พอส่งฮ่องเต้แล้ว ขุนนางที่รอรออยู่ด้านนอกจวนอ๋องเซวียนก็ทยอยกลับไป
ตอนนี้อ๋องเซวียนถึงจะฟื้นขึ้นมา ท่าทางสะลึมสะลือ พอเห็นมู่หรงฉีและคนอื่นๆ อยู่ครบ จึงพยายามลุกขึ้น ดูถ่อมตนมาก
“ทำไมถึงรบกวนพวกเจ้ามากันหมดเล่า ข้าแค่เวียนหัว ไม่ได้ร้ายแรง พี่สะใภ้ของพวกเจ้าตกใจเกินเหตุใช่หรือไม่”
เหล่าพี่น้องต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครใจแข็งพอที่จะบอกเรื่องไม่คาดฝันนี้กับอ๋องเซวียน
เห็นท่าทางเขาแล้ว ดุเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
อ๋องเซวียนเห็นสีหน้าของทุกคนแปลกประหลาด จึงแปลกใจเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น โอ๊ย ทำไมแขนของข้าถึงบาดเจ็บล่ะ”
ไม่มีใครเอ่ยปาก และเคลื่อนสายตาไปทางอื่นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ชิงฮวนยิ้มอย่างเขินอาย “หม่อมฉันทำเอง ภายใต้สถานการณ์อันตรายห้ามปราบไม่ทัน จึงทำได้เพียงลั่นไก”
ลั่นไก? ห้ามปราม?
อ๋องเซวียนเข้าใจทันที “หรือว่าข้าทำร้ายตัวเองอีกแล้ว”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน มู่หรงฉีกระแอม ลังเลที่จะพูด “ไม่ใช่ทำร้ายตัวเอง แต่ท่านคิดจะสังหารเสด็จพ่อ ไม่สิ ท่านทำร้ายเสด็จพ่อแล้ว”
อ๋องเซวียนตกใจมาก “อะไรนะ!”
อ๋องรุ่ยเล่าความผิดอันขัดต่อทำนองคลองธรรมอย่างร้ายแรงของอ๋องเซวียนออกมาจนหมด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นกับตา คำพูดรวบรัดแต่ความหมายครบถ้วน และสมจริงไม่พอ แต่ความน่าตกใจนี้เหมือนกับเสียงฟ้าร้อง ทำให้อ๋องเซวียนประหลาดใจมาก
อ๋องเซวียนมองปากที่เดี๋ยวปิดเดี๋ยวเปิดของอ๋องรุ่ยอย่างมั่นคง นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง กลอกตาทั้งสองดวง และเป็นลมไปอีกครั้งด้วยความตกใจ
ทุกคนมองไปทางเหลิ่งชิงฮวนพร้อมเพรียงกัน
ชิงฮวนยิ้มแห้ง “ต้องช่วยไหม”
ถึงแม้ว่าจะฟื้นขึ้นมาแล้ว คาดว่าอ๋องเซวียนคงจะกลัวมาก จึงไม่กล้ามีชีวิตอยู่ต่อแล้ว
กล่าวกันว่าการหมดสติเป็นการปกป้องตัวเองอย่างหนึ่งของการทำงานในร่างกายมนุษย์ คำพูดนี้เป็นความจริง
ทุกคนไม่มีใครช่วยอ๋องเซวียนให้ตื่นขึ้นมา ปล่อยให้เขาแบกรับแรงกระแทกนี้ต่อไป ส่ายหัวไปทางชิงฮวนอย่างช้าๆ แต่แน่วแน่ ปล่อยให้เขาเป็นลมต่อไปเถอะ
ชิงฮวนทำการตรวจอ๋องเซวียนอีกครั้ง รวมถึงตรวจด้วยภาพถ่ายรังสีเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่พบความผิดปกติอะไร
โรคภัยไข้เจ็บแบ่งเป็นกลุ่มอาการพร่องกับกลุ่มอาการแกร่ง มีบางโรคที่เกินกำลังของตนเองจริงๆ
เก็บตัวอย่างเลือดเล็กน้อย แล้วนางกับมู่หรงฉีก็ขอตัวกลับ
ผู้ช่วยกรมอาญากับขุนนางศาลต้าหลี่ได้รับความประสงค์แล้ว จึงรออยู่ด้านนอกจวนอ๋องเซวียน
พอเห็นชิงฮวน จึงเข้าไปซักถามนางว่าอ๋องเซวียนเป็นอย่างไรบ้าง รับการไต่สวนได้หรือไม่
ทั้งสองล้วนเป็นคนคุ้นเคยเก่าของชิงฮวน ชิงฮวนหัวเราะเยาะ “พวกเจ้าคิดจะลงโทษอย่างรุนแรงเพื่อให้สารภาพอย่างนั้นหรือ”
สิงซ่างซูรีบโบกมือ “พระชายาพูดขำขัน ต่อให้พวกเรากล้าหาญมากก็มิกล้าอย่างแน่นอน พวกเราแค่เป็นกังวลว่าองค์ชายใหญ่จะรับการแรงกระแทกนี้ไม่ไหว”
ถึงอย่างไรมู่หรงฉีก็คิดถึงความผูกระหว่างพี่น้อง ประกอบกับคราวก่อนอ๋องเซวียนก็ถูกคนวางยาเช่นกัน จึงรีบขอความเมตตาให้อ๋องเซวียนทันที “ปกติเสด็จพี่ของข้าจะเที่ยงตรง ไม่ใช่คนอำมหิตแบบนี้ เรื่องนี้มีเลศนัย รบกวนใต้เท้าทั้งสองคืนความบริสุทธิ์แก่เขาด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...