ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 914

คาดไม่ถึงว่าวันนี้ญาติผู้พี่จะไม่พูดจาจิกกัดโฉวซือเส่า และยังมีท่าทีค่อนข้างสุภาพถ่อมตนอีกด้วย “เจ้าจะขี้เหนียวกับข้ายอมได้ แต่กับอวิ๋นเช่อนั้น หากจะพูดว่าท่านใจกว้างเอื้ออารีก็ดูไม่มากเกินไป เพราะข้าได้ยินมาว่า เจ้ารับปากกับอวิ๋นเช่อว่าค่าใช้จ่ายในชีวิตประวันของเขาทั้งหมดเจ้าจะเหมาจ่ายเอง คำพูดพวกนี้เชื่อถือได้หรือไม่?”

โฉวซือเส่าถึงกลับสำลัก “เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนไขบางอย่างก่อน”

“ข้ารับปาก”

“ห๊า?” โฉวซือเส่ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น ไม่กลับคำแน่นอน ”

โฉวซือเส่ายังคงไม่เชื่อ เรื่องล้อเล่นก็คือเรื่องล้อเล่น แม้ว่าอวิ๋นเช่อจะเรียกท่านพ่อโฉวดังแค่ไหน เขาเองก็รู้ตัวเองดีว่าอยู่ในฐานะอะไร

พ่อค้าก็เป็นได้แค่กลุ่มคนชนชั้นล่าง ต่อให้ตระกูลโฉวจะร่ำรวยมากแค่ไหน หรือว่าต่อให้เป็นพ่อค้าของหลวงก็ตาม อวิ๋นเช่อเป็นใครกัน เขาเป็นถึงหลานของฮ่องเต้เลยนะ ดีไม่ดี ในอนาคตอาจเป็นกษัตริย์ของประเทศ ตัวเองเป็นแค่พ่อค้าคนหนึ่งจะสามารถเป็นพ่อตาของฮ่องเต้ได้ยังไง? กับอวิ๋นเช่อนั่นก็แค่พูดไปก็เท่านั้นไม่ได้คิดอะไร ใครใช้ให้ตัวเองยังปล่อยวางจากเด็กคนนี้ไม่ลงกันล่ะ?

ญาติผู้พี่เห็นโฉวซือเส่าทำสีหน้าอย่างไม่เชื่อถือ จึงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “หรือว่ารู้สึกว่าข้าไม่มีความสามารถที่จะทำสิ่งนั้นได้ใช่หรือไม่? แน่นอนว่าเรื่องการแต่งงานของพวกเด็ก ๆ เป็นเรื่องใหญ่ พวกเรายินดีที่จะให้เขาเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง ข้าเพียงต้องการแสดงเจตนารมณ์ของข้าเพียงเท่านั้น แค่จะบอกว่าข้าไม่ได้ติดอะไรถ้าจะเป็นเช่นนั้น และยินดีที่ได้เห็นมันสำเร็จ”

มือของโฉวซือเส่าที่ถือจอกเหล้าเริ่มสั่นเล็กน้อย “กับดัก นี่ต้องเป็นกับดักแน่ ๆ ถ้าวันนี้ข้าตกปากรับคำขึ้นมา จะต้องสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่าในคราเดียวกันเป็นแน่ ไม่เพียงแต่ต้องยกลูกสาวคนเดียวให้ อีกทั้งกิจการของครอบครัวอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ ทำไมท่านไม่ให้ลูกสาวของท่านแต่งงานเข้าตระกูลโฉวของข้าแทนล่ะ?”

ญาติผู้พี่หันหน้าไปมองแก้วตาดวงใจของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ “ขอเพียงเจ้าเห็นว่าเหมาะสม ข้าก็ไม่ขัดข้อง”

เด็ก ๆ หลายคนมารวมตัวอยู่ด้วยกัน จึงไม่มีใครมีกะจิตกะใจที่จะกินข้าว พากันเล่นพ่อแม่ลูกอยู่ข้าง ๆ

อวิ๋นเย่ว์ถือเข็มในมือเอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือสำลีก้อนหนึ่งเอาไว้ กำลังทำการวินิจฉัยจับชีพจรให้กับเพื่อน ๆ ก่อนจะทำการฉีดยาลงไป

อวิ๋นเฉินมีหน้าที่จัดแถวให้เป็นระเบียบตามลำดับ ใครก็ไม่อาจหลบหนีได้พ้น เพราะสำหรับปีศาจผู้คลั่งไคล้และเอ็นดูน้องสาวคนนี้จะทำตามและเชื่อฟังทุกคำพูดของอวิ๋นเย่ว์เสมอ

มั่วมั่วลูกสาวของโฉวซือเส่ากะพริบตาปริบ ๆ และกัดริมฝีปากสีแดงระเรื่อของนางเพราะรู้สึกกลัวเล็กน้อย ไม่ยอมยืดแขนออกไป จากนั้นนางก็เอ่ยถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า “พี่เย่ว์เจ้าคะ น้องไม่ได้ป่วย น้องขอไม่ฉีดยาได้หรือไม่?”

เหวินเจ๋อลูกชายคนโตของเหลิ่งชิงเฮ่อชอบเด็กหญิงตัวน้อยจากเจียงหนานผู้นี้ที่พูดจาน้ำเสียงเหมือนเด็ก ๆ จึงออกตัวทำเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามโดยการเอ่ยพูดพร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตร “น้องต้านต้าน เจ้าดูน้องมั่วมั่ว...”

อวิ๋นเย่ว์ถลึงตาใส่หนึ่งที “เจ้าลองเรียกต้านต้านอีกครั้งดูสิ? ครั้งก่อนจุดที่ถูกฉีดไม่เจ็บแล้วใช่ไหม?”

เหวินเจ๋อถูกทำให้ตกใจจนตัวสั่น “เจ็บสิ แขนของข้าที่ถูกฉีดเมื่อครั้งก่อนยังเจ็บอยู่เลย”

อวิ๋นเย่ว์ส่งเสียงฮึดฮัดใส่ แสร้งทำเป็นก้มหน้าหน้าตาเขียนใบสั่งยา “ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะฉีดยาบรรเทาอาการปวดให้ท่าน ครั้งนี้เปลี่ยนมาฉีดที่ก้นแทน รับรองว่าต้องรักษาอาการป่วยของท่านจนหายขาดแน่”

เหวินเจ๋อรีบกดสายคาดเอวตรงกางเกงเอาไว้แน่น “ชายหญิงมิควรถูกเนื้อต้องตัวกัน เจ้าก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งจะมาถอดกางเกงผู้ชายได้ไงเล่า หน้าไม่อายยิ่งนัก!”

อวิ๋นเย่ว์ไม่พูดพร่ำทำเพลงเอาเข็มฉีดยาในมือเล็งไปที่สายคาดเอวเขา และก้าวขึ้นไปข้างหน้าสองก้าว จากนั้นก็นำมือทั้งสองข้างไปวางลงบนไหล่ของเหวินเจ๋อและออกแรงสุดกำลัง พอขาเขาสะดุด เหวินเจ๋อก็ล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นนางก็ขึ้นคร่อมและยกชายเสื้อของเขาขึ้นแล้วดึงกางเกงลง

การเคลื่อนไหวทุกกระบวนท่าทำเสร็จสิ้นในลมหายใจเดียวเท่านั้น ช่างลื่นไหลดังสายน้ำและมีท่าทางกล้าหาญองอาจยิ่งนัก

เหวินเจ๋อตะโกนเสียงดังเอะอะโวยวาย อวิ๋นเย่ว์ทำเป็นหูทวนลม นำสะโพกหนัก ๆ ของนางกดลงที่ด้านหลังส่วนเอวของเขา มือข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ดึงเข็มฉีดยาออกมาจากเอวและยกขึ้นเหนือหัว จากนั้นเสียง ‘กึก’ ดังขึ้น นางแทงเข้าไปที่ก้นของเหวินเจ๋อเป็นที่เรียบร้อย

แม้เข็มฉีดยาจะไม่มีเข็มฉีดยาจริง ๆ แต่อยู่ดี ๆ ก็มาไม่ทันตั้งตัวและยังไม่ออมแรงสักนิดเช่นนี้ เหวินเจ๋อจึงกรีดร้องเสียงดังเกินจริงจนทำให้มั่วมั่วรีบเอามือปิดหน้าเอาไว้ด้วยความตกใจ และแอบมองออกมาจากช่องว่างระหว่างนิ้ว

เด็กคนอื่น ๆ ดูเหมือนว่าจะไม่แปลกใจอะไร เพียงแค่หดคอลงพร้อมกันและชอบใจกับความโชคร้ายของผู้อื่น

อวิ๋นเย่ว์ฉีดยาให้เหวินเจ๋อเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นมาอย่างไม่สะทกสะท้าน จากนั้นก็ตบมือปัดฝุ่นและทำท่าทีราวกับโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว “การเป็นหมอต้องมีหัวใจเหมือนดั่งบิดามารดา ไม่จำเป็นต้องเลี่ยงว่าเป็นชายหรือหญิง”

พวกผู้หญิงไม่เพียงแต่จะไม่ห้าม แต่ยังหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่ เจ้าเด็กคนนี้ไม่เพียงแต่จะจัดการเหวินเจ๋อได้เท่านั้น แม้แต่คำพูดคำจายังพูดได้เปรียบอีก

ฉู่รั่วซีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เจ้าเด็กน้อยจอมเผด็จการของข้า ตอนอยู่ที่บ้านถูกตามใจจนกำเริบเสิบสาน คงจะมีแค่เสี่ยวอวิ๋นเย่ว์เท่านั้นที่สามารถจัดการเขาได้”

อวิ๋นเย่ว์มองไปที่เหวินเจ๋อที่กำลังแยกเขี้ยวยิงฟันใส่พร้อมกับถูบั้นท้ายของเขา และก็มองไปรอบ ๆ อย่างภาคภูมิใจ จากนั้นนางก็โบกกระบอกเข็มในมือขึ้น “คนต่อไป ใครจะมาก่อน?”

เมื่อเห็นว่าถึงตาตัวเองแล้ว เด็กน้อยกลุ่มนั้นก็ร้อง ‘จ๊าก!’ ด้วยความตกใจจนร้องไห้ออกมา พากันวิ่งหนีไปหาผู้ที่จะช่วยพวกเขาได้ สร้างความยุ่งเหยิงไปทั่ว

โฉวซือเส่ายกมือขึ้นนวดระหว่างคิ้วตัวเอง รู้สึกว่าอวิ๋นเย่ว์ยัยหนูคนนี้เขาคงไม่สามารถเอาอยู่ได้ และลูกชายของตัวเองก็อายุน้อยกว่านางถึงสามปี แค่จะเป็นน้องยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นเลย

เขาทำได้เพียงกระแอมไอเบา ๆ “เรื่องของเด็ก ๆ ข้าคิดว่าพวกผู้ใหญ่อย่างพวกเราไม่ต้องเข้าไปยุ่งจะดีกว่า เหล้าจอกนี้ ข้าขอยกดื่ม”

ตอนที่ 914 ตอนพิเศษ: ทำไมเหมือนคำพูดสั่งเสียอย่างนั้นล่ะ 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา