ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 795

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เหลิ่งชิงเจียวต้องการที่จะรีบกลับไปที่จวนมหาเสนาบดี เพื่อหารือกับเหลิ่งชิงเฮ่อและเสนาบดีเหลิ่ง

บอกลาเพื่อนร่วมงาน รีบขึ้นหลังม้า เหลิ่งชิงเจียวคุมบังเหียนม้าไป

เห็นได้ชัดว่าหลบซ่อนตัวอยู่ที่จวนอ๋องเฮ่า ไม่ยอมให้จวนมหาเสนาบดีรู้เรื่องนี้ ครั้งก่อนเซวียอี๋เหนียงไปสอบถาม แค่ไม่กี่คำก็ถูกไล่ออกมา

ถ้าหากไปเยี่ยมถึงจวนมหาเสนาบดี ข่าวคราวที่ตัวเองได้รับมาแบบไม่มีหลักฐานนี้ แล้วไปซักไซ้เอาความกับจวนอ๋องเฮ่า เมื่อขาดความสมจริง เช่นนั้นจะไม่เป็นการทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองจวนเหรอ?

จวนอ๋องเฮ่าไม่ใช่ตระกูลธรรมดา ไม่สามารถทนกับความบุ่มบ่ามของตัวเองได้

แม้ว่าเขาจะอายุยังน้อย กลับเข้าใจหลักธรรมนองคลองธรรมอย่างละเอียด ไม่ได้เลือดร้อนบ้าบิ่นเหมือนกับหนุ่มสาวคนอื่นๆ ดังนั้นจึงมีความกังวลค่อนข้างมาก

เขามีความคิดอีกแล้ว เมื่อพิจารณาอย่างละเอียด รู้สึกว่าอย่างไรเสียหมู่บ้านก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก ขี่ม้าไปกลับก็เพียงครึ่งวัน สู้ไปสืบข่าวด้วยตัวเองดีกว่า หากเป็นความจริง ค่อยตัดสินใจบอกเสนาบดีเหลิ่งก็ยังไม่สาย

เขารีบขี่ม้ามุ่งหน้าไปที่เมืองทางใต้ทันที

หลังจากที่ฮ่องเต้แต่งตั้งอ๋องแล้ว ฮ่องเต้พระราชทานบ้านพักและที่นา ที่นาของอ๋องเฮ่าก็อยู่ที่เมืองทางใต้ เขาเคยได้ยินเสนาบดีเหลิ่งและเซวียอี๋เหนียงพูดถึง เหมาะแก่การสอบถามเป็นอย่างมาก

หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวสาลี ในที่นาปลูกพวกข้าวโพด ธัญพืช,ถั่วเหลืองและต้นกล้าอาหารประเภทอื่นๆ เพราะว่าอากาศร้อนทุกต้นต่างแห้งเหี่ยวเฉาห้อยลงมา ครอบครัวชาวนาที่ทำงานอยู่ในนานั่งพักผ่อนในร่มเงา

เมื่อเหลิ่งชิงเจียวมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคน จ้องมองแขกแปลกหน้าที่ไม่ได้รับเชิญ

เหลิ่งชิงเจียวเดินเข้าไปถามอย่างมีสุภาพ ชาวนาลุกขึ้น นำทางให้เขาอย่างกระตือรือร้น

ด้านหน้าเป็นทางเดินคดเคี้ยวในทุ่งนา ไม่สะดวกที่จะขี่ม้า เขาผูกม้าไว้ใต้ร่มไม้ เดินย้ำเท้าทุลักทุเลตามอยู่ด้านหลังชาวนา เดินเข้าไปในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กัน

ครอบครัวชาวนายกมือชี้ “นั่นไง คือลานกำแพงอิฐตรงนั้นแหละ”

ที่หน้าประตูมีคนอยู่ เมื่อเห็นเหลิ่งชิงเจียวก็รีบจ้องเขาอย่างระมัดระวังตัว รีบเข้าไปขวางทาง

เหลิ่งชิงเจียวของคุณอย่างเกรงใจ เดินเข้าไปสอบถาม “พระชายารองของอ๋องเฮ่าอยู่ด้านในหรือไม่? ข้าเป็นน้องชายของนาง พอดีมาราชการแล้วผ่านมาแถวนี้ ก็เลยตั้งใจมาเยี่ยม”

คนที่ยืนขวางอยู่ตรงประตูมองเขาอย่างลึกซึ้ง พูดอย่างเกรงใจ “ที่แท้คุณชายรองจวนมหาเสนาบดีมานี่เอง แต่น่าเสียงดาย พระชายารองไม่ได้อยู่ในลานบ้าน นางไปฟังละครที่หมู่บ้านใกล้ๆแล้ว”

เหลิ่งชิงเจียวชะเง้อมองเข้าไปข้างใน ในลานบ้านว่างเปล่า ไร้เงาคน ด้วยเหตุนี้เอาของที่หิ้วอยู่ในมือส่งให้กับคนๆนั้น

“เดิมทีเป็นห่วงว่านางจะขี้กลัวที่สวน แต่ดูแล้วน่าจะสบายดี เช่นนั้นข้าคงไม่รอแล้ว ของเหล่านี้รบกวนเจ้าช่วยมอบให้กับพี่สามข้าด้วย ล้วนเป็นหมูพะโล้ที่นางชอบกิน เพิ่งทำเสร็จสดๆร้อน”

ชายคนนั้นรับกระดาษห่อมา เนื้อหอมกรุ่นเตะจมูก ทำให้น้ำลายสอ ไล่แขกที่ไม่ต้อนรับกลับอย่างยิ้มเยาะ “คุณชายรองเดินทางกลับดีๆ ไม่ส่ง”

เหลิ่งชิงเจียวหันหลังเดินจากไป ไม่ได้หันกลับมามองอีก

แต่หลังจากที่พ้นสายตาของคนๆนั้นแล้ว ก็วนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

คนเฝ้าประตูรอให้ชิงเจียวเดินจากไป ก็แทบรอไม่ไหวที่จะเปิดห่อกระดาษ กางออกวางไว้บนแท่นหิน เรียกพวกเพื่อนร่วมงาน แบ่งกันคนละคำ กินมูมมาม จนน้ำมันไหลเยิ้มเต็มปาก

สุนัขสีน้ำตาลตะกละสองตัวเดินป้วนเปี้ยนอยู่ที่เท้า ไล่ยังไงก็ไม่ยอมใจ

เหลิ่งชิงเจียวมองอยู่ไกลๆ มีแผนการอยู่ในใจแล้ว

ในฐานะบ่าว ไม่เห็นเจ้านายอยู่ในสายตาเช่นนี้ กล้าขโมยอาหารกินโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นได้ว่า สถานะของเหลิ่งชิงเหยาตอนนี้เลวร้ายมากเป็นอย่างยิ่ง และถูกจำกัดอิสรภาพโดยสิ้นเชิง

โดยปกติแล้วเขาควรที่จะยอมรับในโชคชะตา แต่เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้า แทบรอไม่ไหวที่จะทําการกระทําที่น่าทึ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ดีจะได้เปลี่ยนมุมมองที่คนอื่นมีต่อเขา

เพราะเหตุนี้เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะจากไป และเดินวนไปวนมาอยู่รอบกำแพงบ้านเหลิ่งชิงเหยา เมื่อเห็นกองฟืนที่วางกองอยู่ใต้กำแพง ก็ใช้เท้าเหยียบปีนขึ้นไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา