“พี่ใหญ่อาหนี่!”
“พี่ใหญ่อาหนี่ สวัสดีขอรับ! มาตรวจดูสวนสมุนไพรหรือขอรับ”
“ขั้นปราณของพี่ใหญ่อาหนี่นี่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เลย! พลังปราณของเขาช่างน่าประทับใจจริงๆ!”
…
อาหนี่ยืดอกเลื้อยอาดๆ ผ่านพื้นชื้นแฉะของหนองน้ำ ท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า เผยให้เห็นมัดกล้ามแข็งแกร่ง และรอยสักแสนประหลาดที่ทำให้เขาดูดุร้ายขึ้นอีกเล็กน้อย
บรรดามนุษย์อสรพิษตนอื่นๆ ทำความเคารพอาหนี่ด้วยความยกย่องขณะที่เขาเลื้อยผ่าน หลายคนมีสีหน้านบนอบ แต่หลายคนก็มีแววอิจฉาอยู่ในดวงตา อาหนี่ไม่ใช่คนที่มีขั้นปราณสูงสุดในเผ่ามนุษย์อสรพิษนี้ แต่หัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสต่างมองว่าเขาเป็นผู้ที่มีศักยภาพสูงสุดที่จะเติบใหญ่ในอนาคต
ด้วยพลังปราณระดับหกขั้นจักรพรรดิยุทธการ อาหนี่มักออกล่าจระเข้หางวิญญาณที่เป็นอสูรเวทระดับห้าเสมอ และสามารถฉีกมันเป็นชิ้นๆ ได้ด้วยมือเปล่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่ายกย่องในหมู่มนุษย์อสรพิษด้วยกันเอง
ด้วยความที่มนุษย์อสรพิษสามารถสร้างสังคมขึ้นในสถานที่อันตรายอย่างหนองน้ำปราณมายาได้แม้จะถูกอสูรเวทที่ทรงพลังมากมายระรานอยู่เสมอ พวกเขาจึงมีกฎความอยู่รอดภายในหมู่มนุษย์อสรพิษด้วยกันเอง
การที่พวกเขาจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมที่อันตรายถึงชีวิตเช่นนี้ อย่างแรกจะต้องจัดการกับอสูรเวทให้เป็นเสียก่อน ด้วยเหตุนี้เหล่ามนุษย์อสรพิษจึงใช้ความสามารถในการฆ่าจระเข้หางวิญญาณเป็นมาตรวัดความแข็งแกร่งในหมู่พวกเขาด้วยกันเอง เนื่องจากอสูรเวทชนิดนี้เป็นอันตรายต่อตัวพวกเขามากที่สุด
มนุษย์อสรพิษตนใดที่สามารถสังหารจระเข้หางวิญญาณได้ จะถือว่าเป็นนักรบตัวจริงในชนเผ่านี้
ชนเผ่าของอาหนี่ถือเป็นเผ่าขนาดเล็ก แต่กลับมีประชากรอยู่มากจนน่าประหลาดใจ หากเทียบกับสังคมมนุษย์ปกติแล้ว ถือว่ามากพอๆ กับจำนวนคนในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งเลยทีเดียว
แม้บ้านช่องของพวกเขาจะสร้างขึ้นมาหยาบๆ แต่ก็ยังถือเป็นที่อยู่อาศัยได้ บ้านเรือนที่เรียงรายกันเป็นแถวนั้นดูเหมือนเมืองเล็กๆ ไม่มีผิด
อาหนี่เคยได้ยินจากผู้อาวุโสว่า มีเมืองขนาดใหญ่ที่สร้างโดยมนุษย์อสรพิษอยู่ที่ไหนสักแห่งในหนองน้ำปราณมายาแห่งนี้เช่นกัน เมืองนั้นมีตึกรามบ้านช่องตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ การก่อสร้างก็เป็นไปอย่างประณีตทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ต่างอะไรจากเมืองที่มนุษย์เป็นคนสร้างเลยแม้แต่น้อย มนุษย์อสรพิษที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้น สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขภายใต้การปกครองของประมุขอสรพิษ
สถานที่แห่งนั้นไม่มีจระเข้หางวิญญาณและอสูรเวทชนิดอื่นที่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของพวกเขา บรรดาลูกหลานของคนเหล่านั้นหลังจากที่ฟักออกมาจากไข่ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไร้ซึ่งภัยอันตราย โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย… และนั่นคือโลกที่อาหนี่กับสมาชิกเผ่าคนอื่นๆ ต้องการ
ปัก! อาหนี่ใช้หางฟาดลงกับพื้น ทำให้น้ำเย็นสาดกระจายไปทั่ว
นักรบมนุษย์อสรพิษสองตนที่ถือหอกอยู่ในมือโค้งคำนับอาหนี่ด้วยท่าทางเคารพ
ทั้งสองตนนี้เป็นนักรบของเผ่า มีทำหน้าที่คุ้มกันพื้นที่ด้านหลังที่ล้อมเอาไว้ด้วยรั้วไม้ไผ่สร้างอย่างหยาบ นี่เป็นบริเวณที่สำคัญที่สุดของเผ่า เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสวนสมุนไพร เบื้องหลังรั้วไม้ไผ่นี้มีสมุนไพรพลังปราณล้ำค่ามากมาย แม้ส่วนมากจะเป็นระดับสามหรือสี่ แต่ก็มีบ้างเช่นกันที่เป็นระดับห้าหรือหก มีแม้กระทั่งสมุนไพรระดับเจ็ดอย่างดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งที่กำลังจะเบ่งบานด้วย
“ทำหน้าที่ได้ดีมาก อย่าประมาทเชียวล่ะ คอยจับสังเกตอะไรก็ตามที่ดูเหมือนจะสร้างปัญหาให้สวนสมุนไพรไว้ ไอ้พวกมนุษย์ชั่วร้ายมันจมูกดีเหมือนหมา พอสมุนไพรเราโตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว พวกมันจะต้องวิ่งรี่เข้ามาเหมือนหมาตามกลิ่นแน่นอน เราจะปล่อยให้พวกมันมาทำนาบนหลังคนไม่ได้เป็นอันขาด” อาหนี่พูดพร้อมตบบ่าเหล่าทหารเฝ้าประตู
นักรบทั้งสองยืดอกขึ้นพร้อมพยักหน้าตอบรับทันที
มุมปากของอาหนี่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขาเลื้อยผ่านทหารทั้งสองเข้าไปในสวนสมุนไพร
เมื่ออาหนี่เหยียบเข้าไปในสวน กลิ่นหอมเข้มข้นของสมุนไพรที่อบอวลอยู่ในอากาศก็พุ่งเข้าโจมตีจมูกเขาทันที เขารู้สึกเหมือนถูกสะกดจิตอย่างไรอย่างนั้น
“อาหนี่ เจ้ากลับมาทำไมอีก”
ขณะที่อาหนี่กำลังสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเอากลิ่นสมุนไพรหอมๆ เข้าจมูก เสียงหวานไพเราะก็ลอยมาเข้าหู กลุ่มมนุษย์อสรพิษเพศหญิงเลื้อยออกจากส่วนลึกของสวนสมุนไพรตรงมาหาเขา
เหล่ามนุษย์อสรพิษเพศหญิงมีร่างกายท่อนล่างเป็นงูเหมือนอาหนี่ ส่วนร่างกายท่อนบนเหมือนมนุษย์เพศหญิงธรรมดาทั่วไป หน้าอกใหญ่โตของพวกนางถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าลินินที่ได้มาจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับมนุษย์
ผู้นำของกลุ่มเป็นมนุษย์อสรพิษหญิงที่มีหน้าตางดงามเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ ใบหน้าสมบูรณ์แบบราวถูกสลักด้วยฝีมือของพระผู้สร้าง อีกทั้งร่างกายยังโค้งเว้าได้สัดส่วน เรียกได้ว่าทิ้งห่างคนอื่นๆ ไปไกล
“หยูฟู่ เจ้านี่นับวันยิ่งสวยวันสวยคืนจริงๆ! วันหนึ่งเจ้าจะต้องมาเป็นภรรยาข้าแน่!” อาหนี่พูดพร้อมมองมนุษย์อสรพิษหญิงผู้นำกลุ่มด้วยสายตาเหมือนต้องมนต์
หยูฟู่ขมวดคิ้ว นางมองอาหนี่ด้วยสายตาเย็นชาพลางเอ่ยถาม “วันนี้เจ้ามาเพื่ออะไรอีก สวนสมุนไพรอยู่ในเขตความรับผิดชอบของพวกข้า เจ้ากำลังปรามาสว่าพวกข้าทำงานได้ไม่ดีพอหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD