ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 697

สรุปบท ตอนที่ 697 ความประหลาดใจที่คาดไม่ถึง: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

สรุปตอน ตอนที่ 697 ความประหลาดใจที่คาดไม่ถึง – จากเรื่อง ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล

ตอน ตอนที่ 697 ความประหลาดใจที่คาดไม่ถึง ของนิยายนิยาย โรแมนติคเรื่องดัง ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดยนักเขียน เฉลิมพล เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

สถาบันแพทย์หลวง

ทนเจ็บปวดทรมานมามากมาย ใต้เท้าหลู่ที่ตายยังดีกว่ามีชีวิตอยู่รอจนพวกหมอหลวงกลับบ้านไปหาภรรยาและลูกๆ ตนเองถึงจะโล่งอกได้ในที่สุด

เขานอนอยู่บนเตียง ลืมตามองม่านด้านบนสุด ลูกตาไม่เคลื่อนไหว

ตอนนี้เป็นเวลาดึกแล้ว

พวกหมอหลวงที่ผลัดกันเข้าเวรล้วนหยุดพักกันหมดแล้ว เสียงฝีเท้าขององครักษ์ที่ลาดตระเวนอยู่นอกห้องชัดเจนมากในค่ำคืนที่เงียบสงัด

มีคนฉวยโอกาสตอนที่คุ้มครองความปลอดภัยในยามราตรี แอบเข้าใกล้จากบนสันหลังคา รวดเร็วเหมือนกับแมวเสือดาว และเบาเหมือนกับใยฝ้าย องครักษ์ตรงประตูไม่รู้อะไรเลย โอบหอกเงินเอาไว้ในอ้อมแขน และสัปหงกเหมือนกับหัวของลูกไก่จิกข้าวอย่างต่อเนื่อง

ผู้มาเยือนหมอบตัวลงบนสันหลังคา มือถือกระบอกไม้ไผ่ ยกไปทางองครักษ์ตรงประตู จากนั้นเบาเบาๆ ควันเบาบางค่อยๆ กระจายออกไป

องครักษ์ตามเชิงกำแพงไถลตัวพิงกำแพงอย่างช้าๆ เสียงกรนดังขึ้นมาทันที

คนชุดดำลงมาบนพื้นอย่างกระฉับกระเฉง จับหอกเงินที่ร่วงลงมาอย่างช้าๆ เอาไว้ จากนั้นวางไว้ตรงเท้าขององครักษ์ เดินอ้อมเขา และผลักประตูเข้าไป

มีเงาดำอันแข็งแรงอีกร่างหนึ่งพลิกตัวอยู่บนสันหลังคา หมอบอยู่ตรงหลังคาที่กระเบื้องเคลือบเปิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ติดอาวุธลับเอาไว้ในมือ และเตรียมพร้อมโจมตี

เปลวเทียนตรงหัวเตียงของใต้เท้าหลู่สั่นไหว

คนชุดดำปิดประตูทางด้านหลังอย่างระมัดระวัง เดินไปตรงหน้าใต้เท้าหลู่อย่างแผ่วเบา แล้วเอายาเม็ดออกมาจากอ้อมอก

ใต้เท้าหลู่เบิกตาอย่างหวาดกลัว กำลังจะร้อง ‘ฮือฮือ’ ก็ถูกปิดปากปิดจมูกแน่นสนิทเสียแล้ว

อีกฝ่ายกล่าวเบาๆ ว่า “ขอโทษด้วยนะใต้เท้าหลู่ องค์ชายรับสั่งว่าเก็บเจ้าเอาไว้ก็เป็นหายนะ จึงสั่งให้ข้ามาทำให้เจ้าหลุดพ้นจากนรกแห่งความทุกข์ เจ้าอย่าโทษว่าองค์ชายจิตใจโหดร้ายเลย ดูท่าทางฮ่องเต้แห่งฉางอันจะให้ความสำคัญกับเจ้ามาก กลัวว่าจะอยากได้วิธีการสร้างปืนนี้ ทั้งยังส่งเหลิ่งชิงฮวนมารักษาเจ้า หากแก้พิษในร่างกายของเจ้าได้ คงจะท่าไม่ดีแล้ว”

ใต้เท้าหลู่พยายามส่ายหน้า แขนขาปัดไปปัดมาตลอดเวลา

คนคลุมหน้าหัวเราะเยาะ “เจ้าไม่ต้องดิ้นแล้ว มันไม่มีประโยชน์ พิษนี้รุนแรงมาก ไม่มีทางเจ็บปวด วางยาพิษเจ้าตายแล้ว จะได้ปัดความผิดไปที่เหลิ่งชิงฮวนพอดี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”

พูดจบก็บีบคางของเขาและออกแรงทันที ใต้เท้าหลู่โดนบีบบังคับให้อ้าปาก ยาเม็ดนั้นถลันเข้าไปในปากของเขา จากนั้นคนคลุมหน้าก็ปิดปากของเขาแน่นสนิทอีกครั้ง

คนบนสันหลังคารอจังหวะอยู่ตลอดเวลา พอเห็นสถานการณ์น่าตกใจ ก็ปล่อยอาวุธลับภายในมือออกไปอย่างรวดเร็ว

ใต้เท้าหลู่ซึ่งเดิมทีขยับตัวไม่ได้เหมือนกับลูกแกะที่กำลังจะถูกเชือดสามารถขยับตัวได้แล้ว จับข้อมือของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว จากนั้นออกแรงพลิกมือ พอดึงมือที่เขาปิดปากตนเองเอาไว้ออกแล้ว ก็คายยาเม็ดในปากที่ยังไม่ทันละอายออกมา และพยายามถ่มน้ำลายอย่างสุดแรง

คนคลุมหน้าประหลาดใจมาก “เจ้าเสแสร้งหรือนี่ ท่านประมุขลองทดสอบเจ้ามาหลายครั้ง นึกไม่ถึงว่าจะไม่สังเกตเห็น เช่นนั้นยิ่งเก็บเอาไว้ไม่ได้ ตายซะเถอะ!”

ดึงกริชออกมาจากเอวอย่างไม่ลังเล แล้วพุ่งไปทางใต้เท้าหลู่อย่างดุร้าย

ใต้เท้าหลู่ที่อยู่บนเตียงออกแรงกลิ้งไปข้างๆ เผชิญหน้ากับการจู่โจมของอีกฝ่าย รู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ จึงส่งเสียงร้องด้วยความว่า “เข้ามาที!”

ตั้งแต่คนคลุมหน้าเข้าไปในสำนักหมอหลวง มู่หรงฉีก็ได้รับข่าวแล้ว จึงติดตามและซ่อนอยู่บนสันหลังคา อาวุธลับภายในมือหยุดชะงักกลางอากาศ

ใต้เท้าหลู่ทำให้เขาประหลาดใจมากจริงๆ

เห็นได้ชัดว่าโรคอัมพาตครึ่งซีกของเขานั่นเป็นการเสแสร้ง เหลิ่งชิงฮวนทรมานเขาแบบนี้ นึกไม่ถึงว่าเขายังจะเสแสร้งตบตาทั้งสองคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต้องบอกว่าความปรารถนาที่อยากจะอยู่รอดกับจิตใจอันแน่วแน่ที่รุนแรงนี้มันช่างร้ายกาจเสียจริงๆ

การพัฒนาของเรื่องราวตรงกันข้ามกับแผนการของเขาและเหลิ่งชิงฮวน วันนี้เกรงว่าใต้เท้าหลู่คงจะไม่ตายแล้ว องครักษ์ทางด้านนอกได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขาแล้ว จึงบุกเข้ามาอย่างเสียงดัง

มู่หรงฉียังลังเลใจว่าจะฉวยโอกาสสังหารใต้เท้าหลู่ไปซะหรือว่าจะไว้ชีวิตเขาดี

องครักษ์รับคำสั่ง และนำนักรบมั่วเป่ยผู้กล้าออกไป

เสียงปืนติดต่อกันสามนัด ทำให้หมอหลวงที่เข้าเวรอยู่ในสำนักหมอหลวงตกใจ และเข้ามาดูฉากคึกคัก

พอเห็นใต้เท้าหลู่ไม่เพียงแต่เดินได้คล่องแคล่ว แต่ยังออกเสียงได้อย่างชัดเจน ไม่มีอุปสรรคในการพูดจาเลย จึงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาจากใจว่า “พระชายาฉีเป็นคนเลิศล้ำจริงๆ!”

“ใช่เลย โรครักษายากเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะไม่คณามือ สามสี่วันก็หายดีเหมือนเดิม เหมือนหวาถัวยังมีชีวิตอยู่บนโลก เทพเซียนลงมาเกิดเป็นมนุษย์จริงๆ”

เรื่องนี้ มู่หรงฉีไม่มีทางอธิบายและกล่าวปฏิเสธ พวกเขายอมเข้าใจผิดอย่างไรก็เข้าใจผิดอย่างนั้นเถอะ เดิมทีชิงฮวนก็เป็นเทพเซียนลงมาเกิดอยู่แล้ว

สั่งให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องถอยออกไป มู่หรงฉีถึงจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับใต้เท้าหลู่ “ใต้เท้าหลู่แสดงละครเก่งจริงๆ สมบูรณ์แบบมาก”

ใต้เท้าหลู่ไม่เสแสร้งแล้ว “อ๋องฉีแผนการยอดเยี่ยมจริงๆ ตั๊กแตนตำข้าวกำลังจะจับจักจั่นกินเป็นอาหาร หารู้ไม่ว่าข้างหลังยังมีนกกระจอกเหลืองคอยจับจ้องจิกกินอยู่ กางตาข่ายรอไม่เพียงพอที่จะบรรยายความปลิ้นปล้อนของท่านได้แล้ว ควรจะเป็นแผนซ้อนแผน ล่องูออกถ้ำกระมัง”

มู่หรงฉีแกล้งทำเป็นสับสน “องค์ชายอันต๋าจะฆ่าปิดปากเจ้าเป็นเพียงการคาดการ ข้าไม่จำเป็นต้องวางแผน แต่ว่าใต้เท้าหลู่ทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ”

ใต้เท้าหลู่หมุนคออันแข็งทื่อไปรอบๆ อย่างช้าๆ มันลำบากเล็กน้อย

“ข้าฝ่าอันตรายเพื่อเขามาหลายปีขนาดนี้ ช่วยเขาสร้างผลงานในสนามรบ นึกไม่ถึงว่าจะหนีความตายไม่พ้น ต้องแสร้งทำเป็นบ้าเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้”

“องค์ชายอันต๋าลงมือกับเจ้าหรือ”

“ถ้าไม่อย่างนั้นเล่า” ใต้เท้าหลู่ทำเสียงไม่พอใจ “ต้องโทษที่ข้าไร้เดียงสา หลังจากหนีไปจากฉางอัน คิดว่าเขาจะคิดหาวิธีรักษาชีวิตของข้าเอาไว้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะคิดแผนร้ายเช่นนี้ออกมา”

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมตัวมานานแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา