ในหมู่บ้าน
เหลิ่งชิงเหยากังวลมาก
มองเหลิ่งชิงเจียวออกไปจากหมู่บ้าน หมอและคนอื่นๆก็ไม่ได้ขัดขวางไว้
แต่ว่า นางเห็นว่าหลังจากที่เหลิ่งชิงเจียวออกไป หมอก็หันไปส่งสายตาให้ผู้คุมสองคนนั้น ทั้งสองก็รีบตามเหลิ่งชิงเจียวออกไปทันที
นางไม่รู้ว่าความกล้าของพระชายาเฮ่าจะมีมากเพียงใด กล้าหรือไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับจวนมหาเสนาบดี กล้าที่จะขัดขวางเหลิ่งชิงเจียว หรือแม้กระทั่งจะทำเรื่องที่มันใจกล้ามากขึ้นอีกไหม
นางยังคงคิดอย่างไร้เดียงสา ถ้าหากพวกเขาปล่อยเหลิ่งชิงเจียวไปจริงๆ ชิงเจียวกลับไปถึงจวนมหาเสนาบดีแล้วบอกความจริง เชื่อว่าเสนาบดีเหลิ่งไม่มีทางไม่สนใจแน่นอน
นางยังคงมีความหวังรอคนของจวนมหาเสนาบดีมาช่วยตัวเองให้รอดพ้นการตกนรกทั้งเป็นนี้
ในเวลานี้ ไม่ว่าโทษฐานลบหลู่เบื้องสูงหรือต้องสูญเสียความโปรดปรานจากอ๋องเฮ่า มันไม่สำคัญแล้ว นางเพียงต้องการมีชีวิตอยู่
ท้องฟ้าใกล้มืดแล้ว
คนรับใช้ที่เฝ้าเหลิ่งชิงเหยาอยู่ด้านนอกทำความเคารพ
นางรีบลุกขึ้นจากเตียงทันที มองไปรอบๆในลานบ้าน
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ เหมือนกับคนจวนมหาเสนาบดีมา
แต่ผลลัพธ์กลับทำให้นางต้องผิดหวัง คนที่มานั้นไม่ใช่คนของจวนมหาเสนาบดี แต่เป็นพระชายาเฮ่า
สาวรับใช้ประคองพระชายาเฮ่ามา ยกม่านกันออกมาจากเกี้ยว ทันใดนั้นสายตาแค้นเคืองของเหลิ่งชิงเหยาก็สาดออกมาเหมือนกับมีดสองด้าม จ้องมองพระชายาเฮ่าที่เหมือนต้นหลิวบอบบางปลิวตามลม
ร่างกายของพระชายาเฮ่าดูเหมือนจะแย่กว่าแต่ก่อน จะเดินเหินต้องให้สาวรับใช้ประคอง เดินก้าวแต่ละครั้งก็เหนื่อยหอบ สีหน้าซีดเซียว
เกี่ยวกับร่างกายของพระชายาเฮ่า เหลิ่งชิงเหยาเคยให้เด็กรับใช้ไปสอบถามในจวนมาแล้ว ว่านางป่วยเป็นอะไรกันแน่
เด็กรับใช้ในจวนก็ไม่กล้าที่จะพูดเหตุผลออกมา บอกเพียงว่าเลือดจางอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะปีนี้แย่ลงเรื่อยๆ ทั้งยังเคยอาเจียนเป็นเลือดครั้งนึง
เหลิ่งชิงเหยาไม่เชื่อคำพูดข้ออ้างนี้ของเด็กรับใช้ อายุยังน้อย ทั้งยังไม่เคยคลอดลูกมาก่อน ไม่เคยได้รับบาดเจ็บ จะเลือดจางได้ยังไงกัน?
แต่นางเกิดและเติบโตในจวนมหาเสนาบดี ไม่เคยออกนอกบ้าน ประสบการณ์มีจำกัด ไม่เข้าใจอาการป่วยเหล่านี้ เวลาที่คุยกับเซวียอี๋เหนียง ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่เคยพูดถึงเรื่องสุขภาพของพระชายาเฮ่า
เซวียอี๋เหนียงไม่เคยให้ความเห็นอะไรที่เป็นประโยชน์แก่นางเลย ตรงกันข้าม ยังลำพองใจเพราะเรื่องนี้ บอกว่ายิ่งนางสุขภาพอ่อนแอยิ่งเป็นเรื่องดี ไม่มีลักษณะของผู้ที่จะมีอายุยืนยาวเลย ตายเร็วหน่อยก็ดี เหลิ่งชิงเหยาจะได้ย้ายกลับมาเร็วๆ
ถ้าจะให้อธิบายสภาพของพระชายาเฮ่า ที่เห็นจากสายตาตอนนี้ก็เหมือนกับยามพลบค่ำ สีหน้าซีดเซียวจนแทบจะโปร่งแสง
นางรู้ว่าที่พระชายาเฮ่ามาที่นี่เป็นเพราะตัวเองอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นสถานที่สกปรกเช่นนี้ นางจะย่างก้าวเข้ามาได้ยังไงกัน
แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทหารอารักขาด้านหน้าเปิดประตู
แม่เฒ่าย้ายเก้าอี้ไปวางไว้ที่ในลานบ้าน และปูที่รองนั่งอย่างละเอียดรอบคอบ
สาวรับใช้ประคองพระชายาเฮ่านั่งลง
ด้านนอกมีครอบครัวชาวนาที่กลับมาตอนพลบค่ำนั่งยองๆอยู่ด้วยกันไกลๆ ด้านหนึ่งประคองชามข้าวใบใหญ่กินข้าวคำโต อีกด้านหนึ่งก็มองเรื่องครึกครื้นในบ้าน
เหลิ่งชิงเหยาออกมาจากห้อง มองพระชายาเฮ่าอย่างเย็นชา และถามไปตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม
“ต้องทำอย่างไรท่านถึงจะยอมปล่อยข้าไป” น้ำเสียงของนางอ่อนลง อ้อนวอนเล็กน้อย
พระชายาเฮ่าจ้องเหลิ่งชิงเหยาตาเขม็ง หลังจากนั้นก็หัวเราะพรืดออกมา “นึกถึงตอนแรกเจ้าพยายามทุกวิถีทางที่จะแต่งเข้าจวนอ๋องเฮ่า ข้ายังนึกว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ตลอดห้าปีที่ผ่านมา เจ้าอาศัยจวนมหาเสนาบดีคอยหนุนหลังโอ้อวดกำลังต่อหน้าข้า ทะเลาะตบตีแย่งชิงอำนาจ เจ้าดูข้าสิ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยคิดหยุมหยิมกับเจ้า ตอนนี้ก็แค่ล้อเจ้าเล่น นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเอง ทำไมเจ้าถึงยอมแพ้ซะแล้วล่ะ?”
เหลิ่งชิงเหยายอมรับความพ่ายแพ้แล้วจริงๆ นางรู้ว่าตนเองไม่ใช่คนที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพระชายาเฮ่าได้เลย แค่เรื่องความอดทนและการเสแสร้งก็เกินที่ตนเองจะสู้ไหวแล้ว นางทำเป็นใจดีสู้เสือ จำต้องย้ายออกจากจวนเสนาบดีเหลิ่งมาต่อกรกับพระชายาเฮ่า “ในเมื่อท่านก็รู้ว่าข้าคือบุตรีของจวนมหาเสนาบดี ท่านยังกล้าอวดดีเช่นนี้อีก? ในภายหน้าท่านอ๋องยังต้องพึ่งพาจวนมหาเสนาบดีของข้าอยู่นะ!”
พระชายาเฮ่าหัวเราะ และเพราะหัวเราะตามใจไปเกินไปหน่อย ถึงขนาดอดกลั้นไอไม่ได้ ไอจนมีเลือดปนออกมานิดหน่อย
“ย้ายเจ้าไปที่สวนนานขนาดนี้ เสนาบดีเหลิ่งไม่แยแสเจ้าเลย เจ้ายังมองสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ออกอีกเหรอ? ตอนนี้เสนาบดีเหลิ่งแล่นเรือไปตามลม ทุ่มเททำตามแผนการของจวนอ๋องฉี
เจ้าถูกทอดทิ้งแล้วล่ะ”
เหลิ่งชิงเหยาตะลึงเล็กน้อย นางคิดว่าพระชายาเฮ่าก็แค่หญิงสาวคนหนึ่ง ไม่มีประสบการณ์ ตัวเองพ่ายแพ้ให้แก่นางเพียงเพราะนางเป็นพระชายาเอกเท่านั้น
แต่ตอนนี้เหลิ่งชิงเหยากลับเริ่มรู้สึกแล้วว่า พระชายาเฮ่าคนนี้ไม่ได้ไร้พิษสงอย่างที่ตัวเองคิด
นางคิดหาทางออกอยากสุดกำลัง “เป็นไปไม่ได้ ท่านพ่อชื่นชมท่านอ๋องมาโดยตลอด เขาบอกว่าท่านอ๋องมีความรู้รอบด้าน วางแผนกิจการยิ่งใหญ่ เขาพูดว่าเขาชื่นชมท่านอ๋องมาก”
พระชายาเฮ่ายิ้มเยือกเย็น มองไปที่ท้องของนาง “แม้ว่าจะดีแค่ไหน แต่เทียบได้กับมู่หรงอวิ๋นเช่อเหรอ? พวกข้าสองสามีภรรยาใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนักในการเสแสร้งต่อหน้าฮ่องเต้มาตั้งนาน ถ่อมตนกตัญญู ดีงามพร้อมสรรพ ท้ายที่สุดก็เทียบไม่ได้กับการปรากฏตัวของเจ้าตัวน้อยมู่หรงอวิ๋นเช่อ! หากเจ้าทำเพื่อท่านอ๋องจริง เจ้าก็สงบจิตสงบใจคลอดเด็กคนนี้ออกมาให้ดีเถิด”
เหลิ่งชิงเหยาส่ายหน้า “ท่านให้คนอื่นมาทำเถอะ ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ข้าไม่อยากเถียงกับท่านแล้ว”
พระชายาเฮ่าขมวดคิ้ว “ไม่อยากคลอดใช่ไหม ก็ได้ งั้นก็เอามีดผ่าท้องตัวเอง ด้านในคืออะไรกันแน่ เจ้าก็จะรู้เองไม่ใช่หรือไง? ต้องให้ข้าสั่งให้คนนำมีดมาให้ไหม? เชื่อข้าเถอะ หากเจ้ารู้แล้วจะต้องเสียใจแน่นอน”
เหลิ่งชิงเหยาไม่มีความกล้าขนาดนั้น นางตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...