ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 749

นักพรตเต๋าเทียนอีไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง แต่ชิงฮวนรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

อารามเหมยฮวาอยู่ห่างจากเมืองหลวงไม่ถึงยี่สิบลี้ เขาคุ้นเคยกับเจ้าวัดที่นั่นเป็นอย่างดี ทั้งสองชอบพูดคุยเกี่ยวกับคัมภีร์และลัทธิเต๋าด้วยกันอยู่เสมอ ในช่วงเวลานี้ของปีดอกเหมยฮวากำลังบานเต็มที่ นักพรตเฒ่าคนนั้นจะต้องไปดื่มจนเมาอยู่ใต้ต้นไห่ถังในอารามที่กำลังบานสะพรั่งอย่างแน่นอน หลังจากที่ชิงฮวนพักฟื้นฟูร่างกายมาสักพัก ปฏิกิริยาของการตั้งครรภ์ในช่วงแรกก็ค่อยๆ หายไป เธอสามารถเคลื่อนไหวไปมาในจวนได้อย่างอิสระ และในตอนนี้เธออยากไปที่อารมเหมยฮวาแล้ว แน่นอนว่ามู่หรงฉีรู้สึกเป็นห่วงเธอ แต่เพราะการจัดการทหารในค่ายทำให้เขาไม่สามารถละทิ้งงานตรงหน้าไปไหนได้ ความสงบสุขอันสั้นในฉางอันกำลังจะถูกทำลาย สถานการณ์เริ่มตึงเครียดและสงครามกำลังก่อตัว

ส่วนทางด้านฮ่องเต้กำลังวางแผนและเริ่มจัดทัพเพื่อเตรียมพร้อม

มู่หรงฉีเป็นผู้ดูแลสถานการณ์โดยรวมจึงทำให้ไม่มีเวลาว่าง เขาทำได้เพียงส่งแม่ทัพอวี๋และผู้คุ้มกันไปดูแลชิงฮวนเดินทางไปยังอารามเหมยฮวา

หลังฝนตกในฤดูใบไม้ผลิ อากาศบนภูเขาสดชื่น ชิงฮวนไม่อยากรบกวนบรรดาพระที่กำลังฝึกตนจึงทิ้งรถม้าไว้หน้าภูเขา พร้อมกับสั่งให้ทหารที่เหลือรออยู่ที่เชิงเขา โดยที่เธอพาแม่ทัพอวี๋และตี้ลี่ขึ้นไปที่อารามเหมยฮวาเท่านั้น

แม่ทัพอวี๋ตื่นเต้นมาตลอดทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีหญิงสาวสวยอยู่เคียงข้าง

ชิงฮวนแสร้งทำเป็นไม่เห็นทั้งคู่เกี้ยวพาราสีกันระหว่าง ไม่เคยเยาะเย้ยพวกเขาสองคน

นั่นทำให้แม่ทัพอวี๋รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

พระชายาเป็นหญิงเฉลียวฉลาด เด็กสาวรับใช้หรือผู้คุ้มกันมีท่าทีแปลกไปอย่างไรนางมักจะมองออกเสมอ แต่ทำไมเมื่อถึงคราวของเขา นางถึงแสร้งทำเป็นไม่รู้และไม่เข้าใจ

แม่ทัพอวี๋ที่เตรียมบ้านรอไว้แล้วและกำลังรอให้เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยปากมอบหญิงสาวให้

ชิงฮวนสังเกตอาการของเขาหลายครั้ง เขามักจะลนลานเหมือนกับรอให้เอพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอจะไม่เอ่ยปากพูดก่อน เธอแอบกลั้นยิ้มในใจ เหตุผลคือหนึ่งคือความรู้สึกที่ได้มาง่ายเกินไปนั้นไม่มีคุณค่า เกรงว่าแม่ทัพอวี๋จะไม่ทะนุถนอมตี้ลี่ให้ดี

อีกเหตุผลที่สำคัญมากประการหนึ่ง หลังจากที่เขาและมู่หรงฉีมีช่วงเวลาร่วมกันในสำนักแม่ชีหนานซาน มู่หรงฉีส่งแม่ทัพอวี๋คนนี้ไปสอบถามเกี่ยวกับตัวตนของเธอ

จนกระทั่งแม่ทัพอวี๋กลับบอกกับมู่หรงฉีอย่างแน่วแน่ว่าคนที่ค้างคืนในการแสวงบุญครั้งนั้นคือคุณหนูรองและจินอี๋เหนียงจากจวนมหาเสนาบดี

ขาดไปสิ่งเดียวคือตัวเธอเองเหลิ่งชิงฮวน

แต่นั้นไม่ใช่ความผิดของเขา คนที่ต้องรับผิดชอบคือมู่หรงฉี ความผิดคือของลูกน้องคือความผิดของเจ้านาย มู่หรงฉีใช้งานคนผิด!

ชิงฮวนรู้สึกโกรธอยู่ในใจ เจ้าพวกนี้ ถามให้มากอีกสักสองสามอย่างจะเป็นไรไป ไม่งั้นเรื่องคนไม่ดำเนินมาถึงจุดนี้หรอก

ในที่สุดตอนนี้แม่ทัพอวี๋ก็อยู่ในกำมือของเธอแล้ว จะบีบให้ตายจะคลายก็รอด เขาจะได้ลิ้มลองรสชาติรักที่ไม่อาจครอบครองซะบ้าง

อยากให้ฉันเป็นคนตัดสินใจใช่ไหม... รอไปเถอะ

ขึ้นไปครึ่งทางของภูเขา ป้ายตัวอักษรหลงเฟยเฟิ่งอู่ตั้งตระหง่านอยู่ในระยะไกล แผ่นป้ายป้ายอันยิ่งใหญ่ แต่อารามแห่งนี้ทำให้ชิงฮวนรู้สึกผิดหวัง

ด้วยชื่ออันหรูหรา เธอคิดว่าที่นี่จะเป็นสถานที่ที่มีผู้แสวงบุญมากมายไม่สิ้นสุด แต่มันกลับดูค่อนข้างรกร้าง แน่นอนว่ามันไม่ได้ทรุดโทรมมากนักเพราะได้รับการซ่อมแซมอย่างเรียบร้อย ดังคำกล่าวที่ว่าสูงต่ำมิอาจวัดค่าบรรพต หากมีเทพเซียนปรากฏ ย่อมเลื่องชื่อลือนาม ประตูของวัดลัทธิเต๋าเปิดกว้าง ทั้งสามคนตรงเข้าไปโดยไม่มีสิ่งกีดขวางจนกระทั่งไปถึงห้องโถงใหญ่ พวกเขาเห็นนักพรตเต๋าในชุดสีเทากำลังกวาดพื้นอยู่

แม่ทัพอวี๋ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับทักทาย “ท่านครับ...” ก่อนที่เขาจะตัวแข็งทื่อ

นักพรตเต๋าคนนั้นหันมามอง แม้แต่ชิงฮวนเองยังตกตะลึง

คนเราแม้จากกันไปไกลยังมีโอกาสได้หวนมาเจอกัน นักบวชลัทธิเต๋าที่กำลังกวาดพื้นนั้นไม่ใช่ใครอื่น เขาคืออวิ๋นชิงนักบวชลัทธิเต๋าที่แสร้งทำเป็นมีวิชาอาคม

เวลาผ่านมาแล้วห้าปี เขาดูแตกต่างจากอดีตเล็กน้อย เครายาวและคิ้วสีขาวทำให้ดูขลังมากขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนปรมาจารย์แห่งเต๋ามากกว่าตาเฒ่าเทียนอีเสียอีก

เมื่อเห็นว่าเป็นชิงฮวนและทั้งสามคน นักบวชลัทธิเต๋าอวิ๋นชิงจึงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเข้าไปทักทาย “ไม่เจอกันนาน พระชายาสบายดีหรือไม่”

ชิงฮวนตกตะลึง นักพรตเต๋าเทียนอีเก่งเกินไปแล้ว เขารู้ได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่

คนคนนี้มีที่มาที่ไปยังไงกันแน่นะ

“พระชายา พอดีตอนนี้ข้าไม่สะดวก แต่ท่านเดินทางมาไกลเช่นนี้จะต้องมีเรื่องสำคัญแน่”

ชิงฮวนก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องตะโกนสุดเสียง “” ข้ามาที่นี่เพื่อบอกนักพรตเต๋าว่าครั้งก่อนข้าเป็นฝ่ายแพ้พนัน แต่ท่านคำนวณผิดไปหนึ่งอย่าง

เทียนอีชะงักก่อนจะยืดตัวขึ้นตรง “เรื่องไหนงั้นหรือ”

ชิงฮวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้าวต่อไป “ท่านเคยกล่าวว่าน่าเยี่ยไป๋จากหนานจ้าวอายุสั้น แต่ตอนนี้เขากำลังอยู่ดีกินดี ขณะที่น่าจาอี๋นั่วตายแล้ว”

เทียนอีมองเธอพร้อมกับยิ้ม “จริงหรือ”

ชิงฮวนพยักหน้า “ใช่ ข้าเป็นคนส่งนางในวาระสุดท้ายด้วยตัวเองและยังเป็นคนจัดการงานศพให้นางอีกด้วย”

เทียนอีสะบัดมือปัดแขนเสื้อออก “เช่นนั้นอาตมาขอเดิมพันกับพระชายาอีกครั้ง”

“เดิมพันอะไร”

“อาตมาจะขอเดิมพันเรื่องความเป็นความตายของน่าจาอี๋นั่ว หากท่านแพ้ ท่านต้องช่วยอาตมาให้หลุดพ้นจากเรื่องพวกนี้ อาตมาจะรีบกลับมาจัดการกับตาเฒ่านั่นเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเอง”

ชิงฮวนชำเลืองมองถังขยะข้างด้านข้าง ริมฝีปากของเธอโค้งงอโดยไม่รู้ตัว “พอเถอะ ข้าขอยอมแพ้เลยแล้วกัน”

นักพรตเต๋าเทียนอียิ้มอย่างจริงใจมากขึ้น “เช่นนั้นท่านบอกมาเถอะว่าท่านมาที่นี่ด้วยเรื่องอะไร”

“ข้าอยากจะชุบชีวิตน่าจาอี๋นั่วขึ้นมาอีกครั้ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา