ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 812

ฮ่องเต้ชราที่บนเก้าอี้มังกรก็ผงะเช่นกัน เขาคาดไม่ถึง ความสุขเมื่อครู่ของเขาถูกขัด

ยิ่งกว่านั้นชายชราไม่เชื่อว่าลูกสะใภ้ที่มีคุณธรรมจะทำเรื่องผิดกฎหมายเช่นนี้

เขาถามเสนาบดีเหลิ่ง “เจ้าพูดจริงหรือ?”

เสนาบดีเหลิ่งหมอบลงกับพื้นพร้อมกับน้ำตาไหลอาบหน้า “ชิงเจียวบุตรของกระหม่อมฟื้นแล้ว เขารออยู่นอกวัง เขาสามารถพิสูจน์ได้ว่ากระหม่อมพูดความจริง เมื่อคืนเจ้ากรมการนครเสิ่นและกระหม่อมได้ไปช่วยคนที่นอกเมืองด้วยกัน เขาเองก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าคำพูดของกระหม่อมเป็นความจริง ขอฝ่าบาทโปรดให้ความเป็นธรรมด้วยขอรับ”

เมื่อฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นก็โกรธทันที

เขาได้เห็นการต่อสู้ที่เปิดเผยและแอบแฝงระหว่างสตรีมามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นวิธีการที่โหดเหี้ยมและเหิมเกริมเช่นนี้

“ทหาร เรียกเหลิ่งชิงเจียวและพระชายาเฮ่าเข้าวัง!”

เหลิ่งชิงเจียวที่กำลังรออยู่นอกวังถูกพยุงเข้ามา บนศีรษะมีผ้าพัน ใบหน้าซีดเซียว แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเพิ่งฟื้น เขาคุกเข่าทำความเคารพ จากนั้นจึงเล่าเรื่องที่เขาไปที่นาเพียงคนเดียวอย่างละเอียด

พระชายาเฮ่าใจกล้าบ้าบิ่นฆ่าปิดปาก ข้าราชบริพารที่ได้ยินก็ต่างตะลึงงัน

หลังจากนั้นไม่นานพระชายาเฮ่าก็เข้ามาในวัง นางถูกพยุงเข้ามา หอบเหนื่อยกับทุกย่างก้าว จนทำให้ผู้ที่ได้เห็นไม่สามารถเชื่อมโยงกับสิ่งที่เสนาบดีเหลิ่งพูดได้

พระชายาเฮ่าคุกเข่าคำนับถวายพระพร และอุ้มทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน

นัยน์ตาของฮ่องเต้ชราถูกผ้าพันสีแดงผืนใหญ่ดึงดูดทันที เขามองดูมันอย่างกระตือรือร้น แม้ว่าเขาจะไม่ตื่นเต้นและปลาบปลื้มเหมือนตอนที่เขาเห็นอวิ๋นเช่อเป็นครั้งแรก แต่เขาก็ยังคงจ้องตาเป็นประกาย

“พระชายาเฮ่า ข้าขอถามเจ้า เสนาบดีเหลิ่งฟ้องร้องว่าเจ้าคิดจะฆ่าบุตรของเขาเพื่อปิดปาก ทำร้ายชายารอง เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่?”

พระชายาเฮ่าไม่รีบร้อน นางเตรียมการไว้แล้ว “หม่อมฉันโดนใส่ร้ายเพคะ นับตั้งแต่ชายารองแต่งเข้ามาในจวน พวกเราก็สนิทสนมกันดี ทุกคนต่างก็เห็นพ้องต้องกัน หม่อมฉันจะฆ่าปิดปากนางทำไมล่ะเพคะ?”

“แต่ชายารองกำลังตั้งครรภ์ เลือดลมไม่ดีจนทำให้นางกลายเป็นคนวิกลจริต หวาดระแวงทำตัวผิดปกติ และยังทำร้ายหม่อมฉันโดยไม่รู้ตัว ชาวนาหลายคนก็เป็นพยานได้ แม้หม่อมฉันจะบาดเจ็บแต่ก็ยังคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองจวน กลัวว่านางจะถูกลงโทษจึงไม่กล้าป่าวประกาศเรื่องนี้ ได้แต่สั่งให้บ่าวดูแลนางให้ดีไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก”

“คุณชายน้อยแห่งจวนเสนาบดีแอบเข้าไปในนา ไม่มีใครกล้าขวางเขา เขาเกิดอุบัติเหตุตกม้ากลางทางแล้วมันเกี่ยวอะไรกับจวนอ๋องเฮ่าเพคะ?”

“พูดถึงการผ่าคลอด หม่อมฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด เซวียอี๋เหนียงมาที่นาบอกว่าต้องการจะมาอยู่เป็นเพื่อนนางตอนคลอด และไม่อนุญาตให้หมอตำแยของหม่อมฉันเข้าใกล้ เมื่อคืนเป็นเพราะหม่อมฉันหละหลวมทำให้ครรภ์ของชายารองกระทบกระเทือน หม่อมฉันจึงให้หมอตำแยในจวนรีบช่วยนางทันที”

“แต่ต่อมานางกลับคลอดยาก สถานการณ์ไม่สู้ดี นางผดุงครรภ์ขอให้หม่อมฉันเลือกว่าจะช่วยเด็กหรือผู้ใหญ่ หม่อมฉันอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในแง่หนึ่งคือความรักที่ลึกซึ้งระหว่างพี่สาวน้องสาว อีกด้านหนึ่งคือสายเลือดอันสูงส่งของราชวงศ์ หม่อมฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ในขณะนั้นจึงถามความเห็นของเซวียอี๋เหนียง”

“หลายคนที่อยู่ในตอนนั้นก็เป็นพยานได้ว่าเซวียอี๋เหนียงเลือกที่จะช่วยชีวิตเด็ก ประตูเมืองก็ปิดแล้ว หม่อมฉันเป็นสตรีไม่อาจตัดสินใจได้ ดังนั้นจึงฟังคำพูดของเซวียอี๋เหนียงและสั่งให้นางผดุงครรภ์ช่วยชีวิตเด็ก”

“แต่ต่อมาสถานการณ์วิกฤติ หม่อมฉันหมดหนทางจริงๆ เมื่อเห็นว่าไม่อาจรักษาไว้ได้ จึงได้แต่แข็งใจให้นางผดุงครรภ์ตัดมดลูกของนางออกมา เช่นเดียวกับครั้งนั้นที่พระชายาฉีช่วยชีวิตพระชายารุ่ย ทำไมพอเป็นหม่อมฉันถึงได้กลายเป็นการจงใจฆ่าล่ะเพคะ?”

“ลูกสะใภ้ทำอะไรผิดหรือเพคะ? ชีวิตพระนัดดาผู้นี้มีค่าไม่เท่าชีวิตสนมจากจวนมหาเสนาบดีเลยหรือเพคะ?”

หลังจากพูดจบนางก็ก้มหน้าทั้งน้ำตาและมองดูทารกน้อยในอ้อมแขน สะอื้นร้องไห้เบาๆ การพูดแก้ต่างอย่างมีชั้นเชิงของนางเรียกได้ว่ามีพื้นฐานที่ดีและน่าเชื่อถือ ซึ่งทำให้เหล่าขุนนางต่างผงกหัวเห็นด้วยครั้งแล้วครั้งเล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา