พอจีเฉิงเสวี่ยจากไป ร่างมอซอร่างหนึ่งก็เดินเข้าร้านมาพร้อมด้วยผู้ติดตามอีกสองคน
ปู้ฟางหันไปมองทางนั้นแล้วก็เห็นหนี่หยันกับศิษย์ทั้งสอง หนี่หยันเดินถือกล่องข้าวกลางวันทำจากไม้ ซึ่งห่อหุ้มด้วยพลังปราณเที่ยงแท้ของนางเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศหนาวภายนอกแทรกตัวเข้าไปได้ จนทำให้รสชาติอาหารเสียหมด
“เถ้าแก่ปู้ ข้าทำอาหารเสร็จแล้ว ลองกินดูสิถูกปากเจ้าไหม!” หนี่หยันมั่นใจเป็นอันมาก นางเปิดผ้าคลุมหน้าออก เผยให้เห็นดวงตาเป็นประกายเหมือนพลอยล้ำค่า
ปู้ฟางอุทานออกมาเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดคิดว่านางจะทำอาหารมาให้จริงๆ
เนื่องจากไม่มีรายการอาหารที่ลูกค้าสั่งค้างอยู่ ชายหนุ่มจึงรู้สึกอยากกินขึ้นมาเช่นกัน เขานั่งลงบนโต๊ะแล้วบุ้ยใบ้ให้หนี่หยันเอาอาหารออกมาให้ตนดู
อวี่อ๋องกำลังกินข้าวอยู่แถวนั้น เมื่อเขาเห็นหนี่หยันและศิษย์ทั้งสองก็ตกใจเล็กน้อยเพราะจำอีกฝ่ายได้ ความโกลาหลที่สตรีนางนี้ก่อไว้เมื่อคืนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
“ผู้ฝึกตนหญิงขั้นนักพรตยุทธการอารมณ์ร้ายคนนี้มาที่ร้านเถ้าแก่ปู้ด้วยรึ สองคนนี้มาจากถิ่นเดียวกันหรืออย่างไร” อวี่อ๋องคิด
ปู้ฟางไม่ได้คิดอะไรมาก เขาตั้งหน้าตั้งตารออาหารของหนี่หยันพอตัวเลยทีเดียว นางเป็นถึงแม่ครัวอันดับหนึ่งของสำนักความลับแห่งสวรรค์ที่รสมือทำให้ทุกคนในสำนักต้องศิโรราบ แปลว่าความสามารถในการทำอาหารของนางต้องใช้ได้อย่างแน่นอน
หนี่หยันวางกล่องข้าวกลางวันที่ทำจากไม้ลงบนโต๊ะ แล้วปล่อยให้พลังปราณเที่ยงแท้สลายไป ทันใดนั้นกลิ่นหอมของพืชผักสดใหม่ก็ลอยออกจากกล่องทันที
ปู้ฟางสูดหายใจเข้าลึก เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วพยักหน้าอย่างไม่ยินดียินร้าย ดมจากกลิ่นก็รู้ว่าอาหารที่นางทำมาน่าจะรสชาติดีเลยทีเดียว กลิ่นนี้หอมพอจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกน้ำลายสอได้
เมื่อนางเอาอาหารออกมาดวงตาของชายหนุ่มก็หรี่ลงเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นมองหนี่หยันด้วยสายตามีความนัย
นี่เป็นอาหารที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ดูก็รู้ว่านางทุ่มเทพลังกายไปเยอะในการทำ
อาหารนี้เป็นผลไม้ขนาดเท่ากำปั้น เปลือกเป็นสีเปลวเพลิง ทั้งยังมีไฟเผาไหม้อยู่บนพื้นผิว หนี่หยันผ่าครึ่งผลไม้ นำเนื้อออกแล้วใส่เมล็ดข้าวสีทองเข้าไปแทน ข้าวแต่ละเมล็ดปกคลุมด้วยซอสที่มีกลิ่นหอมไม่เหมือนสิ่งใด และยังคงร้อนกรุ่นจนมีควันขาวลอยออกมา
“อาหารจานนี้ชื่อว่าอะไร” ปู้ฟางถามหลังจากสูดกลิ่นเข้าไปแล้ว
“มันคืออาหารจานเด็ดของข้า ดอกไม้เพลิงเบ่งบาน นี่เป็นอาหารจานที่ข้าควบคุมพลังปราณได้นิ่งที่สุด โดยมีพลังปราณเหลืออยู่ร้อยละสามสิบด้วยกัน” นางพูดอย่างตั้งใจ
อาหารจานนี้มีพลังปราณอยู่ภายใน ปู้ฟางเริ่มสังเกตเห็นได้เช่นกันเนื่องจากอาหารจานนี้คล้ายอาหารของเขามาก ไม่ใช่แค่มีกลิ่นหอมเท่านั้น แต่ยังมีพลังปราณแฝงอยู่ด้วย
ชายหนุ่มหยิบช้อนกระเบื้องออกมาแล้วค่อยๆ ตักข้าวสีทองมาเต็มช้อน กลิ่นที่ลอยออกจากข้าวนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าวผัดไข่ของเขาแม้แต่น้อย
กลิ่นนี้อัดแน่นไปด้วยกลิ่นของผลไม้หลากหลายชนิด ทั้งยังมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของซอสเปรี้ยวแสนอร่อยอีกด้วย
ปู้ฟางนำข้าวเมล็ดสีทองเข้าปาก ข้าวนั้นอร่อยและเหนียวนุ่มเป็นอันมาก ทำให้เขารู้สึกราวกับกำลังกินขนมเคี้ยวนุ่มอยู่ พอกินเข้าไปแล้ว ข้าวแต่ละเมล็ดก็กระเด้งกระดอนอยู่ในปาก ก่อให้เกิดสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้รสชาติยังอร่อยด้วยเช่นกัน รสชาติของเนื้อผลไม้และซอสเข้าโอบล้อมต่อมรับรสของเขาเอาไว้ทันที
ดวงตาของปู้ฟางสว่างขึ้น เขาส่งข้าวอีกสองช้อนเข้าปาก หลังจากที่เคี้ยวอยู่สักพักชายหนุ่มก็เอ่ยออกมา “ไม่เลว”
“ดอกไม้เพลิงเบ่งบาน” นี้เป็นอาหารที่ไม่แย่จริงเสียด้วย ถึงพลังปราณที่อยู่ในอาหารจานนี้จะน้อยกว่าข้าวผัดไข่สูตรธรรมดาที่ร้านเขาเสียอีก แต่รสชาติอร่อยมากทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD