โครม!
ซงเถารีบไปยังตรอกที่ร้านเล็กๆ ของฟางฟางตั้งอยู่ แต่เขาก็ต้องตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ เมื่อลมพายุรุนแรงพัดกรรโชกผ่านร่างเขาไป ในเสี้ยวลมหายใจนั้นเองเขาก็เห็นว่าร่างที่โดนลมหอบไปเป็นใคร
“เกิดอะไรขึ้นกัน” ซงเถาคิดขณะหันไปมองตามร่างผู้โชคร้ายด้วยสีหน้างุนงง จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังลั่น พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน ฝุ่นฟุ้งตลบกระจายออกจากซากปรักหักพังที่อยู่ไกลออกไป
ซงเถาตัวชาเสียวสันหลังวาบทันที
“โอ้ ใช้ได้นี่ เช่นนี้ก็สะดวกดี” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ พยักหน้าหงึกหงัก อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องซ่อมพื้นตรอกใหม่ เพราะเจ้าดำไม่ได้ประทับอุ้งมืออรหันต์ลงไปบนนั้น
ขณะที่ซงเถากำลังยืนเสียวสันหลับวาบอยู่นั้น ผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการสองคนก็กำลังกระเสือกกระสนหนีตาย เมื่อพวกเขาเห็นซงเถา ก็รีบตะโกนขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวทันที “นาย… นายท่าน! รีบหนีเร็วขอรับ! สุนัขตัวนี้… น่ากลัวเกินไป!”
หัวใจของซงเถาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เหมือนที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด… ภารกิจล้มเหลวเป็นที่เรียบร้อย ผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการสี่คนที่เขาส่งมาไม่สามารถนำตัวโอวหยางเสี่ยวอี้และหยางเฉินกลับไปได้ แล้วเขาจะกลับไปสู้หน้ารายงานเจ้ามู่เฉิงอย่างไรดี
ซงเถาไม่ต้องการกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินเข้าตรอกไปเพื่อเผชิญหน้ากับเจ้าสุนัขสีดำตัวใหญ่น่าขนหัวลุก ที่เพิ่งกระดิกอุ้งมือดีดผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการปลิวกระจายไปครึ่งค่อนเมือง
เจ้าดำจ้องซงเถาด้วยสายตาไร้อารมณ์ ก่อนกลอกตาบนเมื่อเห็นสีหน้าระมัดระวังของซงเถา มันเดินเยื้องย่างเหมือนแมวขี้เกียจเพื่อกลับไปประจำจุดเดิมแล้วนอนหลับไปในที่สุด
ในเวลาเดียวกันนั้นเองโอวหยางเสี่ยวอี้ก็ลากหยางเฉินเข้าไปในร้านได้สำเร็จ นางไม่สนใจซงเถาที่ยืนจังก้าอยู่ที่ปากทางเข้าตรอกแม้แต่น้อย ลมหนาวพัดผ่านส่งความหนาวเหน็บเข้าปะทะร่างกาย
“เจ้าบ้า นี่ไงร้านที่ข้าบอก นี่ละ… ร้านของนายท่านตัวเหม็น แม้เถ้าแก่ร้านจะเป็นคนพื้นๆ แต่ทำอาหารอร่อยมาก” โอวหยางเสี่ยวอี้พูดหลังจากที่ลากหยางเฉินเข้าร้านมาเรียบร้อยแล้ว
หยางเฉินมองสำรวจรอบๆ ตัว จากนั้นใบหน้าอ่อนเยาว์ของเขาก็เปลี่ยนเป็นเดียดฉันท์ทันที เด็กชายยกมือขึ้นกอดอก “ที่เจ้าโฆษณาแทบตายหมายถึงร้านรูหนูนี่น่ะรึ เครื่องตกแต่งก็ดาษดื่น ลูกค้าก็ดูเป็นตาสีตาสาธรรมดา… มันจะไปมีอะไรดีๆ ขายได้อย่างไรกัน เจ้าโกหกข้ารึ”
หยางเฉินไม่เชื่อสิ่งที่โอวหยางเสี่ยวอี้พูดแม้แต่น้อย เด็กหญิงออกอาการกระวนกระวายขึ้นมาทันที นางถลึงตาจ้องเด็กชายตรงหน้าแล้วเอ่ย “ข้าจะโกหกเจ้าไปเพื่ออะไร ถ้าข้าพูดปด ข้าจะให้นายท่านตัวเหม็นมาขอโทษเจ้าเลย!”
ปู้ฟางที่ยืนอยู่ข้างๆ พลันสะดุ้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความงุนงงขณะคิด “ในเมื่อเจ้าเป็นคนพูดปด แล้วข้าต้องขอโทษทำไมเนี่ย ตรรกะพังไปหมดแล้ว”
“ฮึ! เจ้าคิดว่าข้าอยากได้คำขอโทษจากหมอนี่รึ” หยางเฉินเหลือบตามองปู้ฟางพร้อมหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน สำหรับเขาปู้ฟางเป็นเพียงพ่อครัวต้อยต่ำเท่านั้น พ่อครัวจะไปมีปัญญาทำอะไรได้ ลอยขึ้นฟ้ารึ
“ไอ้โง่เอ๊ย เดี๋ยวก็รู้เองว่าที่เจ้าพูดมาเมื่อกี้โง่บรมขนาดไหน!” โอวหยางเสี่ยวอี้เย้ยก่อนหันไปหาปู้ฟาง “นายท่านตัวเหม็น ข้าเอาซี่โครงเปรี้ยวหวานจานหนึ่ง! ให้ไอ้หมอนี่มันรู้เสียบ้างว่าหิวจนไส้จะขาดเป็นอย่างไร!”
หยางเฉินเม้มปากแน่น สายตาตวัดไปมองรายการอาหารบนผนัง จากนั้นรูม่านตาของเขาก็พลันหดแคบลงเหลือเพียงขนาดเท่าเมล็ดงา
“นี่ใส่หน่วยราคาผิดรึ ทำไมมีแต่ผลึกๆๆ คิดว่าอาหารตัวเองเป็นยาผีบอกรักษาได้ทุกโรคหรืออย่างไร!” เมื่อเห็นราคาอาหาร หยางเฉินก็อดตะโกนด่าออกมาไม่ได้
ปู้ฟางแทบจะทำเป็นหูดับเมื่อได้ยินเสียงก่นด่าเรื่องราคาอาหาร เขาไม่แม้แต่จะตอบด้วยซ้ำ บ่นได้ก็บ่นไปสิ เขาไม่ได้เสียอะไรอยู่แล้ว เมื่อหยางเฉินได้กินอาหารที่เขาทำ ถึงอย่างไรก็ต้องกลับมาสั่งใหม่เรื่อยๆ อยู่ดี… ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องยอมจ่าย
เขามั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเองมาก
ซงเถาเองก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นกัน เขาเดินเข้าร้านมา สายตาพลันเห็นหยางเฉินที่กำลังทำหน้ารังเกียจ ดวงตาของซงเถาเป็นประกายขึ้นมา “นั่นมันทายาทคนสำคัญของตระกูลหยางนี่ ข้าต้องเอาตัวเด็กนี่กลับไปด้วยให้ได้”
“เจ้าจะกินอะไร ดูรายการเอาเองก็แล้วกัน” ก่อนที่ซงเถาจะทันได้เอ่ยอะไร เสียงเย็นก็ดังขึ้นข้างกายเขา
ปู้ฟางมองหน้าซงเถาด้วยสีหน้าตายด้าน มือชี้ไปที่รายการอาหารข้างหลัง
ซงเถาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เมื่อหันไปมองรายการอาหารบนผนัง รูจมูกก็บานออกเล็กน้อยพร้อมพ่นไอออกมา… เขาคิด “ตาย นี่มันปล้นกันกลางวันแสกๆ ชัดๆ! สมแล้วที่ได้รับสมญานามว่าร้านใจไม้ไส้ระกำหน้าเลือด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD