“แม่นาง รีบไปเถิด ข้าจะถ่วงเวลาผู้เฒ่ามนุษย์อสรพิษเอาไว้เอง”
ผู้ติดตามของอู๋อวิ๋นไป่ปล่อยพลังปราณปริมาณมหาศาลออกจากร่าง ขณะกันการโจมตีของผู้อาวุโสอสรพิษที่กำลังโบกสะบัดหางเป็นอาวุธไว้ พลังที่ผู้อาวุโสผู้นี้ปล่อยออกมาแข็งแกร่งยิ่งนัก เนื่องจากเป็นผู้ฝึกตนขั้นนักพรตยุทธการเช่นกัน
ทั้งสองเหาะขึ้นฟ้าแล้วเริ่มห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดกลางอากาศ ดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งอยู่ไม่ไกลออกไปจากสนามรบมาก ทั้งสองจึงไม่อยากเสี่ยงทำลายดอกบัวโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ทั้งคู่เห็นพ้องต้องกันโดยไม่ได้นัดหมาย จึงพากันเหินขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อสู้กันต่อ
อู๋อวิ๋นไป่มองการต่อสู้ในอากาศด้วยสายตาสงบนิ่ง จากนั้นก็เริ่มถอยอย่างไม่รีบร้อน พร้อมเอามือไพล่หลังไปด้วย
“เจ้ามนุษย์ชั่ว คิดจะหนีไปไหนกัน!” อาหนี่ตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว จากนั้นก็พุ่งหอกแหวกอากาศเข้าใส่อู๋อวิ๋นไป่พร้อมเสียงคำรามกึกก้อง
อู๋อวิ๋นไป่นิ่วหน้าแล้วยกมือเรียวยาวขึ้นฟาดฝ่ามือไปในอากาศ หมอกหนาราวกลุ่มเมฆปรากฏขึ้นและกระจายตัวไปทั่วบริเวณ ราวกับเป็นม่านจากฟากฟ้าที่ทิ้งตัวลงปกคลุมผืนดิน
ตอนที่อาหนี่พุ่งออกจากหมอกพร่ามัว ร่างของอู๋อวิ๋นไป่ก็อันตรธานไปแล้ว เขาส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมเอาหางฟาดพื้นอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็เลื้อยไปยังทิศที่อู๋อวิ๋นไป่หนีไปเพื่อตามล่าตัวนาง
อู๋อวิ๋นไป่เอาเท้าแตะพื้นอย่างแผ่วเบาพร้อมเอามือไพล่หลัง แต่ละย่างก้าวกินระยะทางไกลพอตัว ทันใดนั้นร่างของนางก็สั่นเล็กน้อย ก่อนจะหยุดลงแล้วมองไปที่จุดหนึ่งในระยะไกลด้วยสายตางุนงง
นางเห็นภาพชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังถือ… เอ่อ มีดทำครัวรึ
สีหน้าของอู๋อวิ๋นไป่แปลกประหลาดขึ้นทันใด เหตุใดจึงมีมนุษย์มายืนทะเล่อทะล่าถือมีดทำครัวอยู่ในสวนสมุนไพรของเผ่ามนุษย์อสรพิษได้ ยิ่งไปกว่านั้นเบื้องหน้าของชายผู้นี้… ยังมีมนุษย์อสรพิษสามตนคำนับติดพื้นอยู่
ตอนนี้มนุษย์อสรพิษสามตนที่กำลังก้มหัวศิโรราบให้ปู้ฟาง ได้สูญเสียความหยิ่งยโสเมื่อครู่ไปหมดสิ้นแล้ว สิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในใจพวกเขาคือความกลัวจับขั้วหัวใจ ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด แต่เป็นเพราะไอ้มีดทำครัวบ้าบอในมือมนุษย์ชั่วร้ายนี่
ทันทีที่มีดทำครัวเล่มนี้ปรากฏขึ้น เหล่าทหารยามก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกประหลาดที่แฝงอยู่ในจุดลึกสุดของสายเลือดแห่งความเป็นอสรพิษของพวกเขา กระแสพลังปราณเที่ยงแท้ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างหยุดนิ่งทันที
ไอ้สิ่งนี้มันเป็นมีดทำครัวจริงๆ น่ะหรือ แล้วไอ้หนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็นใครกัน
มนุษย์อสรพิษเบื้องหน้าปู้ฟางแทบอยากระเบิดร้องไห้โฮ พวกเขาทั้งสามมีขั้นปราณอ่อนกว่าหมอนี่ตั้งแต่แรกแล้ว แต่กลับถูกรังแกด้วยมีดทำครัวที่สยบพวกเขาได้อีก… แล้วแบบนี้จะไปสู้ได้อย่างไรกัน
ปู้ฟางยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็มองมนุษย์อสรพิษสามตนที่หมอบราบอยู่กับพื้นด้วยสายตาไร้ความรู้สึก แม้มนุษย์อสรพิษจะเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งงู แต่ก็ยังถือว่ามีสายเลือดของงูอยู่ในกาย และงูก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่พัวพันอีนุงตุงนังกับมังกร ส่วนมีดทำครัวกระดูกมังกรทองนี้ก็มีพลังงานแสนน่ากลัวของมังกรอยู่ภายใน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดที่มีดทำครัวของเขาสามารถสยบมนุษย์อสรพิษได้
ปู้ฟางควงมีดทำครัวในมือ แล้วเลิกสนใจมนุษย์อสรพิษสามตนตรงหน้า เขาค่อยๆ เดินจากทหารยามกลุ่มนั้นมา
อู๋อวิ๋นไป่ก้าวออกจากม่านหมอกมาพร้อมเอามือไพล่หลัง ทั้งสองเดินสวนกัน
สตรีในคราบชายหนุ่มมองปู้ฟาง นางประเมินหนุ่มร่างสูงโปร่งตรงหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย หมอนี่เป็นแค่ผู้ฝึกตนระดับห้าขั้นราชันยุทธการ แต่กลับกล้าทะเล่อทะล่าเดินดุ่มๆ เข้ามาในสวนสมุนไพรของเผ่ามนุษย์อสรพิษตัวคนเดียวนี่นะ
แม้เผ่านี้จะถือเป็นเผ่าเล็กๆ ในหมู่มนุษย์อสรพิษ แต่ก็ยังมีนักรบมนุษย์อสรพิษที่แข็งแกร่งมากมายประจำการอยู่ ผู้ฝึกตนระดับห้าขั้นราชันย์ยุทธการนั้น… เรียกได้ว่าอ่อนแอจนน่าหัวเราะให้ฟันหัก
ขณะที่นางกำลังมองประเมินปู้ฟางอยู่ ชายหนุ่มเองก็กำลังทำเช่นเดียวกัน เขามองจ้องหนุ่มหน้าสวยเบื้องหน้าตนเอง
ปู้ฟางจำได้ดีว่าหมอนี่เป็นหนึ่งในผู้โดยสารในเรือที่แล่นผ่านเขาไปก่อนหน้า ดูท่าว่าคนกลุ่มนั้นจะมีเป้าหมายอยู่ที่สวนสมุนไพรเหมือนกันสินะ
“เจ้าเป็นใคร ไม่รู้หรือว่าที่นี่เป็นสถานที่อันตราย” อู๋อวิ๋นไป่เอ่ย น้ำเสียงของนางเย็นชาไร้ความอ่อนโยนของสตรีปกติ
“เจ้าควรรีบจากไปเสีย ตรงนั้นมีขั้นนักพรตยุทธการสองคนกำลังสู้กันอยู่ หากเจ้าทะเล่อทะล่าเข้าไปมากกว่านี้ อาจโดนลูกหลงได้”
อู๋อวิ๋นไป่ไม่ได้พูดอะไรกับปู้ฟางมาก นางทำเพียงเตือนชายหนุ่มด้วยความหวังดีแล้วเดินผ่านเขาไป
ในตอนที่ใบหน้าของปู้ฟางกำลังเต็มไปด้วยความประหลาดใจและดวงตาของเขายังจับจ้องอยู่ที่หญิงสาว ร่างหนึ่งก็กระโจนออกจากส่วนลึกของสวนสมุนไพรพร้อมด้วยพลังกดดันน่ากลัว
หอกพุ่งตรงมายังทิศที่อู๋อวิ๋นไป่อยู่
ปู้ฟางที่ยืนเซ่อซ่าอยู่ระหว่างคนทั้งสอง แน่นอนว่าต้องเป็นฝ่ายที่รับการโจมตีไปตรงๆ
“มีมนุษย์อยู่อีกคนรึ! ไอ้พวกมนุษย์ชั่วช้าหน้าไม่อาย เจ้าคิดว่าสวนสมุนไพรของเผ่าเราเป็นสวนหลังบ้านของตำหนักเมฆาขาวหรืออย่างไรกัน! ตายเสียเถอะ!” อาหนี่ลุกเป็นไฟทันทีที่เห็นปู้ฟางโผล่มาอีกคน เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้นก่อนพุ่งหอกใส่ชายหนุ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD