ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 797

ในหมู่บ้าน

เหลิ่งชิงเหยากังวลมาก

มองเหลิ่งชิงเจียวออกไปจากหมู่บ้าน หมอและคนอื่นๆก็ไม่ได้ขัดขวางไว้

แต่ว่า นางเห็นว่าหลังจากที่เหลิ่งชิงเจียวออกไป หมอก็หันไปส่งสายตาให้ผู้คุมสองคนนั้น ทั้งสองก็รีบตามเหลิ่งชิงเจียวออกไปทันที

นางไม่รู้ว่าความกล้าของพระชายาเฮ่าจะมีมากเพียงใด กล้าหรือไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับจวนมหาเสนาบดี กล้าที่จะขัดขวางเหลิ่งชิงเจียว หรือแม้กระทั่งจะทำเรื่องที่มันใจกล้ามากขึ้นอีกไหม

นางยังคงคิดอย่างไร้เดียงสา ถ้าหากพวกเขาปล่อยเหลิ่งชิงเจียวไปจริงๆ ชิงเจียวกลับไปถึงจวนมหาเสนาบดีแล้วบอกความจริง เชื่อว่าเสนาบดีเหลิ่งไม่มีทางไม่สนใจแน่นอน

นางยังคงมีความหวังรอคนของจวนมหาเสนาบดีมาช่วยตัวเองให้รอดพ้นการตกนรกทั้งเป็นนี้

ในเวลานี้ ไม่ว่าโทษฐานลบหลู่เบื้องสูงหรือต้องสูญเสียความโปรดปรานจากอ๋องเฮ่า มันไม่สำคัญแล้ว นางเพียงต้องการมีชีวิตอยู่

ท้องฟ้าใกล้มืดแล้ว

คนรับใช้ที่เฝ้าเหลิ่งชิงเหยาอยู่ด้านนอกทำความเคารพ

นางรีบลุกขึ้นจากเตียงทันที มองไปรอบๆในลานบ้าน

การเคลื่อนไหวเช่นนี้ เหมือนกับคนจวนมหาเสนาบดีมา

แต่ผลลัพธ์กลับทำให้นางต้องผิดหวัง คนที่มานั้นไม่ใช่คนของจวนมหาเสนาบดี แต่เป็นพระชายาเฮ่า

สาวรับใช้ประคองพระชายาเฮ่ามา ยกม่านกันออกมาจากเกี้ยว ทันใดนั้นสายตาแค้นเคืองของเหลิ่งชิงเหยาก็สาดออกมาเหมือนกับมีดสองด้าม จ้องมองพระชายาเฮ่าที่เหมือนต้นหลิวบอบบางปลิวตามลม

ร่างกายของพระชายาเฮ่าดูเหมือนจะแย่กว่าแต่ก่อน จะเดินเหินต้องให้สาวรับใช้ประคอง เดินก้าวแต่ละครั้งก็เหนื่อยหอบ สีหน้าซีดเซียว

เกี่ยวกับร่างกายของพระชายาเฮ่า เหลิ่งชิงเหยาเคยให้เด็กรับใช้ไปสอบถามในจวนมาแล้ว ว่านางป่วยเป็นอะไรกันแน่

เด็กรับใช้ในจวนก็ไม่กล้าที่จะพูดเหตุผลออกมา บอกเพียงว่าเลือดจางอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะปีนี้แย่ลงเรื่อยๆ ทั้งยังเคยอาเจียนเป็นเลือดครั้งนึง

เหลิ่งชิงเหยาไม่เชื่อคำพูดข้ออ้างนี้ของเด็กรับใช้ อายุยังน้อย ทั้งยังไม่เคยคลอดลูกมาก่อน ไม่เคยได้รับบาดเจ็บ จะเลือดจางได้ยังไงกัน?

แต่นางเกิดและเติบโตในจวนมหาเสนาบดี ไม่เคยออกนอกบ้าน ประสบการณ์มีจำกัด ไม่เข้าใจอาการป่วยเหล่านี้ เวลาที่คุยกับเซวียอี๋เหนียง ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่เคยพูดถึงเรื่องสุขภาพของพระชายาเฮ่า

เซวียอี๋เหนียงไม่เคยให้ความเห็นอะไรที่เป็นประโยชน์แก่นางเลย ตรงกันข้าม ยังลำพองใจเพราะเรื่องนี้ บอกว่ายิ่งนางสุขภาพอ่อนแอยิ่งเป็นเรื่องดี ไม่มีลักษณะของผู้ที่จะมีอายุยืนยาวเลย ตายเร็วหน่อยก็ดี เหลิ่งชิงเหยาจะได้ย้ายกลับมาเร็วๆ

ถ้าจะให้อธิบายสภาพของพระชายาเฮ่า ที่เห็นจากสายตาตอนนี้ก็เหมือนกับยามพลบค่ำ สีหน้าซีดเซียวจนแทบจะโปร่งแสง

นางรู้ว่าที่พระชายาเฮ่ามาที่นี่เป็นเพราะตัวเองอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นสถานที่สกปรกเช่นนี้ นางจะย่างก้าวเข้ามาได้ยังไงกัน

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทหารอารักขาด้านหน้าเปิดประตู

แม่เฒ่าย้ายเก้าอี้ไปวางไว้ที่ในลานบ้าน และปูที่รองนั่งอย่างละเอียดรอบคอบ

สาวรับใช้ประคองพระชายาเฮ่านั่งลง

ด้านนอกมีครอบครัวชาวนาที่กลับมาตอนพลบค่ำนั่งยองๆอยู่ด้วยกันไกลๆ ด้านหนึ่งประคองชามข้าวใบใหญ่กินข้าวคำโต อีกด้านหนึ่งก็มองเรื่องครึกครื้นในบ้าน

เหลิ่งชิงเหยาออกมาจากห้อง มองพระชายาเฮ่าอย่างเย็นชา และถามไปตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม

“ต้องทำอย่างไรท่านถึงจะยอมปล่อยข้าไป” น้ำเสียงของนางอ่อนลง อ้อนวอนเล็กน้อย

พระชายาเฮ่าจ้องเหลิ่งชิงเหยาตาเขม็ง หลังจากนั้นก็หัวเราะพรืดออกมา “นึกถึงตอนแรกเจ้าพยายามทุกวิถีทางที่จะแต่งเข้าจวนอ๋องเฮ่า ข้ายังนึกว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ตลอดห้าปีที่ผ่านมา เจ้าอาศัยจวนมหาเสนาบดีคอยหนุนหลังโอ้อวดกำลังต่อหน้าข้า ทะเลาะตบตีแย่งชิงอำนาจ เจ้าดูข้าสิ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยคิดหยุมหยิมกับเจ้า ตอนนี้ก็แค่ล้อเจ้าเล่น นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเอง ทำไมเจ้าถึงยอมแพ้ซะแล้วล่ะ?”

เหลิ่งชิงเหยายอมรับความพ่ายแพ้แล้วจริงๆ นางรู้ว่าตนเองไม่ใช่คนที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพระชายาเฮ่าได้เลย แค่เรื่องความอดทนและการเสแสร้งก็เกินที่ตนเองจะสู้ไหวแล้ว นางทำเป็นใจดีสู้เสือ จำต้องย้ายออกจากจวนเสนาบดีเหลิ่งมาต่อกรกับพระชายาเฮ่า “ในเมื่อท่านก็รู้ว่าข้าคือบุตรีของจวนมหาเสนาบดี ท่านยังกล้าอวดดีเช่นนี้อีก? ในภายหน้าท่านอ๋องยังต้องพึ่งพาจวนมหาเสนาบดีของข้าอยู่นะ!”

พระชายาเฮ่าหัวเราะ และเพราะหัวเราะตามใจไปเกินไปหน่อย ถึงขนาดอดกลั้นไอไม่ได้ ไอจนมีเลือดปนออกมานิดหน่อย

“ย้ายเจ้าไปที่สวนนานขนาดนี้ เสนาบดีเหลิ่งไม่แยแสเจ้าเลย เจ้ายังมองสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ออกอีกเหรอ? ตอนนี้เสนาบดีเหลิ่งแล่นเรือไปตามลม ทุ่มเททำตามแผนการของจวนอ๋องฉี

เจ้าถูกทอดทิ้งแล้วล่ะ”

เหลิ่งชิงเหยาตะลึงเล็กน้อย นางคิดว่าพระชายาเฮ่าก็แค่หญิงสาวคนหนึ่ง ไม่มีประสบการณ์ ตัวเองพ่ายแพ้ให้แก่นางเพียงเพราะนางเป็นพระชายาเอกเท่านั้น

แต่ตอนนี้เหลิ่งชิงเหยากลับเริ่มรู้สึกแล้วว่า พระชายาเฮ่าคนนี้ไม่ได้ไร้พิษสงอย่างที่ตัวเองคิด

นางคิดหาทางออกอยากสุดกำลัง “เป็นไปไม่ได้ ท่านพ่อชื่นชมท่านอ๋องมาโดยตลอด เขาบอกว่าท่านอ๋องมีความรู้รอบด้าน วางแผนกิจการยิ่งใหญ่ เขาพูดว่าเขาชื่นชมท่านอ๋องมาก”

พระชายาเฮ่ายิ้มเยือกเย็น มองไปที่ท้องของนาง “แม้ว่าจะดีแค่ไหน แต่เทียบได้กับมู่หรงอวิ๋นเช่อเหรอ? พวกข้าสองสามีภรรยาใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนักในการเสแสร้งต่อหน้าฮ่องเต้มาตั้งนาน ถ่อมตนกตัญญู ดีงามพร้อมสรรพ ท้ายที่สุดก็เทียบไม่ได้กับการปรากฏตัวของเจ้าตัวน้อยมู่หรงอวิ๋นเช่อ! หากเจ้าทำเพื่อท่านอ๋องจริง เจ้าก็สงบจิตสงบใจคลอดเด็กคนนี้ออกมาให้ดีเถิด”

เหลิ่งชิงเหยาส่ายหน้า “ท่านให้คนอื่นมาทำเถอะ ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ข้าไม่อยากเถียงกับท่านแล้ว”

พระชายาเฮ่าขมวดคิ้ว “ไม่อยากคลอดใช่ไหม ก็ได้ งั้นก็เอามีดผ่าท้องตัวเอง ด้านในคืออะไรกันแน่ เจ้าก็จะรู้เองไม่ใช่หรือไง? ต้องให้ข้าสั่งให้คนนำมีดมาให้ไหม? เชื่อข้าเถอะ หากเจ้ารู้แล้วจะต้องเสียใจแน่นอน”

เหลิ่งชิงเหยาไม่มีความกล้าขนาดนั้น นางตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา