ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 858

วันนี้เป็นวันฤกษ์งามยามดีที่จะจัดพิธีฝังพระศพของอ๋องฉี

แต่เพราะว่าสุสานหลวงตั้งอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงค่อนข้างมาก ขบวนแห่พระศพจึงออกเดินทางกันตั้งแต่กลางดึก ต้องทำเช่นนี้จึงจะสามารถฝังพระศพได้ทันก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

ผู้คนที่มาส่งพระศพต่างพากันเบียดเสียดกันเต็มท้องถนนหน้าประตูจวนอ๋องฉี และพร้อมใจกันคุกเข่าอย่างพร้อมเพรียงเงียบ ๆ มองส่งโลงศพของมู่หรงฉีที่ค่อย ๆ ออกจากจวนอ๋องฉีไป

มีผู้ถือธงสวดมนต์และกองทหารเกียรติยศเปิดทางให้ มีทั้งแบกหาม มีทั้งถือธงและโปรยกระดาษต่าง ๆ และยังมีพระภิกษุสงฆ์และนักพรตคอยสวดมนต์เป่าขลุ่ยให้ ขุนนางทั้งหลายมาส่งพระศพเดินตามหลังขบวนด้วยรถม้า แต่ละคันสง่างามและดูสูงส่ง ขบวนยาวเหยียดหลายลี้อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา และเต็มไปด้วยกระดาษขาวปลิวว่อนเหมือนกลับกลีบดอกไม้ที่กำลังร่วงโรย

เหลิ่งชิงฮวนสวมชุดไว้ทุกข์นั่งอยู่บนรถม้านำขบวนพร้อมกันกับอวิ๋นเช่อ อ๋องรุ่ย เหลิ่งชิงเฮ่อ และคนอื่น ๆ ส่วนด้านหลังเป็นรถม้าของพระชายาของอ๋องเซวียนและญาติสตรีท่านอื่นๆ

อวิ๋นเช่อนอนซบหัวพิงอยู่ขอบหน้าต่างรถม้าและมองออกไปข้างนอก มีบางครั้งที่หันหน้ามาหาชิงฮวนทำเป็นกระต่ายตื่นตูมส่งเสียงเอะอะโวยวายเมื่อเห็นเรื่องที่แปลกประหลาดไม่คุ้นตา

ชิงฮวนพูดตอบอย่างขอไปที เพราะในใจเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย ไม่อยากจะพูดอะไรสักคำ อยากจะคิดอะไรอย่างเงียบ ๆ

พิธีการทั้งหมดที่ยุ่งยากและอลังการทั้งหมดนี้เป็นรองแม่ทัพอวี๋ เหลิ่งชิงเฮ่อและคนอื่น ๆ ดูแลจัดการให้นางทุกอย่าง ทุกคนขอให้นางวางใจทำการฟื้นฟูร่างกายและสภาพจิตใจให้สงบเพื่อปกป้องลูกในครรภ์ของตัวเองให้ดี ๆ ก็พอ

มีแขกไป ๆ มา ๆมากมายแต่มีเพียงอ๋องเชียนเท่านั้นที่ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

หรงกุ้ยเหรินเดิมที่ก็เป็นคนที่ปรับตัวตามสถานการณ์เก่งอยู่แล้ว ตอนนี้พระสนมหลินเฟยมีอำนาจอยู่ในมือ นางจึงตีสนิทใกล้ชิดกับพระสนมหลินเฟยให้มากขึ้นไปอีก เพื่อรักษาความมั่งคั่งและเกียรติยศของลูกชายตัวเอง นางจึงคอยเข้าหาพระสนมหลินเฟยบ่อย ๆ และเรียกพระชายาเชียนเข้าวังหลวงเพื่อไปเป็นกำลังให้พระสนมหลินเฟยอีกแรง

พระชายารุ่ยโกรธมากกับเรื่องนี้ และด่าว่าอ๋องเชียนเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมเยี่ยงหมาป่า ไม่สนใจความสนิทของญาติมิตร คู่สามีภรรยาคู่นี้ไม่ควรที่จะคบหาด้วย

ชิงฮวนไม่มีอะไรมากไปกว่าการหัวเราะอย่างขำ ๆ ตัวเองกับอ๋องเชียนก็ไม่ได้สนิทอะไรกันอยู่แล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่อันตรายและยากลำบากเช่นนี้ เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่จะรักตัวกลัวตายทำการปกป้องตัวเองอย่างชาญฉลาด

ในทางกลับกันเป็นอ๋องรุ่ยที่มีจุดยืนที่ชัดเจนและทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ แม้จะว่าต้องเสี่ยงต่อการทำให้อ๋องเฮ่าขุ่นเคืองใจก็ตาม เขาทำให้ชิงฮวนต้องเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อเขาใหม่

เมื่อวานเขานำพระสงฆ์และนักพรตตัวปลอมกลุ่มหนึ่งเข้าไปในวังหลวง และโต้เถียงอย่างมีเหตุมีผลจงใจยั่วยุพระสนมหลินเฟยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพระสนมหลินเฟย จะได้เปิดทางให้พระสนมฮุ่ยเฟยสามารถแอบทำสิ่งต่าง ๆ อย่างลับ ๆ ได้โดยที่ไม่มีใครจับสังเกตได้

พระสนมหลินเฟยโกรธจนลมแทบจับจนต้องการจะตัดหัวและฆ่าทิ้ง อ๋องรุ่ยถึงได้พาคนออกจากวังหลวงทันที

เสิ่นหลินเฟิงรับผิดชอบสอบสวนนักบุญหญิงเจ้าสำนักและพระชายาเฮ่า ถึงแม้เขาจะลงมือสอบสวนอย่างไร้ซึ่งความปรานี ก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย การสะกดจิต สำหรับทั้งสองคนแล้วก็เป็นเพียงวิธีกระจอกเอาไว้หลอกเด็กก็เท่านั้น ทั้งสองคนยังคงกัดฟันแน่นและต่อต้าน เสิ่นหลินเฟิงเองก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว

ชิงฮวนคาดเดาว่า พวกนางกำลังรอ รอให้อ๋องเฮ่าพลิกกระดานกลับมาและช่วยพวกนางออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ นี่เป็นทางรอดเดียวของพวกนาง

เสิ่นหลินเฟิงเล่าว่า เมื่อวานอ๋องเฮ่าไปที่ห้องสอบสวนด้วยตัวเอง แต่ว่าถูกพระสนมหลินเฟยขวางเอาไว้ข้างนอกเสียก่อน ไม่รู้ว่าบ่นพูดพึมพำอะไร จนอ๋องเฮ่าเกิดโมโหขึ้นมาเล็กน้อยจนมีปากมีเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเดินจากไป

ดูจากรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้ ชิงฮวนสามารถมองออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองแม่ลูกคู่นี้ไม่ได้มีความกตัญญูกตเวทีเหมือนอย่างที่แสดงให้เห็นแต่อย่างใด การที่พระสนมหลินเฟยไร้น้ำใจต่อพระชายาเฮ่า จะต้องนำพาซึ่งความขัดแย้งเป็นแน่

ในมุมมองของชิงฮวน พระสนมหลินเฟยไม่มีคุณสมบัติของการเป็นแม่คน

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องชาติกำเนิดของอ๋องเฮ่า แค่พิจารณาจากเรื่องต่างๆที่ทำ หรงกุ้ยเหรินแค่เพียงต้องการให้ลูกกลายเป็นมังกร แต่กลับเห็นแก่ตัวโดยให้อ๋องเฮ่ามาแบกรับความผิดที่นางเคยทำในสมัยยังเยาว์วัย ให้อ๋องเฮ่าเสียสละคนที่ตัวเองรัก ครอบครัวของตัวเองและชื่อเสียงในชาตินี้เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของตัวนางเอง

ผู้หญิงทุกคนในวังหลวงต่างมีความปรารถนาที่จะมีอำนาจในมือทั้งสิ้น ก็เหมือนพระสนมฮุ่ยเฟยที่ในตอนแรกก็เข้ามาแทรกแซงเรื่องการแต่งงานของมู่หรงฉี ยืนกรานที่จะยัดเยียดจิ่นอวี๋ที่ตัวเองถูกใจมอบให้เขา ราวกับว่าไม่เคยบ่มเพาะให้มู่หรงฉีเกิดความทะเยอทะยานมาก่อนยังไงยังงั้น นางทั้งแทรกแซงอิสระของเขา รวมไปถึงอุดมคติและการใช้ชีวิตของเขาเกินงาม

สองวันนี้ไม่ได้ข่าวอะไรจากมู่หรงฉีเลย

ชิงฮวนรู้ว่าเขากำลังติดตามการเคลื่อนไหวของกองทหารและม้าศึกของอ๋องเฮ่าอย่างใกล้ชิด และจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างแม่นยำที่สุดตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และต้องเคลื่อนย้ายกำลังทหารแข่งกับเวลา และไม่มีการเตรียมการอะไรไว้ล่วงหน้า

สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือทำการต่อสู้ เขาจึงยุ่งกว่าใคร ๆ และเหนื่อยกับการวางแผนภาพรวม ไม่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้

มู่หรงฉี อุทยานสวนฝังพระศพแห่งนี้ได้รับการซ่อมแซมอย่างเร่งรีบจนเสร็จ แต่ฤกษ์งามยามดีของท่านยังมาไม่ถึง ยังต้องผ่านอะไรอีกยาวไกล ภายใต้แสงไฟที่ส่องสว่างทอดยาวไปตลอดทางสามารถมองเห็นห้องโถงหลังประตูที่เปิดแง้มเอาไว้และเห็นวังใต้ดินที่หว้าแหว่ได้อย่างชัดเจน

จากนั้นโลงศพของมู่หรงฉี จึงจะสามารถวางฝังลงบนเตียงสมบัติได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา