ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 884

ไม่กี่นาทีต่อมา พระสนมหลินเฟยก็ยืนอยู่ตรงหน้าพระสนมฮุ่ยเฟย ใช้กระบี่จ่อไปที่หน้าของนาง

“หัวใจของเจ้าช่างยิ่งใหญ่จริงๆ เวลาเช่นนี้ก็ยังนอนหลับได้”

ฮุ่ยเฟยกระพริบตาอย่างมิรู้อิโหน่อิเหน่ “ข้ามิได้หลับ แค่ร้องไห้เหนื่อยจนหลับไปต่างหาก”

หลินเฟยมองไปยังใบหน้าที่แดงก่ำของนาง และพูดจาเหยียดหยัน “มู่หรงฉียังมิตาย เจ้าร้องไห้ให้ใครกัน?”

ฮุ่ยเฟยจ้องเขม็ง มุมปากยกยิ้มกว้าง “เข้ายังมิตายรึ? ยังมิตายจริงๆ หรือ? งั้นก็ดีเลย! เจ้าว่าลูกชายข้าเป็นใคร...”

การแสดงคุยโวของนางทำให้หลินเฟยรำคาญ จึงขยับปลายดาบ ทำให้นางรีบเงียบลงทันที และเอนตัวไปด้านหลัง

“ยังเสแสร้งอยู่อีกรึ? ฮุ่ยเฟย เจ้านี่เสแสร้งแกล้งทำได้จริงๆ เสแสร้งแกล้งโง่ไปตลอดชีวิต เจ้ามิเหนื่อยรึ?”

ฮุ่ยเฟยถูกจับได้ จึงหัวเราะทะเล้นขึ้นมา “เทียบกับเจ้าแล้ว มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ข้าเรียนรู้มาจากเจ้าแค่เสี้ยวเล็บ แต่ได้ประโยชน์ตั้งมากตั้งมายเชียว”

พระสนมหลินเฟยกัดฟัน “เจ้าให้กำเนิดบุตรชายที่แสนดี ช่างเป็นสะใภ้ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ! กล้าทำลายความดีของข้า วันนี้ข้าจะฝังเจ้าไปพร้อมกับฮ่องเต้! ให้มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนมาเสียใจในภายหลังไปตลอดชีวิต!”

เมื่อพระสนมฮุ่ยเฟยได้ฟัง พระสนมหลินเฟยโกรธจัดด้วยความอับอาย และกำลังจริงจัง นางจึงตกใจจนถอยหลังล้มลุกคลุกคลานไปสองสามก้าวและพุ่งไปยังร่างของชายชราผู้เป็นฮ่องเต้ ราวกับแม่ไก่ที่กำลังปกป้องลูกไก่

“เจ้า เจ้าคิดจะปลงพระชนม์ฮ่องเต้รึ?”

พระสนมหลินขบฟันแน่น “เขาทำลายทั้งชีวิตของข้า มิสมควรตายรึ?”

เมื่อเผชิญหน้ากับสตรีผู้บ้าคลั่งในมือถือกระบี่เช่นนี้ จะบอกว่ามิกลัว ก็คงจะโกหก

ทว่าเสืออย่างฮุ่ยเฟยนั้น แม้ว่าจะมีดาบจ่ออยู่ที่คอ ปากของนางจะแสดงความอ่อนแอออกมามิได้เด็ดขาด

“เจ้าโทษสิ่งนี้โทษสิ่งนั้น เหตุใดเจ้าถึงมิโทษตัวเจ้าเองบ้าง? ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เป็นความผิดของเจ้าทั้งนั้น!”

ดวงตาทั้งสองข้างของพระสนมหลินเฟยจ้องเขม็ง “เหลวไหล! ตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าเป็นเหยื่อมาโดยตลอด ทำตามใจตัวเองมิได้ ผิดตรงไหนกัน?”

พระสนมฮุ่ยเฟยเอียงคอ “ในตอนที่พ่อแม่ของเจ้าส่งเจ้าเข้าวัง เหตุใดเจ้าถึงมิขัดขืน มิบอกพวกเขาไปว่าเจ้ามีคนที่เจ้าชอบพออยู่แล้วเล่า”

พระสนมหลินเฟยชะงัก

นางมิกล้าหรอก หากครอบครัวรู้ว่าตนมีสัมพันธ์กับชายอื่นตามใจตน จะถูกทำโทษตามกฏของตระกูลอย่างเคร่งครัด ชื่อเสียงของตนก็จะถูกทำลาย นางมิได้มีความกล้าหาญและความห้าวหาญเช่นนั้นอย่างที่พระสนมฮุ่ยเฟยมีในตอนนั้น โดยการบอกผู้เฒ่ากั๋วกงอย่างตรงไปตรงมาว่าจะต้องแต่งงานก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป ซึ่งนั้นทำให้ผู้เฒ่ากั๋วกงโกรธจนเกือบจะพังจวนกั๋วกง

นางพูดจาฟึดฟัดด้วยความโกรธ “โลกนี้จะมีสักกี่คนที่ไร้ยางอายเหมือนเจ้ากัน”

กล้าทำแต่มิกล้ารับ ตามฉบับของเมียน้อยที่อยากจะเป็นสาวพรหมจรรย์

“ฝ่าบาทโปรดเจ้า เหตุใดเจ้าถึงมิปฏิเสธเขาแล้วบอกความจริงไปเล่า” พระสนมฮุ่ยเฟยยังคงสู้ต่อ “เจ้าเองก็มิกล้าที่จะต่อต้าน สนใจแต่เกียรติ สนใจแต่ชื่อเสียง แค่แสร้งทำเป็นภักดีแน่วแน่ต่อหน้าอ๋องรอง ท่าทางมิมีทางสู้ ยั่วยุให้อ๋องรองโกรธเจ้า หากเจ้ามิใช่นารีผู้เป็นต้นเหตุ แล้วใครกัน?

หลอกฝ่าบาทให้เป็นกบในกะลาตั้งแต่ต้นจนจบ และยังหลงรักเจาหัวปักหัวปำ สุดท้าย เจ้าก็ยังจะผลักความรับผิดชอบมาให้เขา บอกว่าเขาพรากความรักไปจากเจ้า ถึงแม้เจ้าอยากจะฆ่าเขา เจ้าก็มิกล้าเผชิญหน้ากับเขาด้วยใช่หรือไม่? หากเจ้ามีความสามารถ เจ้าก็ทำให้เขาฟื้นขึ้นมาแล้วพูดต่อหน้าให้ชัดๆ ซะ!”

เห็นใจเจ้าที่ไร้ความกล้า ทำได้เพียงวางแผนร้ายลับหลังเท่านั้น

อีกอย่าง ชิงฮวนก็ให้ชายชรากินยาที่พกมาติดต่อกันสองวันแล้ว เหตุใดถึงยังมิมีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาเลยล่ะ?

ตนสู้กับหลินเฟยได้ แต่มิสามารถสู้กับทหารนับพันที่อยู่ด้านนอกได้ ถ้าหากเขายังมิฟื้นขึ้นมาอีก ก็กลัวว่าจะมิตื่นขึ้นมาอีกเลย

“เจ้าคิดจะยั่วยุข้ารึ? เจ้าคิดว่าข้าโง่ถึงขนาดล้างพิษให้เขางั้นหรือ?” หลินเฟยหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะสั่งหัวหน้าเหอ “ยืนบื้ออยู่ทำไม ไปฆ่าไอ้แก่ฮ่องเต้แก้แค้นให้เจ้านายของเจ้าซะ”

หัวหน้าเหอรับคำสั่งแล้วก้าวไปข้างหน้าก่อนจะยกกระบี่ยาวขึ้นหันไปทางชายชราผู้เป็นฮ่องเต้อย่างมิลังเล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา