ก่อนที่เหลิ่งชิงฮวนจะทันได้ตอบ ผู้คุมที่อยู่ด้านนอกก็เริ่มเร่งเร้า “พระชายา เพลาเริ่มจะดึกแล้ว ให้กระหม่อมนำเหล้าพิษเข้าไปให้ท่านเลยหรือไม่ขอรับ”
ชิงฮวนเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของน่าจาอี๋นั่วด้วยผ้าเปียก ก่อนจะหันไปออกคำสั่ง “สั่งคนให้นำเสื้อผ้าสะอาดมาอีกชุดหนึ่ง ส่วนเหล้าพิษตอนนี้วางมันไว้ด้านนอกก่อน” เสียงฝีเท้าข้างนอกลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังกลับออกไป
ทั้งสองลืมหัวข้อการพูดคุยเมื่อครู่ไปเสียแล้ว
ชิงฮวนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อพิจารณาอาการบาดเจ็บบนร่างกายของน่าจาอี๋นั่ว
“ใครกันที่กล้าลงมือรุนแรงกับเจ้าเช่นนี้ แม้ว่าเจ้าจะฝ่าฝืนความปรารถนาของนางและไม่ได้แต่งงานเข้าในวัง นางคงไม่เกลียดชังเจ้าจนกระทำกับเจ้าเช่นนี้ซ้ำๆ หรอกใช่หรือไม่”
น่าจาอี๋นั่วยิ้มอย่างเยือกเย็น “ความทะเยอทะยานของมนุษย์น่ะไม่สามารถใช้ความเห็นอกเห็นใจเป็นมาตรฐานในการตัดสินได้หรอกนะ” ความทะเยอทะยานสามารถทำให้ผู้คนเสียสติได้ ข้านี่แหละที่เป็นตัวอย่าง เมื่อก่อนข้าทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งเห็นผู้คนเป็นผักปลาเพื่อแคว้นหนานจ้าว”
นั่นคือเรื่องจริง รวมถึงใต้เท้าหลู่เช่นกัน เขาทำให้ผู้คนเสียชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนเพียงเพื่อวิจัยและผลิตระเบิด ไหนจะยังมีราชาที่ชอบเข่นฆ่ารุกรานผู้อื่นโดยไม่มีข้อยกเว้น
ความทะเยอทะยานเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ถือเป็นสิ่งโหดร้ายพอควรเช่นกัน
“ทำแบบนี้กับเจ้าแล้วนางจะได้ประโยชน์อันใด”
น่าจาอี๋นั่วกะพริบตา “ท่านเดาไม่ออกจริงหรือ เป้าหมายของนางไม่ใช่ข้า แต่เป็นแคว้นหนานจ้าวต่างหาก”
มือของชิงฮวนซึ่งกำลังช่วยนางทำความสะอาดบาดแผลอดไม่ได้ที่จะหยุดชั่วคราว ก่อนจะพึมพำโดยไม่ได้ตั้งใจ “หนานจ้าว?”
น่าจาอี๋นั่วไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม นางเชื่อว่าเหลิ่งชิงฮวนมีไหวพริบมากพอที่จะเข้าใจความหมายของประโยคนั้นได้
นางไม่มีความแค้นหรือเป็นปฏิปักษ์กับคนอื่นๆ แต่การที่ประสบเรื่องร้ายแรงดังกล่าว เห็นได้ชัดว่านางเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ง อีกฝ่ายแค่ใช้นางเพื่อบรรลุจุดประสงค์แอบแฝง
ผู้คุมส่งเสื้อผ้ามาถึง ชิงฮวนช่วยเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของน่าจาอี๋นั่วและเปลี่ยนเป็นชุดสะอาด
จากนั้นจึงหันกลับมาหยิบเหล้าพิษจากด้านข้าง
“องค์หญิงอี๋นั่ว เชิญ...”
น่าจาอี๋นั่วเอนตัวพิงกำแพงอย่างอ่อนแรง เงยหน้าขึ้นมองชิงฮวนอย่างเงียบๆ “ข้าถูกใส่ร้าย”
ชิงฮวนพยักหน้า “ข้าเชื่อ แต่คนอื่นไม่เชื่อ คำสั่งของฮ่องเต้ไม่สามารถฝ่าฝืนได้ เจ้าจะดื่มเองหรือข้าให้สั่งให้คนป้อน”
น่าจาอี๋นั่วยกมือขึ้น “ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านมาก ที่ยอมให้ข้าจากไปอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะได้พบคู่ต่อสู้ที่สมเกียรติ น่าเสียดายที่ชาตินี้เราสองคนเป็นได้แค่เพียงศัตรูกันเท่านั้น”
ผู้คุมก้าวไปข้างหน้าและส่งเหล้าพิษไปยังมือของน่าจาอี๋นั่ว
น่าจาอี๋นั่วยกถ้วยขึ้นมือสั่นเทาและดื่มรวดเดียว
ก่อนจะโยนถ้วยเหล้าออกไปไกล จากนั้นมองไปที่ชิงฮวนและพยายามพูดออกมาอย่างยากเย็น “ได้โปรดกราบทูลฮ่องเต้ให้ข้าด้วย อ๋องเซวียนถูกใส่ความ เรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย เขาเองก็เป็นเหยื่อเช่นกัน ข้าฝากบอกกับอ๋องเซวียนด้วยว่าข้าผิดเอง ข้าขอโทษ”
ชิงฮวนมองนางอย่างสงบ “คนใกล้ตายมักพูดและทำด้วยความสัตย์จริง หากเจ้ามีจิตเมตตาเช่นนี้แต่แรก เจ้าคงไม่ต้องลงเอยแบบนี้”
น่าจาอี๋นั่วฝืนยิ้มและหัวเราะอย่างเศร้าสร้อย น้ำตาไหลอาบใบหน้า เลือดแดงสดค่อยๆ ไหลลงมาจากมุมริมฝีปาก ร่างกายของนางเริ่มบิดไปมาก่อนที่เสียงหัวเราะจะหยุดลง
ผู้คุมก้าวไปข้างหน้าตรวจสอบชีพจรของนาง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “กราบทูลพระชายา นักโทษสิ้นลมหายใจแล้วขอรับ”
ชิงฮวนถอนหายใจด้วยความเศร้า “ฝังศพนาง โลงศพจะถูกวางไว้ที่ศาลาพักม้าหนานจ้าวเป็นการชั่วคราว รอให้แคว้นหนานจ้าวมาขอรับศพ ค่อยหารือเกี่ยวกับงานศพในภายหลัง”
ผู้คุมรับคำสั่ง ก่อนจะให้ผู้คุมอีกสองคนแบกโลงไม้เข้ามา ชิงฮวนไม่รอช้าเดินออกจากคุกใต้ดินทันที
พระเจ้า! นี่พี่ของข้าจะอาจหาญเกินไปแล้ว นี่มันโทษความผิดฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิเลยนะ!
จะทำอย่างไรดี ข้าควรจะช่วยดีหรือไม่
“ท่านกำลังคิดอะไรงั้นหรือ”
“เมื่อครู่พระชายาฉีอ๋องมอบธนบัตรสองใบให้แก่ข้าก่อนจากไป ขอให้ข้าช่วยซื้อโลงศพที่ดีกว่านี้ให้กับองค์หญิงหนาวจ้าว พร้อมกับดูแลเรื่องต่างๆ หลังจากที่นางตาย”
ผู้คุมเว่ยยิ้มอย่างมีความหมาย “พระองค์ช่างมีเมตตาจริงๆ ขนาดนางมักจะต่อต้านพระองค์อยู่เสมอ”
ชิงเจียวตะคอกเบาๆ “นางแสร้งทำเป็นมีเมตตามากกว่า แสร้งทำเป็นแสดงให้คนอื่นเห็นว่านางมีเมตตากรุณาเพียงใด”
ผู้คุมเว่ยมองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวาย “กำแพงมีหูประตูมีช่อง ระวังอย่าให้ใครมาได้ยินคำพูดอุกอาจเช่นนี้ของท่านเป็นอันขาด คนในคุกนี่อาจไม่ได้คิดเช่นเดียวกันกับพวกเรา ไม่แน่ว่าอาจถูกแทงข้างหลังเอาได้”
ชิงเจียวยิ้ม “ข้ารู้ว่าเจ้าพูดถึงใคร ช่วงนี้ข้าไม่ค่อยว่าง ข้ากำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำให้เขาออกไปได้อย่างไร”
“ออกไป? จะทำได้อย่างไร เขาเป็นหัวหน้าในคุกนี้มานาน มีพวกชอบประจบประแจงเขามากมาย เราเป็นแค่น้องใหม่ คงจะทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีไม่ใช่หรือ โลงศพขององค์หญิงหนานจ้าววางไว้ที่ศาลาพักม้า ดังนั้นจึงต้องมีคนเฝ้าอยู่ ไม่เช่นนั้นหากมีอะไรผิดพลาดพวกเขาจะอธิบายกับหนานจ้าวอย่างไร”
จู่ๆ ผู้คุมเว่ยก็ตระหนักได้ “คนอื่นบอกว่าท่านน่ะมีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย เมื่อก่อนข้าไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว”
ชิงเจียวยิ้มกว้าง “หากเจ้ายอมทำ ข้าจะไปช่วยคุยกับเขาให้ จะได้ไม่ทำลายความสัมพันธ์ของเจ้ากับเขา”
ผู้คุมเว่ยถูกใจมากแต่ต้องระงับอาการไว้ “ข้าจะปล่อยให้คุณชายรองทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นได้อย่างไรกัน”
ชิงเจียวตบหน้าอกของเขา “เจ้ามีหลายสิ่งที่ต้องทำที่เหลือให้ข้าจัดการเองเถอะ หากกำจัดเขาไปได้ เราสองคนจะสบาย หากเขาจะอยากจะพูดอะไรให้ไปพูดกับโลงศพนู่น”
ผู้คุมเว่ยขอบคุณเขาครั้งแล้วครั้งเล่า มองเหลิ่งชิงเจียวไปหารือเกี่ยวกับงานศพของน่าจาอี๋นั่ว ก่อนที่ตนเองจะหันกลับตรงไปยังกรมอาญา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...