่านคิดว่าข้าจะเชื่อหมอหลวงพวกนี้หรือ ใครจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนหรือผี”

มู่หรงฉีเข้าใจความหมายแฝงในคำพูดของเขา ฉางอันมีคนลอบติดต่อกับมั่วเป่ย ซึ่งมันชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย ใต้เท้าหลู่กลัวว่าตัวเองเผยความลับออกมาอย่างบุ่มบ่าม อีกฝ่ายจะฆ่าปิดปาก

ดังนั้น เขาเลยไม่กล้าเสี่ยง

“องค์ชายอันต๋าฆ่าเจ้า นึกไม่ถึงว่าเพื่อวิธีการสร้างอาวุธปืน ยังกลัวว่าจะโดนผลกระทบไปด้วยอย่างนั้นหรือ”

ใต้เท้าหลู่หัวเราะ ‘เหอะเหอะ’ “ล้วนใช่ และล้วนไม่ใช่ ท่านกำลังลอบเอาคำให้การของข้า”

“ตอนนี้มั่วเป่ยไม่มีสถานที่ให้เจ้าอยู่อาศัยแล้ว ถ้าหากเจ้าอยากสวามิภักดิ์ต่อฉางอัน ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจออกมาสักหน่อย”

“ท่านอยากรู้ว่าหนอนบ่อนไส้ที่สมรู้ร่วมคิดกับมั่วเป่ยเป็นใครใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่คนของเสด็จอารองหรือ”

“เช่นนั้นท่านไม่อยากรู้หรือว่าตอนนี้กากเดนของเสด็จอารองอยู่ไหนและมีแผนการร้ายอะไร”

มู่หรงฉีผงกหัว “ทำให้คนค่อนข้างเปลืองแรงจริงๆ”

“เรื่องนี้มีแต่ข้าได้พบกับฝ่าบาทของแคว้นท่าน แล้วจะบอกอย่างตรงไปตรงมาแน่นอน”

“หากข้าบอกว่า ข้าไม่อยากไว้ชีวิตเจ้าล่ะ”

“มันสายไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าข้าปลอดภัยดี ท่านฆ่าข้าไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบความทะเยอทะยานอันร้อนแรงที่จะยึดครองโลกหล้ากับบุญคุณความแค้นอันเล็กน้อยระหว่างพวกเราแล้ว คงจะนับอะไรไม่ได้กระมัง”

มู่หรงฉีเผชิญหน้ากับสิ่งยั่วยวนใจอันยิ่งใหญ่แบบนี้ กลับพูดออกมาทันทีว่า “ยึดครองโลกหล้าอย่างนั้นหรือ ข้าไม่สนใจเลย”

“หากท่านไม่มีความทะเยอทะยานเช่นนี้ ท่านจะจัดคนมาสอดแนมข้างกายข้าทำไม”

“ต้องพึงระวังคนคิดร้ายต่อตนเอง ห้าปีก่อนหลังจากพวกเจ้าไปจากฉางอัน ชิงฮวนบอกข้าว่า ใต้เท้าหลู่ไม่ธรรมดา ต้องระมัดระวัง ตอนนั้นข้าเลยส่งกำลังคนไปซุ่มอยู่ในมั่วเป่ย เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ของเจ้า”

เรื่องที่ใต้เท้าหลู่พูดออกมา ตนเองเคยสงสัยมาก่อน แถมยังสงสัยอย่างลึกซึ้ง แต่ชิงฮวนล้วนมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล

หรือว่ายังมีสาเหตุอื่น ใต้เท้าหลู่ทราบได้อย่างไร ในนั้นยังมีความลับอะไรที่บอกให้คนรู้ไม่ได้

เขาเม้มริมฝีปากบางและขมวดคิ้วอันเรียวยาวแน่น ทำให้ใบหน้าของเขาเด็ดเดี่ยวขึ้นอย่างชัดเจน และมีความโกรธเคืองเล็กน้อย

เขาไม่พูดอะไร ทำให้ใต้เท้าหลู่ภาคภูมิใจเล็กน้อย “ขอเพียงท่านคุ้มครองข้าไปถึงเบื้องหน้าฮ่องเต้ของแคว้นท่าน รับรองประกันว่าชีวิตของข้าไร้ความกังวล แล้วข้าจะบอกท่านเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงและความเป็นมาของภรรยาท่าน”

มู่หรงฉีมองเขา ดวงตาทั้งสองเย็นชา ไม่มีอุณหภูมิเลยสักนิด

ภายใต้สายตาที่จับจ้องของเขา ใต้เท้าหลู่เกิดขี้ขลาดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ความโกรธของผู้มีอำนาจแสนสูงส่งที่เกิดมาเพียบพร้อม ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะแบกรับได้ ยิ่งไปกว่านั้น บนร่างกายของเขายังมีกลิ่นอายของการฆ่าฟันที่สะสมจากสนามรบมาอย่างยาวนาน

ทั่วทั้งร่างกาย เหมือนกับดาบเลื่องชื่อที่เพิ่งจะชักออกมา สุภาพเยือกเย็น สูงศักดิ์ และกลิ่นอายความดุร้ายหนาวเข้ากระดูก

เขาหลบสายตาอย่างลุกลี้ลุกลน ไม่กล้ามองตรง

มู่หรงฉีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่ว่านางจะมีสถานะหรือว่าความเป็นมาอย่างไร นางย่อมเป็นพระชายาฉีของข้า เจ้าคิดจะเอาสิ่งนี้มาเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน เกรงว่าเจ้าจะคิดมากไปแล้ว”

ใต้เท้าหลู่ทราบดีว่าตนเองพูดผิดไป และปลุกความอยากฆ่าของบุรุษคนนี้ขึ้นมาแล้ว จึงรีบหยุดหัวข้อสนทนาทันที

“ไม่ใช่เงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่มีเพียงฝ่าบาทของแคว้นท่านยอมรับการเข้าสวามิภักดิ์ของข้าเท่านั้น จึงจะรับประกันความปลอดภัยของข้าได้ ข้าถึงจะไม่กังวล และรายงานเรื่องทั้งหมดที่ข้ารู้กับพวกท่านตามความเป็นจริง มิฉะนั้น ข้าจะไม่พูดอะไรสักคำ”

มู่หรงฉีกัดฟันแน่น ความหนาวเย็นภายในลูกตากระจายออกไป “ให้เจ้าพบฝ่าบาทได้ แต่ถ้าเจ้าพูดมั่วซั่วและใส่ร้ายชิงฮวนแม้แต่คำเดียว ถึงแม้เสด็จพ่อของข้าจะอภัยโทษแก่เจ้า แต่ข้ายังมีวิธีการมากมายในการฆ่าเจ้า!”

ใต้เท้าหลู่รับปากอย่างรวดเร็วว่า “แน่นอนอยู่แล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา