กลิ่นของสมุนไพรที่อบอวลอยู่ในอากาศทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนหลายคนในที่แห่งนี้เริ่มรู้สึกว่าพลังปราณในกายตนเองกำลังเดือดปุดด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าจะบรรลุขั้นปราณเมื่อใดก็ได้
มนุษย์อสรพิษหลายตนขดร่างกายส่วนล่างให้กลายเป็นก้อนกลมจากนั้นก็เริ่มจับลมหายใจ พวกเขาสูดกลิ่นหอมของสมุนไพรเข้าไป แล้วเริ่มฝึกพลังปราณ
สมแล้วที่เป็นดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็ง ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยให้บรรลุขั้นปราณได้ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดอสูรเวทระดับเจ็ดอย่างงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬจะตามกลิ่นของมันมา
ครืน!
เมื่อกลิ่นของสมุนไพรทวีความรุนแรงขึ้น งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬที่ซุ่มรออยู่เงียบๆ ก็ยกตัวขึ้นช้าๆ ร่างยักษ์ของมันกำลังมองทุกอย่างจากมุมสูง ดวงตาของงูร้ายเต็มไปด้วยความไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ทั้งสิ้น
งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬแลบลิ้นสองแฉกสีดำเมี่ยมส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมา ขณะ รอดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งเบ่งบานด้วยใจจดจ่อ
ทุกคนในเผ่าอดรู้สึกเครียดขึงขึ้นมาไม่ได้ขณะมองไปที่งูยักษ์ ผู้ฝึกตนขั้นนักพรตยุทธการทั้งสองยืนอยู่บนท้องฟ้าด้วยความองอาจ ปล่อยพลังแก่กล้าออกมาต้านกับงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬ
สายตาของปู้ฟางจับจ้องไปที่ดอกบัวตูมสีฟ้าอ่อนเกือบตลอดเวลา ดอกบัวกระจายประกายแสงออกมาเหมือนหิ่งห้อยในยามค่ำคืน ตัดกับแสงจากดวงจันทร์บนท้องฟ้า
อสูรเวทที่รายล้อมอยู่เริ่มคำรามด้วยท่าทางคุกคามน่ากลัว ระดับพลังปราณที่พวกมันปล่อยออกมาเริ่มไม่นิ่งเมื่องูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬค่อยๆ เคลื่อนไหว
งูเหลือมยักษ์ยืดตัวขึ้นแล้วก้มหัวลงมองด้านล่าง มันค่อยๆ คืบเข้าใกล้ดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็ง
เมื่องูเหลือมขยับเข้ามาใกล้ ผู้ฝึกตนขั้นนักพรตยุทธการทั้งสองก็รู้สึกว่าพลังกดดันที่ทับลงมาบนตัวพวกเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน… สมแล้วที่เป็นสิ่งมีชีวิตน่ากลัวซึ่งผ่านการลอกคราบมาแล้วสามครั้ง พลังกดดันที่แผ่ออกจากตัวงูเหลือมยักษ์นั้นทรงพลังเป็นอันมาก
อู๋อวิ๋นไป่เบิกตากว้าง นางอ้าปากมองการเผชิญหน้าบนท้องฟ้า ดูเหมือนว่าผู้ฝึกตนขั้นนักพรตยุทธการทั้งสองจะเสียเปรียบอยู่
“ดูสิ! ดอกไม้จะบานแล้ว!”
ใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ แล้วชี้นิ้วสั่นเทาไปยังดอกบัวตูมที่ชูช่ออยู่ในสระน้ำเล็กๆ ดอกบัวตูมสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อเวลาใกล้เข้ามาถึง
ทุกคนกลั้นหายใจ รู้สึกราวกับว่าพลังงานบางอย่างที่อยู่ในอากาศได้แหวกออกจากกรงขังและกำลังพุ่งออกสู่โลกภายนอก
พลังปราณเยือกแข็งระเบิดออกจากดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็ง ถาโถมเข้ามาเหมือนกระแสน้ำขึ้น
“เริ่มแล้ว!” ดวงตาของอู๋อวิ๋นไป่เป็นประกายด้วยความคาดหวังขณะจ้องไปที่ดอกบัวในสระน้ำ
“การเบ่งบานของดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งคือความงามที่ไม่จีรัง… ดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งที่กำลังเบ่งบานนั้นจะทำให้ใครก็ตามที่ได้พบเห็นต้องมนต์อย่างแน่นอน…” หยูฟู่พึมพำกับตนเองขณะมองดอกบัวตูมที่ชูช่ออยู่ในสระน้ำด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม
กลีบแรกของดอกบัวค่อยๆ คลี่ออกอย่างเงียบเชียบ พร้อมๆ กับกระแสพลังปราณที่ซัดสูงขึ้น จากนั้นกลีบที่สองและกลีบที่สามก็ค่อยๆ คลี่ตามมา…
ทุกครั้งที่กลีบดอกแต่ละกลีบคลี่ออก ภาพมายาของกลีบดอกบัวกลีบยักษ์จะปรากฏขึ้นในอากาศเหมือนแสงเงินแสงทองสวยจับตา
ปู้ฟางตาเป็นประกายด้วยความตื่นตาตื่นใจ ภาพอันสวยงามเช่นนี้ยากนักที่จะพบเห็นได้ การเบ่งบานของสมุนไพรพลังปราณระดับเจ็ดเป็นภาพที่ประหลาดยิ่ง ก่อนหน้านี้เหตุการณ์ภาพมายาของนกปักษาเพลิงที่ทะยานขึ้นไปในอากาศ ระหว่างการบานของสมุนไพรโลหิตปักษาเพลิงในหุบเขาปักษาเพลิงพ่ายก็เป็นภาพที่สวยงามไม่แพ้กัน
ดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งเป็นสมุนไพรระดับเจ็ด ดังนั้นความสวยงามยามผลิบานของมันจึงไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าสมุนไพรโลหิตปักษาเพลิงเลยแม้แต่น้อย
ฟ่อ!
โครม! พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน ทุกคนละความสนใจออกจากภาพสวยงามตรงหน้าทันที ในที่สุดงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬตัวยักษ์ก็หมดความอดทน มันแลบลิ้นสองแฉกออกมา ดวงตาขนาดใหญ่เท่าโคมไฟเป็นประกายด้วยความรู้สึกมากมาย
ดวงตาของงูร้ายเอ่อท้นด้วยความชั่วร้ายและรังสีสังหารอาฆาต
ผู้ฝึกตนขั้นนักพรตยุทธการทั้งสองต่างเคร่งเครียดขึ้นทันที แล้วร้องออกมาด้วยความฮึกเหิมเตรียมออกศึก
ภาพของดอกบัวบานสวยงามที่ปรากฏขึ้นในอากาศก็จบสิ้นลงแล้วเช่นกัน มันเป็นเพียงความงามที่ไม่จีรังอย่างที่เขาว่าเอาไว้จริงๆ เสียด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD