“นี่คือรางวัลที่หนึ่งรึ” ปู้ฟางถามด้วยความตกใจ เขามองหน้าจีเฉิงเสวี่ยที่กำลังวางเมล็ดพืชขนาดเท่าถั่วลิสงลงบนมือด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
“นี่ไม่ใช่ถั่วลิสงหรอกรึ” ชายหนุ่มคิดขณะพยายามอดทนที่จะไม่ตบใบหน้าหล่อเหลาของจีเฉิงเสวี่ยเข้าสักหนึ่งป้าบด้วยไม้ใส่รองเท้า
หลังจากที่ทำงานหนักมาเกือบทั้งวัน ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าตนเองจะได้รับแค่เมล็ดหน้าตาเหมือนถั่วลิสงเป็นของตอบแทน เรียกได้ว่าอึ้งจนหมดคำพูดอย่างแท้จริง
ปู้ฟางก้มลงมองเมล็ดพืชสีดำสนิทที่ดูมีอายุพอสมควรและเยินเล็กน้อย พื้นผิวของมันปกคลุมไปด้วยลวดลายประหลาดจางๆ หน้าตาเหมือนวงแหวนปราณลึกลับ… ถึงกระนั้นมันก็ยังเป็นเพียงเมล็ดพืชอยู่ดี!
“เถ้าแก่ปู้ นี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่ามิได้ของวังหลวง บิดาของข้าให้ความสำคัญกับเมล็ดพืชนี้ยิ่งนักตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ วันนี้ข้าขอมอบเมล็ดพืชนี้ให้เป็นรางวัลสำหรับชัยชนะของเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะปลูกมันให้เจริญเติบโต จากเมล็ดเป็นต้นกล้าและกลายเป็นต้นไม้ใหญ่สืบไป” จีเฉิงเสวี่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
ปู้ฟางมองเมล็ดพืชในมือ จากนั้นก็มองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของจีเฉิงเสวี่ย รู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าตัวเองโดนต้มจนเปื่อย… ชายหนุ่มโยนเมล็ดพืชในมือไปมาด้วยท่าทางสบายๆ และสุดท้ายก็เก็บมันเข้ากระเป๋าคลังเก็บที่ระบบมอบให้
แม้ปู้ฟางจะรู้สึกว่าโดนจีเฉิงเสวี่ยหลอก แต่ชายหนุ่มก็มั่นใจว่าระบบย่อมไม่หลอกตนอย่างแน่นอน หากระบบไม่ได้มอบภารกิจให้ เขาคงไม่ลำบากมาเข้าร่วมงานสมโภชร้อยครอบครัวแต่แรกแน่
ในเมื่อระบบบอกให้เขาเอารางวัลนี้มาให้ได้ แปลว่าเมล็ดพืชนี้ย่อมไม่ธรรมดา
สองพี่น้องจากเมืองอาทิตย์ขจียืนอยู่ไกลออกไป อาลู่หยิบน่องไก่ออกมาจากผ้ากันเปื้อนแล้วยัดใส่ปาก ส่วนอาเหวยก็มองปู้ฟางด้วยความรู้สึกขมขื่นในจิตใจ
“พี่ใหญ่ ดูเหมือนว่าเราจะทำภารกิจที่ท่านอาจารย์มอบให้ล้มเหลวเสียแล้ว เรานำรางวัลที่หนึ่งกลับไปให้ท่านไม่ได้” อาลู่พูดเสียงอู้อี้
อาเหวยไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงเชิดคางแหลมขึ้นเท่านั้น ฟันเฟืองในหัวของเขาหมุนอย่างบ้าคลั่งเพื่อหาทางนำรางวัลที่หนึ่งมาเป็นของตนเองให้ได้
“ขโมยมาซึ่งๆ หน้ารึ ไม่น่าเป็นไปได้…” เขาคิด แม้ระดับพลังปราณของทั้งสองจะสูงกว่าปู้ฟางเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาจะต้องโดนบรรดาองครักษ์สกัดเอาไว้แน่ หากพยายามแย่งรางวัลที่หนึ่งมาจากเถ้าแก่ปู้ภายในนครหลวง
ขโมยของรางวัลที่จักรพรรดิเป็นคนมอบให้ด้วยตนเองเนี่ยนะ ทั้งสองไม่ได้โง่บ้าเซ่อขนาดนั้น
“หรือว่าเราจะไปทำข้อตกลงกับเถ้าแก่ปู้ดี แต่จะเอาอะไรที่มีค่ามากพอไปแลกมาเล่า” อาเหวยพึมพำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“พี่ใหญ่ จะคิดมากไปทำไมกัน เราก็กลับไปบอกท่านอาจารย์ตรงๆ เลยว่าเกิดอะไรขึ้น หาท่านต้องใช้รางวัลนี้จริง ก็บอกให้ท่านหาของที่มีค่าสมน้ำสมเนื้อกับเมล็ดพืชนี่มาแลกกับเถ้าแก่ปู้เสียสิ หากท่านไม่ได้ต้องการขนาดนั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรไม่ใช่หรือ” อาลู่พูดพร้อมถือน่องไก่อยู่ในมือ
อาเหวยหันไปมองอาลู่ด้วยสายตาประหลาดใจเป็นล้นพ้น ดูเหมือนไม่อยากเชื่อหูตนเองแม้แต่น้อย “วันนี้เกิดบ้าอะไรขึ้นกับหมอนี่กัน แข่งแล้วหัวไปฟาดเขียงเลยฉลาดขึ้นรึ”
“เอาละ ถ้าเช่นนั้นเรารีบกลับไปที่เมืองอาทิตย์ขจี เพื่อรายงานให้ท่านอาจารย์มาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองเถิด เราสองคนทำสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้แล้ว ที่พวกเราแพ้เพราะทักษะสู้เขาไม่ได้จริงๆ” อาเหวยพูดพร้อมโยนกระทะขึ้นสะพายบนบ่า จากนั้นก็เดินอาดๆ เพื่อออกจากนครหลวงไป
ทั้งสองไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่อึดใจเดียว เนื่องจากนครแห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำขมขื่นสำหรับพวกเขา
ปู้ฟางเหลือบมองแผ่นหลังของคนทั้งคู่ที่กำลังจากไปแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก เขาเอ่ยขอบคุณจีเฉิงเสวี่ย บอกลาโอวหยางเสี่ยวอี้และคนอื่นๆ ก่อนจะเดินออกจากประตูมายาสวรรค์ แล้วหายไปในหิมะปลิวว่อน
งานสมโภชร้อยครอบครัวปิดฉากลงด้วยความอิ่มเอมใจของผู้เข้าร่วมงานด้วยประการฉะนี้
กลุ่มขันทีรีบกรูกันออกมาจากท้องพระโรง เพื่อเก็บขยะและอุปกรณ์โต๊ะตั่งที่วางอยู่บนลาน
…
ปู้ฟางเล่นเมล็ดพืชสีดำในมือขณะก้าวเข้าไปในตรอก หิมะสีขาวยังคงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าไม่หยุด
เกล็ดหิมะเกล็ดหนึ่งตกลงบนหลังคอของปู้ฟาง ทำให้ชายหนุ่มต้องสูดหายใจเข้าลึกเล็กน้อยด้วยความสยอง รู้สึกได้ถึงความเย็นที่กระจายออกจากจุดนั้น เขาย่นคอแล้วรีบเร่งฝีเท้าเพื่อเดินไปให้ถึงร้านโดยเร็ว
เจ้าดำนอนอืดอยู่หน้าร้านตามปกติ ดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มกำลังเดินเข้ามาใกล้ จึงโงหัวขึ้นมองพร้อมพ่นลมออกจากจมูก
“อรุณสวัสดิ์ เจ้าดำ” ปู้ฟางพูดพร้อมยิ้มบาง เขากลิ้งเมล็ดพืชสีดำในมือเล่น แน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาเช้า เนื่องจากท้องฟ้าเริ่มจะมืดอันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าช่วงกลางวันกำลังจะหมดลง แต่หากดูจากวิธีการใช้เวลาของเจ้าดำในแต่ละวันที่เอาแต่นอนหลับอุตุตลอด ทุกเวลาคงเป็นตอนเช้าสำหรับมันเสมอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD