ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 759

“ทั้งอารามเหมยฮวาเต็มไปด้วยแมลงกู่ของน่าจาอี๋นั่ว แต่พอได้เห็นน่าจาอี๋นั่วแล้วนางไม่ได้ดูโหดร้ายเหมือนกับที่พวกเราเคยพบ นางสะสมกำลังจำนวนมากเอาไว้อย่างลับๆ

ตอนนี้น่าจาอี๋นั่วเพียงคนเดียวไม่มีทางชนะวิชาคุณไสยของผู้หญิงคนนั้น จะต้องรวมพลังกับวิชาเต๋าของนักพรตเต๋าเทียนอี แต่นางเป็นพวกหยิงยโส ไม่ยอมให้ขอให้ท่านนักพรตสอนนาง นางจะต้องให้แมลงกู่ลอบสอดแนมแน่

เทียนอีทนไม่ไหว เดิมทีเขาคิดจะใช้มนุษย์ดินเหนียวมาล่อให้แมลงพวกนั้นออกไป พอดีที่ข้าไปที่อารามเหมยฮวาพอดี เขาจึงให้ข้าล่อแมลงกู่กลับมาที่จวนแล้วมาพูดว่าให้ข้ากำจัดแมลง ที่จริงแล้วคำพูดของเขาตีความได้สองอย่างคืออยากให้เจ้าช่วยหาวิธีกำจัดแมลง

เช่นนี้แล้วนักพรตเต๋าเทียนอีก็สามารถทำลายกำลังของน่าจาอี๋นั่วได้และร่วมมือกับเขาอย่างว่าง่าย ทั้งสองคนร่วมมือกันจะทำให้คนที่อยู่เบื้อหลังได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อ”

ชิงฮวนเม้มปาก “ตราบใดที่น่าจาอี๋นั่วมีแมลงกู่อยู่นางก็จะสามมารถติดต่อกับแคว้นหนานจ้าวได้เรื่อยๆ อีกอย่างนางชอบที่จะนั่งดูเรื่องสนุกอยู่เฉยๆและไม่รีบที่จะออกมาช่วย เรื่องที่นักพรตเต๋าเทียนอีคิดนั้นไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ตัดปีกของนางทิ้งเสียทำให้นางไม่มีใคร จนนางจะต้องมาพึ่งพาพวกเรา แบบนี้ถึงจะไม่เปลืองแรง”

“เจ้ามีวิธี?”

“การรับมือกับแมลงกู่ของนางไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเรามารถเล่นงานนางได้โดยตรง”

ทั้งสองคนมีจิตใจสื่อถึงกัน มู่หรงฉีเข้าใจความหมายของชิงฮวนได้ในทันที “เมื่อมองดูแล้วนางอยู่ในความดูแลของพวกเรานั้นดูสบายไปหน่อย พวกเราต้องให้นางสัมผัสได้ถึงอันตรายแบบนี้แล้วนางถึงจะใจร้อยตามหาหญิงใช่คุณไสยคนนั้น”

ชิงฮซนพยักหน้า “เรื่องแบบนี้ให้เฟยอิงเว่ยของหม่อมฉันทำจะเหมาะสม คืนนี้หม่อมฉันจะเลือกยอดฝีมือไปที่อารามเหมยฮวาเพื่อตรวจหาความจริง เล่นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียหน่อย และคอยจับตาดูน่าจาอี๋นั่วไปด้วยและตัดขาดการติดต่อของนางกับโลกภายนอก ให้นางรู้สึกว่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และไม่กล้าทำอะไรอย่างพละการ”

ทั้งสองคนเห็นตรงกันแล้วออกคำสั่งลงไปทันทีและดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้

เฟยอิงเว่ยทำตามแผนการที่ชิงฮวนวางเอาไว้และลอบเข้าไปในอารามเหมยฮวาตอนกลางคืน แต่พวกเขาทำอย่างไรก็ได้กลับมาอย่างนั้น พวกเขาวิ่งกลับมาอย่างเงียบๆ

แผนการนี้ไม่ล้ำลึก แต่กลับเป็นการต่อสู้ของจิตใจ เดิมทีน่าจาอี๋นั่วเป็นพวกขี้กังวล แน่นอนว่านางสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาในอารามเหมยฮวาตอนกลางคืน อีกทั้งเวลาพูดยังเป็นสำเนียงแคว้นหนานจ้าว นางรู้สึกตกใจ

นางไม่กล้าปรากฏตัวออกไปจึงทำได้เพียงหลบอยู่ในมุมมืดและคิดไปต่างๆนาๆ

อย่างแรกเลยนางสงสัยว่าคนที่ถูกส่งมานั้นเป็นคนที่หญิงใช้คุณไสยลึกลับนั้นส่งมา ต่อมานางก็นึกถึงเสด็จลุงที่คิดอยากชิงลบัลลังก์คนนั้น

อย่างไรเสียนางก็กลัวว่าความลับจะเปิดเผย

โดยเฉพาะยาที่เฟยอิงเว่ยเอาไปนั้นมีฤทธิ์เป็นพิษ กลิ่นของมันเสียดจมูกจนทำให้แมลงกู่ที่น่าจาอี๋นั่วปล่อยออกไปนั้นได้รับความเสียหายไปมากจนทำให้นางรู้สึกกลัว

มีประโยคหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่าเมื่อถึงตอนสุดท้ายแล้วก็ต้องสู้ต่อไป น่าจาอี๋นั่วที่รู้สึกไม่ปลอดภัยไม่ต้องรอให้เหลิ่งชิงฮวนบอกนางก็เอ่ยปากขอร่วมมือกับนักพรตเต๋าเทียนอีด้วยตัวเองเพื่อเปิดเผยตัวตนของผู้หญิงคนนั้นให้เร็วที่สุด

ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้วขาดก็แต่แรงลม เหลิ่งชิงฮวนกับมู่หรงฉีกำลังรอให้เทศกาลตวนอู่มาถึง

เทศกาลตวนอู่ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นปัญหาทั้งภายในและภายนอก ฮ่องเต้ชราไม่มีอารมณและไม่มีกระจิตกระใจจะมาตั้งใจจัดงานเลี้ยงเหมือนทุกปี และไม่ได้พูดถึงงานเทศกาลตวนอู่ปีนี้สักคำ

ได้ยินมาว่าอดีตฮองเฮาหรือพระสนมซูเฟยในตอนนี้ได้ไปหาฮ่องเต้ชราหลายรอบแล้วเพื่อระบายความคับข้องในใจของนางออกมา นางมองไปยังตำแหน่งฮองเฮาที่ว่างด้วยสายตาที่มีความละโมบเล็กน้อย

แต่ฮ่องเต้ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและเอาแต่ไม่ตอบตกลง

หลายวันมานี้พระสนมซูเฟยรู้สึกไม่สบายใจ

เธอมีความคิดเลวร้ายนั้นจริงและต่อกรกับเหลิ่งชิงฮวนมาไม่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ว่าสองครั้งก่อนหน้านี้เรื่องจิ่นอวี๋กับเยี่ยนผินนั้นนางถูกใส่ร้ายจริงๆ

ถ้าหากว่านางไม่สามารถกลับคืนฐานะได้อีกครั้ง อ๋องเซวียนที่ตอนนี้สูญเสียความโปรดปรานไปจากฮ่องเต้แล้ว วันข้างหน้านางยังมีความหวังอะไรอยู่อีกล่ะ

ดังนั้นนางนางต้องพยายามให้ถึงที่สุดแล้วใช้ทุกวิถีทางอย่างไม่หยุดหย่อนและจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด

อ๋องเซวียนได้รับการรักษาจากชิงฮวน เขาใช้ประโยชน์จากวิชาที่นักพรตเต๋าเทียนอีสอนให้และกลับมาเป็นปกติดีแล้ว ในที่สุดชายชราก็ยอมให้แล้วของกำนัลของพระสนมซูไปเพิ่มให้กับอ๋องเซวียน อย่างให้อภัยกับความผิดของเขาและกลับมาเป็นองค์ชายเหมือนเดิม