ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 155

สรุปบท บทที่ 155 เถ้าแก่ปู้จอมปากร้าย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD

สรุปเนื้อหา บทที่ 155 เถ้าแก่ปู้จอมปากร้าย – ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet

บท บทที่ 155 เถ้าแก่ปู้จอมปากร้าย ของ ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ปู้ฟางพูดเสียงเรียบ เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงถือตัวอย่างคนที่เพิ่งได้รับชัยชนะ แต่เป็นน้ำเสียงเฉยชาจริงจัง

อาเหวยนิ่งอึ้งไป ชายร่างผอมไม่คาดคิดว่าปู้ฟางจะกล่าวเช่นนี้ออกมา แต่ก็รู้สึกคล้อยตามไปกับข้อเสนอของอีกฝ่าย เขาเข้าใจดีกว่าการที่เกี๊ยวจันทร์เสี้ยวสีรุ้งของปู้ฟางได้รับความนิยมล้นหลามจากเหล่าผู้เข้าร่วมงาน ย่อมแปลว่าอาหารจานนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน

“ก็ดี เช่นนั้นก็ให้ข้ากินเกี๊ยวของเจ้า ส่วนข้าก็จะให้เจ้ากินอสูรเวทย่างไฟเช่นกัน!” อาเหวยกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังพร้อมพยักหน้า นี่เป็นนิสัยปกติของเขา เขาไม่ชอบเอาเปรียบผู้ใด อีกอย่างชายร่างผอมก็อยากเห็นปฏิกิริยาของปู้ฟางตอนได้ลิ้มรสอาหารของตัวเองเช่นกัน

ปู้ฟางพยักหน้า ชายหนุ่มโบกมือพัดพลังปราณเที่ยงแท้กลุ่มหนึ่งออกไป จากนั้นเกี๊ยวจันทร์เสี้ยวสองสามตัวก็ตกลงมาในกระทะที่เต็มไปด้วยน้ำเดือดพล่าน

อาเหวยเดินกลับไปยังเตาทำอาหารแล้วเริ่มย่างอสูรเวทด้วยท่าทางจริงจัง

ส่วนพ่อครัวแม่ครัวคนอื่นๆ ต่างมองหน้ากันแล้วเหลือบแลสายตาไปยังปู้ฟางและอาเหวยอย่างไม่รู้ตัว นี่พวกเข้าสองคนจะแข่งกันจริงๆ หรือ

อาลู่เคี้ยวน่องไก่ในปากหยับๆ พลางมองปู้ฟางและอาเหวยด้วยสายตาฉงนสงสัย เขารู้ซึ้งถึงความอร่อยของเนื้อย่างไฟที่พี่ชายตนทำเป็นอย่างดี ในความคิดของชายอ้วน เนื้อย่างไฟของอาเหวยนั้นอร่อยล้ำ ดังนั้นชายอ้วนจึงไม่อยากเชื่อว่าเกี๊ยวของปู้ฟางจะเอาชนะเนื้อย่างไฟของพี่ชายตนไปได้

รอยยิ้มขบขันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจีเฉิงเสวี่ยขณะสำรวจดูอารมณ์ของฝูงชนเบื้องล่าง เขาหยุดขันทีผู้หนึ่งที่กำลังจะเข้าไปห้ามคนทั้งสองไว้พลางกล่าวขึ้น “ให้พวกเขาแข่งกันเถอะ”

ขันทีผู้นั้นรีบโค้งตัวแล้วถอยไปยืนด้านหลังจีเฉิงเสวี่ยทันที

ดินแดนป่ารกชัฏเป็นสถานที่ลึกลับไร้ซึ่งอิทธิพลของราชสำนัก ความจริงที่ว่าเมืองอาทิตย์ขจีนั้นตั้งอยู่ตรงทางเข้าของดินแดนป่ารกชัฏย่อมแปลว่าเมืองนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน สองพี่น้องที่มาจากเมืองนี้มีทักษะการทำอาหารที่น่าทึ่ง หากไม่มีเถ้าแก่ปู้ พวกเขาย่อมเป็นผู้ชนะในงานสมโภชร้อยครอบครัวปีนี้แน่ นับเป็นโชคร้ายของพวกเขาจริงๆ…

ฝีมือการทำอาหารของเถ้าแก่ปู้นั้นไร้เทียมทานเกินไป

ไม่นานนักกลิ่นหอมหวนเข้มข้นก็อบอวลอยู่ในอากาศ กลิ่นนั้นมาจากอสูรเวทย่างไฟที่ราวกับยังมีชีวิตในมืออาเหวย เนื้อของอสูรเวทตัวเล็กจ้อยนั้นดูอ่อนนุ่มและชุ่มฉ่ำเสียเหลือเกิน

นี่เป็นผลจากการย่างเนื้อด้วยการใช้สมุนไพรพลังปราณเป็นเชื้อเพลิง ไม่เพียงรูปร่างหน้าตาของมันจะออกมาสวยงามสุดยอด รสชาติก็ยังยอดเยี่ยมเกินจะกล่าวอีกด้วย

ตรงกันข้ามกับกลิ่นของเกี๊ยวจันทร์เสี้ยวสีรุ้งในน้ำเดือดพล่านที่แม้จะอบอวลไปทั่ว แต่กลิ่นนี้ไม่ถือว่าเข้มหรืออ่อนจะเรียกได้ว่าธรรมดาก็ไม่ผิด เมื่อเทียบกับกลิ่นเนื้อย่างไฟของอาเหวยแล้ว นับว่าเป็นคนละชั้นกันเลยทีเดียว

แม้พ่อครัวแม่ครัวหลายต่อหลายคนจะฉงนใจเป็นล้นพ้น และสายตาของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความแคลงใจ… แต่พวกเขาก็ไม่อาจด่วนตัดสินใจ เพราะเหรียญทองแดงในชามกระเบื้องตรงหน้าปู้ฟางก็เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่าอาหารจานนี้ไม่ธรรมดา

ปู้ฟางตักเกี๊ยวขึ้นมาจากน้ำเดือดแล้วเทใส่ชามกระเบื้องสีฟ้าขาว เมื่อโรยต้นหอมลงบนเกี๊ยวทั้งสามตัว อาหารจานนี้ก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อย

เนื้อย่างไฟของอาเหวยก็ทำเสร็จแล้วเช่นกัน มันยังคงหยดติ๋งๆ ออกมาจากเนื้ออสูรเวทที่ส่งกลิ่นหอมเข้มข้น

“เถ้าแก่ปู้ ลองกินอาหารจานนี้ดู” อาเหวยเดินตรงไปหาปู้ฟางพลางยื่นเนื้อย่างไฟให้

ทันทีที่ปู้ฟางเอื้อมมือออกไปรับเนื้อย่างไฟ คลื่นความหอมก็พุ่งเข้ามาปะทะใบหน้าของเขา ร่างกายและจิตใจของชายหนุ่มพลันถูกโอบล้อม เขารู้สึกราวกับว่าตนกำลังหลงทางอยู่ในทะเลแห่งกลิ่นหอมที่ไร้ซึ่งทางออก กลิ่นนี้…ช่างหอมยั่วยวนใจยิ่งนัก

ควันสีเขียวพลันหมุนวนอยู่รอบข้อมือของปู้ฟาง จากนั้นมีดทำครัวกระดูกมังกรทองก็ปรากฏขึ้น เมื่อชายหนุ่มใช้มีดผ่ากระเพาะของอสูรเวทเบาๆ น้ำซอสร้อนๆ ก็พลันทะลักออกมาท่วมเนื้อย่าง จนทำให้กลิ่นของมันยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก

หากเกี๊ยวจันทร์เสี้ยวสีรุ้งของปู้ฟางเป็นดอกกล้วยไม้สีขาวสวยสะอาดตา เนื้อย่างไฟตรงหน้าเขาย่อมเป็นดอกกุหลาบสีแดงร้อนแรง ถือเป็นอาหารต่างประเภทกันอย่างสิ้นเชิง

ปู้ฟางหั่นเนื้อออกมาชิ้นหนึ่งแล้วใช้ตะเกียบคีบขึ้นมา เขาจุ่มชิ้นเนื้อลงในซอสก่อนจะเอาเข้าปาก หนังกรุบกรอบและเนื้อที่ชุ่มฉ่ำของมันพลันเข้าปกคลุมต่อมรับรสของชายหนุ่ม จนดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ขณะเดียวกันอาเหวยก็หยิบชามใส่เกี๊ยวขึ้นมา เกี๊ยวที่ดูเหมือนดอกกล้วยไม้สีขาวสะอาดตาไม่ได้ดูน่าประทับใจในคราวแรก แต่ชิ้นเกี๊ยวสีขาวสวยงามนี้ก็ทำให้รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเล็กน้อย

ทว่า…ทุกครั้งที่ได้ชิมอาหาร ปู้ฟางก็อดปากร้ายวิจารณ์ออกไปตรงๆ ตามนิสัยไม่ได้ ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน

“รสชาติเนื้อย่างไฟของเจ้า… นับว่าไม่เลว แต่วิธีที่เจ้าใช้เตรียมเนื้ออสูรเวทนั้นยังไม่ดีพอ พลังปราณที่อยู่ในเนื้อนั้นเทียบเท่าพลังปราณระดับสาม แต่พลังปราณทั้งหมดก็แทบจะสูญสลายไปหลังจากผ่านมือเจ้า อีกอย่างเจ้ารมควันเนื้อด้วยสมุนไพรพลังปราณ แต่กลับไม่ใส่แก่นของสมุนไพรพลังปราณลงในเนื้อ แถมเจ้ายังใส่วัตถุดิบที่ไม่จำเป็นมากมายซึ่งส่งผลต่อรสชาติลงไปด้วย จนทำให้เนื้อมีรสประหลาดเล็กน้อย นอกจากนั้นน้ำซอสยัง…”

ทุกคนต่างอ้าปากค้างจับจ้องไปที่ปู้ฟางซึ่งดูเหมือนจะกลายร่างเป็นเครื่องฉอดไปแล้ว ปู้ฟางคนนี้ช่างแตกต่างจากปู้ฟางปกติที่สงวนคำพูดเสียเหลือเกิน อาเหวยฟังคำวิจารณ์ด้วยสีหน้าซีดเผือด แต่ในใจกลับตื่นตระหนกยิ่งกว่า เพราะปู้ฟางระบุข้อด้อยของอาหารจานนี้ออกมาได้อย่างถูกต้อง บางข้อเขาอาจทำเป็นไม่ใส่ใจได้ แต่หลายข้อก็ไม่อาจกลบเกลื่อนได้จริงๆ

ทว่าปู้ฟางกลับประเมินอาหารจานนี้ได้อย่างถูกต้องตรงเผงทั้งที่เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำ ชายผู้นี้ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!

“สมกับเป็นชายที่เอาชนะข้าได้!” อาเหวยคิดพลางเชิดคางขึ้น

หลังจากปู้ฟางประเมินอาหารตรงหน้าเสร็จ เขาก็กลับมามีทีท่านิ่งเฉยตามเดิมพลางเริ่มทำความสะอาดเตาทำอาหาร งานสมโภชร้อยครอบครัวในปีนี้สิ้นสุดลงแล้วและเห็นได้ชัดเจนว่าผู้ชนะเป็นใคร

ปู้ฟางรับตำแหน่งนี้ไปครอง เพราะชามกระเบื้องด้านหน้าเขามีเหรียญทองแดงกองอยู่สูงกว่าของผู้ใด

ไม่มีเสียงปรบมือแสดงความยินดีและปู้ฟางเองก็ไม่ได้รู้สึกดีใจกับชัยชนะแต่อย่างใด เขากวาดตามองฝูงชนด้วยสีหน้านิ่งเฉยราวกับว่าการได้ที่หนึ่งสำหรับเขานั้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดายิ่ง

“ขอแสดงความยินดีกับนายท่านด้วยที่ทำภารกิจฉุกเฉินหมายเลขสองสำเร็จ ด้วยการคว้าที่หนึ่งในงานสมโภชร้อยครอบครัวมาได้ ท่านเอาชนะทุกคนและแพร่ขยายชื่อเสียงของพ่อครัวเทพให้ขจรขจายออกไป ระบบจะประกาศของรางวัลของภารกิจเดี๋ยวนี้”

ปู้ฟางนิ่งอึ้งไปเมื่อเสียงเคร่งขรึมของระบบดังขึ้นในศีรษะเขา

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ขันทีผู้หนึ่งก็ประกาศชื่อผู้ชนะในงานสมโภชร้อยครอบครัวและของรางวัลที่คนผู้นั้นจะได้รับ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD