ตามระบบพลังปราณของทวีปมังกรซ่อนเร้น ระดับพลังปราณระดับหนึ่งคือขั้นต่ำสุด เป็นระดับที่ไม่มีปากมีเสียงอะไรในนครหลวง
แต่ปู้ฟางก็ยังงงอยู่ดีว่าตนเองเริ่มมีพลังปราณเที่ยงแท้ได้อย่างไร
หรือเป็นเพราะเขาทำภารกิจของระบบสำเร็จ ภารกิจแรกของเขาคือการหาลูกค้ารายแรกมาให้ได้ แต่รางวัลของภารกิจนั้นคือวิธีการทำข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงและเสี้ยวของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ ไม่ได้พูดถึงพลังปราณเที่ยงแท้แต่อย่างใด
“ระบบ ข้าจะได้พลังปราณเที่ยงแท้และแข็งแกร่งขึ้นเพราะทำภารกิจสำเร็จใช่หรือไม่” ปู้ฟางถามด้วยความงุนงง
ระบบตอบกลับด้วยเสียงจริงจัง “ระดับพลังปราณเที่ยงแท้ของนายท่านจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนผลึกที่นายท่านมี หลังจากที่ลูกค้าชำระเงินเรียบร้อย ผลึกจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังปราณตามการแปลงหน่วยที่ระบบใช้ นายท่านสามารถเข้าไปดูระดับพลังปราณของท่านและการแปลงหน่วยได้ในหน้าสรุปตัวละคร
“ระดับของระบบตอนนี้อยู่ที่หนึ่งดาว และการแปลงหน่วยผลึกที่ใช้อยู่คือร้อยละสิบ เมื่อระบบพัฒนาขึ้นไปถึงระดับสองดาว หน้าที่ต่างๆ จะถูกเปิดใช้งานมากขึ้น เช่น นายท่านสามารถใช้อุปกรณ์เครื่องเรือนได้มากขึ้น และลูกค้าสามารถนำวัตถุดิบอาหารของตนเองมาได้
“วันนี้นายท่านได้ผลึกมายี่สิบสองผลึก และจากการแปลงหน่วยนายท่านได้รับพลังปราณเที่ยงแท้มาสองผลึก โดยคิดจากร้อยละสิบของยี่สิบสองผลึก พลังปราณเที่ยงแท้ที่นายท่านได้รับจากสองผลึกนี้อยู่ในระดับหนึ่งขั้นนักรบ”
ปู้ฟางนิ่งเงียบ เขาไม่รู้เลยว่าผลึกมีจุดประสงค์ในการใช้งานเช่นนี้ แต่หลังจากที่คิดดูสักพักก็เข้าใจได้ถึงเหตุผล ประการแรกผลึกนั้นเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตผู้ฝึกตน ผู้ฝึกตนสามารถเพิ่มระดับพลังปราณของตนเองได้ผ่านการหล่อหลอมผลึก ดังนั้นการแปลงหน่วยที่ระบบใช้งานจึงถือเป็นทางลัดในการฝึกปราณของปู้ฟาง
“เอ่อ… ถ้าเช่นนั้นก็แปลว่าข้าจะแข็งแกร่งขึ้นหากได้ผลึกมาครอบครองมากขึ้นใช่หรือไม่” รอยยิ้มฝืนค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของปู้ฟาง
“การที่จะมีปราณระดับสองขั้นเจ้ายุทธการได้นั้น นายท่านต้องสะสมเพิ่มอีกสิบผลึก สำหรับระดับสามขั้นคลั่งยุทธการนั้นนายท่านต้องสะสมเพิ่มอีกร้อยผลึก ส่วนระดับสี่ขั้นจิตยุทธการต้องใช้พันผลึก และระดับห้าขั้นราชันยุทธการต้องใช้หมื่นผลึก” ระบบประกาศ
ปู้ฟางหมดสิ้นซึ่งคำพูด
“ดูเหมือนว่าหนทางจะอีกยาวไกล”
“จะว่าไปแล้ว ที่เจ้าบอกว่าลูกค้าสามารถนำวัตถุดิบมาเองได้นี่หมายความว่าอย่างไรหรือ” ปู้ฟางถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
“นายท่านสามารถใช้วัตถุดิบที่ลูกค้านำมาเองมาทำอาหารได้ โดยราคาขายระบบจะกำหนดจากระดับของอาหารจานนั้น” ระบบอธิบายอย่างเคร่งขรึมจริงจัง
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” ดวงตาของปู้ฟางเป็นประกาย กลไกนี้ถือว่าดีต่อตัวเขามากทีเดียว ทั้งยังจะช่วยเขาในการหาผลึกมาให้ได้มากขึ้นอีกด้วย น่าเสียดายที่ระดับของระบบในตอนนี้ยังไม่สูงพอที่จะใช้งานกลไกนี้ได้ ในโลกแห่งจินตนาการนี้มีวัตถุดิบมากมายที่ปู้ฟางสามารถใช้ประกอบอาหารได้ การอนุญาตให้ลูกค้านำวัตถุดิบมาเองจะช่วยให้เขาสะสมผลึกได้มากขึ้น
เรื่องการเพิ่มระดับของระบบนั้น ปู้ฟางต้องทำภารกิจที่ระบบมอบให้สำเร็จ ภารกิจล่าสุดที่ได้รับมาคือ โปรดทำกำไรให้ได้อย่างน้อยร้อยผลึกและพันเหรียญทองภายในหนึ่งสัปดาห์
ความคืบหน้าของภารกิจ: 22/100, 100/100
ปู้ฟางถอนหายใจอยู่ภายใน รู้ดีว่าภารกิจนี้ยังอีกยาวไกลนักกว่าจะเสร็จสิ้น
ในฐานะพ่อครัวมากความสามารถ เขาต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเสมอ หลังจากที่ชายหนุ่มออกจากหน้าจอระบบเรียบร้อย เค้าก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงแล้วผล็อยหลับไปในที่สุด เสียงหายใจนิ่งสม่ำเสมอดังขึ้นหลังจากผ่านไปสักพัก
เช้าวันต่อมา
ปู้ฟางตื่นตรงเวลา หลังจากล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยเขาก็เริ่มกระบวนการฝึกทำอาหารประจำวัน เมื่อฝึกทำอาหารตามสูตรที่ได้ร่ำเรียนมาครบทุกจานแล้ว ชายหนุ่มก็เปิดร้านทั้งๆ ที่ยังหาวหวอด
สุนัขสีดำตัวใหญ่ยังคงนอนอยู่หน้าร้านตรงจุดเดิม ราวกับว่ามันนอนอยู่ท่าเดิมตรงนั้นโดยไม่ขยับแม้แต่น้อย แม้แต่ตัวปู้ฟางเองยังตกใจกับระดับความขี้เกียจของเจ้าสุนัข
“อรุณสวัสดิ์ เจ้าดำ” ชายหนุ่มทักทายสุนัขอย่างไร้อารมณ์
เจ้าดำกลอกตาแล้วทำเป็นไม่สนใจเขา
ทว่าปู้ฟางก็ไม่ได้อายแต่อย่างใดที่ถูกสุนัขเมิน เขาเดินกลับเข้าไปในครัว ตักข้าวผัดไข่ที่ตนเองทำขณะฝึกทำอาหารใส่ชาม แล้วเดินกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าดำอีกครั้งพร้อมชามในมือ
“ได้เวลากินข้าวแล้ว เจ้าดำ” ชายหนุ่มเอ่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD