ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 829

พระสนมฮุ่ยเฟยเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตราหยกประจำแผ่นดินไปอยู่ที่ไหน ตามปกติแล้วฮ่องเต้ไม่เคยเก็บซ่อนสิ่งของอะไร แต่ทำไมจู่ๆ เมื่อเขาเป็นลมล้มพับไปแล้วมันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้

หรือว่าลู่กงกงจะเอาไปซ่อนไวจริงๆ ชายผู้นี้เป็นคนฉลาด แต่น่าเสียดายที่ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนั้น

พระสนมฮุ่ยเฟยแสดงสีหน้าไม่พอใจกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เรื่องนี้สำคัญมาก พวกเราควรจะสอบสวนอย่างละเอียด ห้ามใส่ความคนดีและปล่อยให้คนชั่วลอยนวล”

พระสนมหลินเฟยมองดูท่าทางเสแสร้งและเหล่ตาด้วยความสงสัย “หากพระนางอยากจะช่วยลู่กงกงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอแค่ท่านพิสูจน์ได้ว่าตราหยกประจำแผ่นดินอยู่ที่ไหน เมื่อนั้นก็จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลู่กงกงได้”

พระสนมฮุ่ยเฟยเม้มริมฝีปากอย่างไร้เดียงสา “ฮ่องเต้ทรงเอ็นดูเจ้าเสมอ พระสนมหลินเฟย มีใครในวังบ้างที่ไม่รู้เรื่องนี้ แล้วข้าจะไปหาตราหยกประจำแผ่นดินนั่นที่ไหนกัน”

พระสนมหลินเฟยเย้ยหยันอย่างเย็นชา “พูดอีกก็ถูกอีก เมื่อก่อนท่านเป็นถึงแม่ของอ๋องฉีและพระชายาจนได้ดี ตอนนี้อ๋องฉีสละชีพเพื่อบ้านเมือง ท่านทั้งชราและอ่อนแอ ต่อไปฮ่องเต้คงจะไม่มองท่านแม้หางตา ตราหยกประจำแผ่นดินเป็นสมบัติของบ้านเมืองที่สำคัญมาก ไม่แปลกที่ท่านจะไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”

คำพูดนั้นทำให้พระสนมฮุ่ยเฟยโกรธขึ้นมาทันที จะพูดจาเยาะเย้ยนางก็ช่าง แต่การพูดจาดราวกับเอามีดมาแทงหัวใจนางเช่นนั้นเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด

จากนั้นนางจึงพรั่งพรูความในใจออกไปอย่างใจร้อน

“เป็นความจริงที่ว่าข้าเทียบเจ้าไม่ได้ พระสนมหลินเฟย เจ้าทั้งงดงามและยั่วยวนให้ฝ่าบาทหลงใหล แต่การกระทำเหล่านั้นกลับทำลายความรักที่ฝ่าบาทมีต่อเจ้าต่างหาก”

เมื่อได้ฟัง สีหน้าของพระสนมหลินเฟยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ดวงตาของนางดุร้ายขึ้นทันที “นี่ท่านรู้อะไรมางั้นหรือ”

พระสนมฮุ่ยเฟยตระหนักได้ว่านางไม่ควรด่วนพูดไปชั่วขณะ หากแสดงออกว่าตนเองรู้มากเกินไปอาจถูกสังหารได้ “ข้าไม่รู้อะไร”

พระสนมหลินเฟยก้าวเข้าหาพระสนมฮุ่ยเฟยทีละก้าว

“เหลิ่งชิงฮวนบอกอะไรท่านหรือไม่”

พระสนมฮุ่ยเฟยอยากจะตบปากตัวเองสักฉาด เหตุใดตนเองถึงปากไวเช่นนี้

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอ่อนไหวของอ๋องเฮ่าในการชิงบัลลังก์ ความลับในชีวิตที่ผ่านมาจะต้องไม่ถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน ไม่เช่นนั้นแผนการของเขาถูกทำลายไปจนสิ้น

หากพระสนมหลินรู้ว่าชิงฮวนล่วงรู้ความลับที่ผ่านมาของอ๋องเฮ่า นางจะต้องไม่ปล่อยชิงฮวนไปอย่างแน่นอน

พระสนมฮุ่ยเฟยส่ายหน้าไปมา เมื่อเห็นว่าไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ตรงหน้าได้ นางจึงปิดหน้าและเริ่มหลั่งน้ำตา

“ตอนนี้ท่านชนะแล้ว ฉีเอ๋อร์ของข้าสละชีพเพื่อชาติ ข้าไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว ข้าได้เพียงปล่อยให้ท่านรังแกแบบนี้ต่อไป”

พระสนมฮุ่ยเฟยกรีดร้องสุดเสียง แม้แต่ผู้คนที่อยู่นอกห้องโถงก็ยังได้ยินเสียงร้องไห้ของนางอย่างชัดเจน

พระสนมหลินเฟยกัดฟันแน่น “เลิกแกล้งบ้าได้แล้ว คนอื่นอาจจะเชื่อ แต่ข้าไม่เชื่อ!” พระสนมฮุ่ยเฟยพูดพล่ามต่อไปด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ “เจ้าไม่เรียกแทนตนเองว่าหม่อมฉันตอนที่อยู่ตรงหน้าข้า แต่เจ้ากลับใช้คำว่าข้าด้วยซ้ำ ต่อไปเจ้าคงจะจับข้าไปทรมานเช่นเดียวกับลู่กงกงเพื่อให้ยอมรับสารภาพสินะ ข้าบอกไปหมดแล้ว ข้าไม่รู้ว่าตราหยกประจำแผ่นดินอยู่ที่ไหน”

พระสนมหลินเฟยตกตะลึง นางไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดจาเช่นนี้ออกมา หากมีใครได้ยินและแพร่งพรายคำพูดเหล่านี้ออกไปจะต้องไม่ดีอย่างแน่นอน

“หุบปาก!”

พระสนมฮุ่ยเฟยหยุดร้องไห้ทันที

นางเม้มริมฝีปากและตะโกนดังอีกครั้ง “ฝ่าบาท ได้โปรดลืมตาขึ้นมาดูเถอะ พระสนมหลินเฟยกำลังรังแกผู้อื่น นางต้องการเหยียบพี่น้องทุกคน นางต้องการทรมานพวกเรา โดยไม่ปล่อยใครไปแม้แต่คนเดียว”

พระสนมหลินเฟยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของพระสนมฮุ่ยเฟยได้อีกต่อไป เพราะนางเอาแต่ตะโกนโห่ร้อง ไม่ใช้เหตุผลในการพูดคุย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาแสดงความไม่พอใจต่อจวนกั๋วกง นางตัดสินใจว่าจะออกไปจัดการคนด้านนอกเสียก่อน แล้วค่อยกลับมาสะสางบัญชีกับคนตรงหน้าในภายหลัง

พระสนมหลินเฟยเดินออกจากตำหนักเยี่ยนชิงและเปล่งเสียงออกคำสั่ง “จวนรุ่งสางแล้ว หากไม่มีธุระอันใดก็กลับไปเถอะ กลับไปสำนึกตนและไม่เดินไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ ห้ามพูดเรื่องไร้สาระ ไม่อย่างนั้นจะถูกจัดการตามกฎของพระราชวัง”

พระสนมหลินเฟยกัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยว ต้องเป็นพระสนมฮุ่ยเฟยแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา