ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 71

จือชิวนำชุดร่ายรำเข้ามา ในที่สุด เหลิ่งชิงหลางที่กว่าจะได้รับความโปรดปรานจากมู่หรงฉีอดไม่ได้ที่จะปฏิเสธ นางเดินออกไปเหมือนต้นหลิวในสายลมเข้าไปในห้องด้านในเพื่อแต่งหน้าพลางยิ้มอย่างเขินอาย

จือชิวนั่งอยู่ที่ด้านล่างของมู่หรงฉี วางพิณไว้บนตักของเขา ก่อนจะใช้นิ้วดีดอย่างแผ่วเบา เสียงใสของพิณอันไพเราะดังขึ้นราวกับลูกปัดที่หล่นลงบนแผ่นหยก

เหลิ่งชิงหลางยกแขนเสื้อขึ้นและบิดเอวไปตามเสียงเพลง สง่างามราวกับต้นไม้ในสายน้ำ ยืดหยุ่นราวกับใบหญ้าในทุ่งกว้าง แสดงท่วงท่าที่มีเสน่ห์ของนางอย่างเต็มที่

มู่หรงฉีไม่สนใจเรื่องเหล่านี้มากนัก มันไม่สนุกเท่ากับการฝึกทหารในสนาม แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะปฏิเสธความสง่างามตรงหน้า ริมฝีปากของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อย บางครั้งดวงตาของเขาก็เหลือบไปมองยังจือชิวที่อยู่ด้านข้าง

เหลิ่งชิงหลางเต้นอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย บางครั้งแอบมองออกไปเห็นว่าใบหน้าของจือชิวนั้นเคลิบเคลิ้ม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหลงใหล ท่วงท่าในการดีดพิณนั้นเลียนแบบเสน่ห์ของนางชัดๆ เล่นหูเล่นตาแบบนี้เหมือนสาวใช้ตรงไหนกัน

หล่อนปล่อยให้นางโชว์การแสดงต่อหน้ามู่หรงฉีที่ไหน เห็นได้ชัดว่าหล่อนกำลังฉวยโอกาสแย่งซีนเสียมากกว่า ดวงตาของแม่จ้าวแหลมคมยิ่งนัก

นางแอบสงสัยในพฤติกรรมหลายอย่างมานาน เมื่อเห็นจือชิวในทุกการกระทำ นั่นทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายต้องมีแรงจูงใจซ่อนเร้น

ขณะที่ร่ายรำ นางครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่งทำให้เหม่อลอยและก้าวเท้าพลาด เหยียบชายกระโปรงตนเองจนไปข้างหน้าสองก้าว ทำให้เกิดเสียงดัง “แควก!” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเสียงของเสื้อผ้าถูกฉีก

นางยกมือขึ้นจับด้วยความอับอาย ก่อนจะเห็นแสงสว่างที่หลังและรูยาวหลายนิ้วก็แยกออก

ข้าเย็บชุดนี้ด้วยตัวเองแท้ๆ เคยใสแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ด้วยความกลัวว่าเอวจะไม่กระชับจึงต้องเย็บทับอีก 2 เข็ม แล้วมันจะขาดออกจากกันได้อย่างไร เนื่องจากเอื้อมมือไปปิดด้านหลังด้วยความตื่นตระหนก ทำให้ร่างกายของนางเสียการทรงตัว ข้อเท้าบิดและล้มลงสู่พื้นทันที

เสียงพิณหยุดกะทันหัน จือชิวผลักพิณบนตักออกและก้าวไปข้างหน้า “คุณหนู ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่เจ้าคะ”

ใบหน้าเหลิ่งชิงหลางแดงก่ำ นางมองไปที่มู่หรงฉีและพูดด้วยความลำบากใจ “หม่อมฉันทำขายขี้หน้าแท้ๆ ฉันเหม่อลอยไปชั่วขณะทำให้ก้าวผิด น่าอายจริงๆ เจ้าค่ะ”

จือชิวพยุงนางขึ้นก่อนจะเดินกะโผลกกะเผลกไปที่เก้าอี้

มู่หรงฉีลุกขึ้นและเดินไปหา “วันนี้ร่างกายของเจ้าไม่ค่อยดี เป็นเพราะความประมาทของข้าเองที่ให้เจ้าร่ายรำ เจ้าข้อเท้าแพลงหรือไม่”

เหลิ่งชิงหลางนึกถึงปฏิกิริยาของมู่หรงฉีตอนที่เท้าของนางได้รับบาดเจ็บเมื่อครั้งก่อน และรีบดึงขากลับทันที “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ หม่อมฉันมียาทาเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตอยู่ กำจัดเลือดชะงักงัน ข้าจะให้จือชิวทาให้ในภายหลัง”

เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของนางยับเยิน สีหน้ามู่หรงฉีดูไม่ดีนักก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเจ้าอย่าเดินไปมา พักผ่อนให้มาก ข้าจะไปเชิญหาที่จวนของแม่ทัพอวี๋มาดูอาการของเจ้าเสียหน่อย อย่าให้บาดเจ็บไปถึงกระดูกเลย”

เหลิ่งชิงหลางรู้สึกไม่เต็มใจ ไม่อยากให้เนื้อที่อยู่ในปากจากไปง่ายๆ เช่นนี้ ทว่าความเจ็บปวดที่ข้อเท้ารุนแรงมากจึงได้แต่กัดฟันพูดว่า “ก็ดีเจ้าค่ะ”

มู่หรงฉีกำชับจือชิวสองสามคำ จากนั้นหันหลังกลับและออกจากเรือนจื่อเถิงไป

เหลิ่งชิงหลางกัดฟันร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด

จือชิวช่วยพยุงนางเข้าไปในห้องด้านหลังอย่างระมัดระวัง

หลังจากนั้นไม่นานหมอประจำตระกูลก็เข้ามาและสั่งพลาสเตอร์สีดำ 2 แผ่นและแอลกอฮอลล์ สำหรับรักษารอยฟกช้ำ 1 ขวด โดยขอให้จือชิวติดตามเขาเพื่อไปเอามัน

แม่จ้าวเข้ามาพร้อมกะละมังน้ำชุบผ้าห่อด้วยก้อนน้ำแข็ง เพื่อให้เหลิ่งชิงหลางประคบ

เหลิ่งชิงหลางถือชุดร่ายรำที่เปลี่ยนใหม่ ตรวจสอบสถานที่ขาดอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่งและถามขึ้นในที่สุด “แม่จ้าว ช่วยหาคนที่เหมาะสมให้กับจือชิวเถิด”

แม่จ้าวไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง นางเพียงเหล่มองชุดร่ายรำที่เห็นได้ชัดว่าถูกดัดแปลงพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก “ฮูหยินตัดสินใจดีแล้วหรือ”

เหลิ่งชิงหลางพยักหน้า “พูดตามตรง ข้าเองไม่อยากทำหากไม่จำเป็น จือชิวเป็นเด็กสาวเฉลียวฉลาด มีความทะเยอทะยาน นางต้องการปีนขึ้นไปอยู่จุดที่สูงกว่านี้ อย่างน้อยข้าต้องได้รับการโปรดปรานจากท่านอ๋องและเอาชนะเหลิ่งชิงฮวนให้ได้

ดังนั้นนางจึงช่วยข้าโดยไม่ต้องพยายาม ข้ากังวลว่าถ้านางแต่งงานไปแล้วคงล้มเลิกความคิดนั้น และมันก็จะดีต่อข้าอีกด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา