ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 157

สรุปบท บทที่ 157 ใครบอกว่าข้าจะใช้แค่วัตถุดิบธรรมดากัน: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD

ตอน บทที่ 157 ใครบอกว่าข้าจะใช้แค่วัตถุดิบธรรมดากัน จาก ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 157 ใครบอกว่าข้าจะใช้แค่วัตถุดิบธรรมดากัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายSlice of Life ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ท่าน… ท่านผู้อาวุโสสูงสุด!”

ตาแก่ขี้เมาหันหน้าไปมอง แล้วก็เริ่มเข่าอ่อนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นชายชราที่ยืนอยู่เบื้องหลังตน เขาตกใจจนเกือบสิ้นสติตายจากการปรากฏตัวอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงของผู้อาวุโสสูงสุดที่ หลังจากที่ตนเพิ่งพูดถึงอีกฝ่ายไปไม่กี่อึดใจก่อนหน้า

ผู้อาวุโสสูงสุดโบกมืออย่างใจดีพร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า จากนั้นน้ำเต้าของชายขี้เมาก็ลอยไปเข้ามือเขา ชายชรายิ้มบาง ก่อนจะลองเขย่าน้ำเต้าดู เสียงน้ำกระฉอกดังลอดออกมาเข้าหู

ผู้อาวุโสสูงสุดเปิดฝาน้ำเต้าออก พร้อมจีบนิ้วเพื่อเรียกหยดสุราขนาดเท่าไข่มุกให้ลอยออกจากน้ำเต้า

“สมัยอายุน้อยกว่านี้ข้าก็ชอบดื่มสุราเหมือนกัน” ชายชราพูดกลั้วหัวเราะ เขาลากนิ้วเพื่อนำหยดสุรามาเข้าปาก หยดน้ำนั้นขยายปริมาตรขึ้นจนเต็มปากของเขาทันที

ดวงตาของชายชราหรี่เล็กลง ขณะกำลังดื่มด่ำกับรสชาติของสุรา เขาจึ๊ปากก่อนจะโยนน้ำเต้าคืนให้ตาแก่ขี้เมา

“เหล้าสูตรนี้ของเจ้าใช้ได้ แต่ยังพัฒนาได้อีก” ชายชราพูดพร้อมรอยยิ้มบาง

ดวงตาของตาแก่ขี้เมาวาวโรจน์ขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน เขาหันขวับไปมองผู้อาวุโสสูงสุด จากนั้นก็ถามด้วยความเคารพ “ท่านผู้อาวุโสสูงสุด มีสุราที่รสชาติเยี่ยมยอดยิ่งกว่าลมหายใจมังกรที่ข้าตั้งใจหมักอย่างสุดความสามารถนี้ด้วยหรือ”

“มีแน่นอนอยู่แล้ว โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ทวีปมังกรซ่อนเร้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ บนโลกใบนี้เท่านั้น อีกไม่นานเจ้าจะได้ลองลิ้มชิมรสสุราชั้นเลิศแน่นอน” ชายชราพูดกลั้วเสียงหัวเราะ พร้อมลูบเคราสีขาวของตนไปด้วย จากนั้นเขาก็หันไปมองหนี่หยันแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย

“เจ้าบรรลุขั้นปราณแล้วรึ ไม่เลว ไม่เลวเลยทีเดียว ดูเหมือนว่านครหลวงจะเป็นสวรรค์สำหรับเจ้าสินะ” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้ม

หนี่หยันอาจทำตัวโอหังต่อหน้าตาแก่ขี้เมา แต่นางสงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าผู้อาวุโสสูงสุด ที่เป็นบุคคลในตำนานของสำนักความลับแห่งสวรรค์เสมอ “เจ้าค่ะ ข้าโชคดีได้กิน… ได้โชคลาภที่นครหลวงเจ้าคะ”

“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรหรอก ข้าอยากให้เจ้าไปเยือนนครหลวงอีกรอบหนึ่ง ในอนาคตอันใกล้นี้สมบัติแสนประหลาดล้ำจะปรากฏขึ้นที่นั่น ทำให้เต็มที่แล้วพยายามนำมันมาให้ได้ แต่หากทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมเอามือไพล่หลัง

หนี่หยันประหลาดใจไปชั่วครู่ ให้ไปนครหลวงอีกรอบรึ แปลว่าจะมีเหตุการณ์สนุกๆ เกิดขึ้นที่นั่นใช่หรือเปล่า

กว่าปู้ฟางจะกลับถึงร้านฟ้าก็มืดแล้ว เขาไม่ได้เปิดร้านต่อ แต่กลับไปนั่งครุ่นคิดอย่างหนักอยู่บนเก้าอี้

ระบบมอบรางวัลใหม่ให้เรียบร้อย ตอนแรกเขาตั้งใจจะทำอาหารรายการใหม่นี้ แต่สุดท้ายกลับมานั่งจิตใจจดจ่ออยู่กับเมล็ดพืชที่เพิ่งได้มาเสียนี่

“ระบบ เจ้าบอกให้ข้าชนะที่หนึ่งในงานสมโภชร้อยครอบครัว เพื่อที่จะเอาเมล็ดพืชนี้กลับมาเช่นนั้นหรือ เจ้านี่มันพิเศษอย่างไรไม่ทราบ” ปู้ฟางถามด้วยความงุนงง

ระบบไม่ได้ตอบทันทีแต่เงียบอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นายท่านยังไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะขอข้อมูลเกี่ยวกับเมล็ดพืชนี้ นายท่านจะขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ก็ต่อเมื่อเมล็ดพืชถูกปลูกจนโตและออกผลเรียบร้อยแล้ว”

ใบหน้าของปู้ฟางมืดมนลงเมื่อได้ยินคำตอบของระบบ หมายความว่าอย่างไรกันที่เขายังมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะขอข้อมูลของเมล็ดพืชนี้ จะดีเลวอย่างไรเขาก็มีปราณถึงขั้นราชันยุทธการเชียวนะ!

แต่มานั่งเดือดดาลไปก็ไม่ได้ประโยชน์ ด้วยนิสัยของระบบแล้ว ปู้ฟางรู้ดีกว่าใครว่าตนเองจะไม่มีวันได้รับข้อมูลเพิ่มเติมแน่นอน หากระบบประกาศออกมาชัดเจนถึงเพียงนี้

โชคดีที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้หมกมุ่นร้อนรนกับเมล็ดพืชที่ว่านี้มากนัก

“ข้าต้องปลูกอย่างไร และที่ใดเล่า” ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ระบบได้เตรียมกระถางต้นไม้ให้นายท่านเรียบร้อยแล้ว นายท่านนำเมล็ดไปปลูกในกระถางได้เลย” เสียงจริงจังของระบบดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นชายหนุ่มก็รู้สึกได้ว่ากระถางต้นไม้ขนาดเท่ากะละมังปรากฏขึ้นในกระเป๋าคลังเก็บ

“กระถางต้นไม้กระแสเวลาสามารถเร่งอัตราการเติบโตของพืชได้” ระบบนำเสนอ

หลังจากที่วางจานซี่โครงเปรี้ยวหวานลงตรงหน้าเจ้าดำเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เดินเข้าร้านไป แทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับเข้าสู่บรรยากาศอบอุ่นสบายตัวอีกครั้ง

ตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นตรงปากทางเข้าตรอก จากนั้นร่างท้วมที่พันไว้ด้วยชุดกันหนาวตัวหนาก็ปรากฏขึ้น

ปู้ฟางมองเจ้าอ้วนจินเดินปุ๊กลุกเหมือนลูกชิ้นยักษ์เข้ามาในร้าน ชายอ้วนพ่นลมเย็นออกจากปากแล้วเอ่ยกลั้วหัวเราะ “อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่ปู้ วันนี้ข้างนอกหนาวเป็นบ้าเลยนะ”

“ในร้านนี้อบอุ่นสบายตัวที่สุดแล้ว ความรู้สึกอบอุ่นนี้ทำให้ข้าอยากอยู่ที่นี่ตลอดไปเลยทีเดียว” เจ้าอ้วนจินพูดพร้อมนั่งลงอย่างยินดีปรีดา แล้วถอดเสื้อกันหนาวออก

ปู้ฟางพยักหน้าตอบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“จะว่าไป เกี๊ยวจันทร์เสี้ยวสีรุ้งเมื่อวานนี้… ช่างยอดเยี่ยมจนข้าไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย อร่อยมากเสียจนข้าอยากจะกินลิ้นตัวเองเข้าไปเลยทีเดียว ข้าไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย ท่านจะนำรายการนี้มาขายในร้านหรือไม่” เจ้าอ้วนจินถาม

สายตาของปู้ฟางว่างเปล่าอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองที่รายการอาหารบนผนังตามสัญชาตญาณ แน่นอนว่ารายการนี้ไปปรากฏบนผนังเรียบร้อยแล้ว

“เกี๊ยวสีรุ้งในน้ำซุป ชามละร้อยผลึก”

เจ้าอ้วนจินสูดลมหายใจเข้าลึก “ร้อยผลึกเลยรึ… เถ้าแก่ปู้ ไม่แพงเกินไปรึ วัตถุดิบที่ท่านใช้ทำเกี๊ยวเมื่อวานก็เป็นวัตถุดิบธรรมดาเท่านั้น ตั้งราคาสูงขนาดนี้ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย”

อาหารที่ร้านของปู้ฟางส่วนใหญ่เต็มไปด้วยพลังปราณเที่ยงแท้ปริมาณมากอัดแน่นอยู่ภายใน นอกจากนี้รสชาติยังอร่อยจนไม่น่าเชื่อ การจะทำเช่นนี้ได้จะต้องใช้วัตถุดิบที่ราคาแพงจับใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เกี๊ยวจันทร์เสี้ยวสีรุ้งที่เจ้าอ้วนจินกินเมื่อวานนั้นใช้วัตถุดิบอย่างผลไม้และพืชผักธรรมดา การตั้งราคาสูงขนาดนี้ หากไม่เรียกว่าทำนาบนหลังคนก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี

แม้เจ้าอ้วนจินจะเป็นเจ้าของเหมืองผลึก แต่การใช้เงินเหมือนเป็นเบี้ยเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

คำถามของเจ้าอ้วนจินทำให้ปู้ฟางตกใจไปชั่วขณะ เขามองหน้าชายอ้วนอย่างงุนงงแล้วถามออกมา “ใครบอกเจ้าว่าข้าจะใช้วัตถุดิบธรรมดาทำเกี๊ยวสีรุ้งในน้ำซุปกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD