ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 769

รถม้าแล่นออกจากจวนอ๋องเชียนไปแล้ว ชิงฮวนรู้สึกร้อนรนใจขึ้นมาเล็กน้อย “ปีเตอร์ชาวฝรั่งคนนั้นยังอยู่ที่ค่ายทหารของท่านใช่หรือไม่เพคะ?”

มู่หรงฉีไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ นางถึงได้เอ่ยถึงคนผู้นี้ขึ้นมากะทันหันจึงพยักหน้าให้ “ตอนนี้ยังอยู่ แต่ว่าเขาได้กล่าวอำลากับข้าแล้ว บอกว่าต้องการออกจากเมืองหลวงเพื่อไปเผยแพร่พรประเสริฐของพระเจ้าอะไรนี่แหละ”

ยังอยู่ก็ดีแล้ว

ชิงฮวนเปิดม่านตรงหน้าต่างรถม้าขึ้นและมองออกไปนอกรถจากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เชิญเขามาที่จวนอ๋องหน่อยเพคะ ข้าต้องการจะเลี้ยงเขาสักมื้อ เพื่อเป็นการเลี้ยงส่งเขานะ”

ผ่านไปสักพักก็ยังไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาจากมู่หรงฉี ชิงฮวนจึงหันหน้ากลับไป ก็เห็นมู่หรงฉีกำลังมองเธอด้วยท่าทางครุ่นคิด และมีเปลวไฟเล็ก ๆ ระอุขึ้นมาในดวงตา

“ทำไมหรือ?”

ชิงฮวนรู้สึกงงงวยเล็กน้อย ทำไมดูเหมือนตาทึ่มคนนี้เหมือนจะโกรธเล็กน้อยล่ะ?

ตอนนี้มู่หรงฉีกำลังเม้มริมฝีปากบาง ๆของเขา ใบหน้าของเขาช่างเฉียบคมคมคาย ท่าทีก็สมชายชาตรีไม่ว่าใครอยู่ด้วยก็รู้สึกสบายใจ

“พวกเจ้าสองคนสนิทกันมากอย่างงั้นหรือ?”

“เมื่อก่อนเคยรับปากกับเขาไว้ว่าจะสอนภาษาจีนให้เขาน่ะ แต่ว่าข้าไม่มีโอกาสได้สอนเลย ตอนนี้กำลังว่างอยู่พอดี”

มู่หรงฉีทำเสียงฮึดฮัดเบา ๆ “ขอโทษที เรื่องนี้ข้าช่วยไม่ได้ ข้าสื่อสารกับเขาไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถถ่ายทอดคำพูดให้ได้”

เอิ่ม ชิงฮวนบีบจมูกทำท่าเหมือนดมอะไรสักอย่าง ทำไมกลิ่นในรถถึงได้แปลกๆไปนะ?

เธอกลั้นขำเอาไว้ “หม่อมฉันสามารถสอนท่านได้ว่าจะพูดอย่างไร?”

“ตัวข้าไม่ใช่นกแก้ว เรียนไม่ได้หรอก”

“เป็นคนใจแคบขนาดนี้จริง ๆ หรือ?”

มู่หรงฉีทำท่าเย่อหยิ่งฮึดฮัดกลับไปเล็กน้อยเบา ๆ

ชิงฮวนย่นจมูกตัวเองใส่เช่นกัน “ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปหาเขาเอง พอดีเลยไม่ได้ไปค่ายทหารตั้งนานแล้วด้วย”

มู่หรงฉีขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ และแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา “คนผู้นั้นมีกิริยาท่าทางเหลาะแหละและอีกทั้งยังมุทะลุ มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนจริงจังอะไร เจ้าจะไปหาเขาทำไม?”

ชิงฮวนกะพริบตาปริบ ๆ ตาเป็นประกายแวววาว “ท่านคงไม่ได้หึงหรอกใช่ไหมเพคะ?”

มู่หรงฉีแสดงสีหน้าออกมาไม่เป็นธรรมชาติ และทำเสียงฮึดฮัดด้วยความโกรธ “ก็ถ้าหึงแล้วจะทำไมล่ะ? และข้าก็ไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเจ้าพูดกัน ใครจะไปรู้ว่าลับหลังข้า ไม่ใช่สิ ต่อหน้าข้าได้ว่าอะไรข้าหรือเปล่า? ปีเตอร์ผู้นั้นเห็นเจ้าเป็นเพื่อนรู้ใจต่างแดนของเขา วัน ๆ เอาแต่วิ่งมาหาเจ้า มักจะถามโน้นถามนี้ตลอดเวลา เห็นชัด ๆ ว่ามีเจตนาไม่ดี”

“มาหาหม่อมฉัน?” ชิงฮวนขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ “ทำไมหม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยเพคะ?”

พอมู่หรงฉีรู้ตัวว่าเผลอหลุดปากก็รีบปิดปากทันที “บังเอิญเจ้าไม่อยู่ที่จวนพอดีน่ะ”

ชิงฮวนหรี่สายตาเล็กน้อย “หลายวันนี้ข้าก็อยู่ติดจวนตลอด นอกจากตอนเข้าวังแล้วก็ไม่ค่อยออกไปข้างนอก ทำไมข้าถึงไม่อยู่ตลอดได้ล่ะ? บอกข้ามาตามตรงนะเพคะ ท่านไปสร้างความลำบากให้กับคนอื่นและบีบบังคับให้คนอื่นต้องออกจากเมืองหลวงไปใช่หรือไม่เพคะ?”

มู่หรงฉียกกำปั้นขึ้นมาป้องปากไว้แล้วกระแอมไอเบา ๆ อย่างกระอักกระอ่วนใจ “จะเป็นไปได้อย่างไร? ข้าเป็นคนใจแคบปานนั้นอย่างนั้นหรือ? ข้าก็แค่...แค่ก ๆ ๆ แล้วเจ้าต้องการไปหาเขาทำไมเล่า? เขาหน้าตาเหมือนแมวเปอร์เซียตาฟ้า น่าเกลียดขนาดนั้น”

ทันใดนั้นชิงฮวนรู้สึกขำเล็กน้อย จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาจิ้มหน้าผากของเขา “คิดอะไรนะเพคะ? ตอนนี้ในสมองของหม่อมฉันมีแต่เรื่องคดีความ ไหนเลยจะมีกะจิตกะใจไปดูว่าหน้าตาเขาดีหรือไม่ดีกัน? ที่หม่อมฉันเรียกปีเตอร์มาที่จวนอ๋องก็เพื่อต้องการเรียนรู้วิชาการสะกดจิตกับเขา”

“วิชาสะกดจิต?” มู่หรงฉีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เรียนสิ่งนี้ทำไมกัน? เจ้าต้องการไต่สวนใครงั้นหรือ?”

ชิงฮวนเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร ดังนั้นจึงบอกสิ่งที่ตัวเองค้นพบในจวนอ๋องเชียนเมื่อสักครู่นี้ทั้งหมดให้กับมู่หรงฉีฟัง

“หม่อมฉันรู้สึกว่า ก่อนหน้านี้หม่อมฉันทำการด่วนสรุปเร็วไปหน่อย หม่อมฉันอยากลองใช้วิชาการสะกดจิตเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงในสิ่งที่พระชายาเชียนพูดมา นอกจากนี้วิชาการสะกดจิตยังสามารถช่วยให้น้องห้าค้นหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และยังช่วยรักษาได้อีกด้วย”

มู่หรงฉีมองไปที่ชิงฮวนด้วยใบหน้าประหลาดใจ “คนอื่น ๆ ล้วนยกย่องว่าพี่รองว่าเป็นผู้รอบรู้ทั้งเรื่องราวสมัยอดีตและสมัยปัจจุบัน มีความรู้กว้างขวาง วันนี้เพิ่งจะได้รู้ว่าพระชายาของข้าต่างหากที่เป็นผู้มีความรู้กว้างขวางที่แท้จริง รู้จักทั้งดาราศาสตร์และยังรู้จักภูมิศาสตร์อีกด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา