ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 182

ปู้ฟางเดาไว้อยู่แล้วว่าหากเขาใช้วัตถุดิบที่ระบบมอบให้มาทำอาหารเลี้ยงคน ระบบจะต้องหักผลึกจากรายได้ของเขาแน่นอนด้วยนิสัยของมัน… ด้วยเหตุนี้เขาจึงหัวหมอตัดสินใจใช้วัตถุดิบมากมายที่ตนเองเก็บมาได้จากหนองน้ำปราณมายาแทน

ชายหนุ่มเก็บสมุนไพรพลังปราณมามากมายหลายชนิดแม้จะไม่ใช่สมุนไพรระดับสูงก็ตาม นอกจากนี้ปู้ฟางเขาก็ยังเจอขุมทรัพย์ที่คาดไม่ถึงด้วย ซึ่งก็คือปลาเนื้อแน่นของเผ่ามนุษย์อสรพิษที่เป็นอสูรเวทระดับหนึ่งนั่นเอง แม้ระดับของมันจะไม่สูง แต่เนื้อของปลาทุกตัวก็อ้วนท้วนสมบูรณ์น่ากินเป็นอันมาก

ปู้ฟางนำปลาชนิดนี้กลับมาสองสามตัว เนื่องจากเขาไม่มีโอกาสได้กินปลาย่างหอมฉุยที่ตนเองทำที่เผ่ามนุษย์อสรพิษเลยรู้สึกเสียดายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงเขาจะเป็นพ่อครัวแต่ก็รักในการกินด้วยเช่นกัน ด้วยความที่หัวใจของเขาร่ำร้องอยากกินปลาย่าง ชายหนุ่มจึงนำปลากลับมาด้วย อีกทั้งปลานี้ก็ไม่ใช่ของมีค่าในเผ่าอยู่แล้วเป็นทุนเดิม

ที่เผ่ามนุษย์อสรพิษ ปู้ฟางสามารถย่างปลาแสนอร่อยออกมาได้ในสภาพแสนทุรกันดารขาดเครื่องมือเครื่องใช้ เมื่อกลับมาถึงร้านที่มีอุปกรณ์พรั่งพร้อม แน่นอนว่าปลาย่างนี้จะต้องผ่านการปรับปรุงอย่างมหาศาลแน่

กลุ่มคนข้างนอกต่างพากันรออาหารจานใหม่ของปู้ฟางอย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากอาหารใหม่ของชายหนุ่มไม่เคยทำให้พวกเขาผิดหวัง

ปู้ฟางยืนอยู่หน้าตู้เก็บของ กำลังดื่มดำกับความสะอาดและความครบครันของครัวที่ร้าน ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกแล้วถอนใจออกมาด้วยความตระหนักรู้ สภาพห้องครัวของร้านเขานั้นยอดเยี่ยมกว่าที่เผ่ามนุษย์อสรพิษอย่างชนิดที่ว่าไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว

เมื่อมีอุปกรณ์ที่ดีเยี่ยมและสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำอาหารเช่นนี้ ปู้ฟางก็สามารถทำปลาย่างได้อย่างมั่นใจขึ้นกว่าเดิม

ชายหนุ่มรีบเอาปลาอ้วนสองตัวที่ดินพราดๆ ออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บ ปู้ฟางเขาสำรวจดูความอ้วนท้วนสมบูรณ์ของปลา แล้วก็ชอบมันมากขึ้นไปอีก แม้พลังปราณของปลาชนิดนี้จะต่ำมากก็ตาม

กลุ่มควันสีเขียวหมุนวนรอบมือของปู้ฟาง จากนั้นมีดทำครัวกระดูกมังกรทองก็ปรากฏขึ้น เขาใช้น้ำสะอาดบริสุทธิ์จากบ่อน้ำพุล้างมีด แม้มีดทำครัวกระดูกมังกรทองจะทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว แต่ปู้ฟางที่เป็นคนรักความสะอาดมากก็อดล้างมีดตามนิสัยไม่ได้

พอล้างมีดเสร็จ ปู้ฟางก็เริ่มเตรียมปลา เขาใช้เวลาไม่นานจัดการปลาทั้งสองตัว เนื่องจากคุ้นชินกับการเตรียมเนื้อปลาอย่างดี จากนั้นชายหนุ่มก็ผ่าท้องปลายาวไปจนถึงหาง กลับด้านเนื้อปลาออกมา แล้วบั้งสองสามครั้ง

เขาหยิบหม้อกระเบื้องออกมาแล้วใส่สุราสำหรับทำอาหารลงไป จากนั้นก็ใส่ปลาไว้ข้างใน ใส่ส่วนผสมเพื่อหมักเนื้อปลาลงไป แล้วนำหม้อไปใส่ไว้ในตู้สำหรับหมัก

ตู้จากระบบช่วยย่นเวลาการหมักให้สั้นลงได้มาก

ระหว่างที่กำลังรอให้ปลาหมักเข้าเนื้อ ปู้ฟางก็เริ่มเตรียมเครื่องเคียง เขาหยิบผักผลไม้ออกมา ควงมีดในมือ จากนั้นก็เตรียมทุกอย่างเสร็จภายในพริบตา

สุดท้ายเขาก็หยิบก้อนมงกุฎเลือดสีแดงชาดออกมา มงกุฎเลือดของอสูรเวทระดับเจ็ดงูเหลือมทมิฬนั้น จัดเป็นวัตถุดิบที่ล้ำค่ามากเนื่องจากมีพลังปราณปริมาณมากอัดแน่นอยู่ภายใน กระแสพลังปราณภายในก้อนมงกุฎเลือดนี้ทำให้ทุกคนตกใจได้เลยทีเดียว

ปู้ฟางหั่นมงกุฎเลือดออกมาหนึ่งในสาม ทันทีที่มงกุฎเลือดถูกผ่า พลังปราณสารัตถะก็พวยพุ่งออกมาไม่ต่างจากมังกรที่มีชีวิตชีวาเต็มเปี่ยม สิ่งนี้คือแก่นชีวิตของงูเหลือมทมิฬ แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องไม่ธรรมดา

มงกุฎเลือดนั้นมีสัมผัสคล้ายเห็ด ด้วยเหตุนี้ปู้ฟางจึงหั่นมันให้เป็นเส้นแล้วนำไปผสมกับผัก

ปู้ฟางหยิบปลาสองชิ้นที่หมักเสร็จเรียบร้อยออกมาจากตู้ จากนั้นก็ขอให้ระบบเตรียมกระทะพิเศษสำหรับย่างปลาเอาไว้ให้

แม้ระบบจะขี้เหนียว แต่การจัดหากระทะสำหรับย่างให้ใหม่นั้นไม่กระทบจำนวนผลึกของปู้ฟาง เขาจะถูกหักเงินก็ต่อเมื่อขอวัตถุดิบเพิ่มเท่านั้น

ชายหนุ่มวางปลาสองชิ้นลงบนกระทะจากนั้นก็ใส่เข้าไปในเตาอบเพื่อย่าง ไอน้ำในเตาอบจะทำให้ปลาทั้งสองชิ้นนี้ค่อยๆ สุกเต็มที่ เมื่อได้เวลาพอเหมาะ ชายหนุ่มก็นำกระทะออกมา กลิ่นหอมของปลาย่างลอยล่องไปทั่ว

ผักและผลไม้ที่นำไปผัดกับน้ำมันถูกเทลงบนปลาย่าง มงกุฎเลือดละลายช้าๆ จากอุณหภูมิที่สูงด้วยกรรมวิธีการย่าง พลังปราณจากมงกุฎเลือดแทรกซึมเข้าไปในเนื้อปลาและผักผลไม้เป็นที่เรียบร้อย

กลิ่นหอมลอยฟุ้งออกมาพร้อมด้วยพลังปราณจำนวนมาก ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหิวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

ปลาสองตัวนี้พอให้คนจำนวนมากด้านนอกกินพอดี

“นี่ พวกเราก็รู้ดีว่าเถ้าแก่ปู้ขี้เหนียวขนาดไหน พวกเจ้าคิดว่าเขาจะเอาอะไรมาเลี้ยงเราหรือ” เจ้าอ้วนจินยืดคอถามคนใกล้ๆ

หลัวซานเหนียนกลอกตาบน มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะ “ไม่มีทางเดาได้หรอก ด้วยนิสัยของเถ้าแก่ปู้แล้ว เขาอาจจะทำขนมปังแป้งข้าวโพดธรรมดาๆ ออกมา แล้วบอกพวกเราหน้าตายว่าเป็นอาหารจานใหม่ก็ได้”

“ไม่… ไม่มีทาง! หากเถ้าแก่ปู้บอกว่าเป็นอาหารจานใหม่ มันต้องคุ้มค่าแก่การรอแน่นอน!” เจวี้ยนเอ๋อร์วางกล่องขนมลงบนโต๊ะแล้วตอกกลับด้วยน้ำเสียงเอียงอายเบาๆ ทันทีที่ได้ยินคำพูดของหลัวซานเหนียน

ทุกคนสงสัยเป็นอย่างมากว่าปู้ฟางจะทำอะไรให้พวกเขากิน นี่เป็นเรื่องที่คาดเดายาก เนื่องจากพวกเขากินอาหารที่ร้านเป็นประจำแทบทุกวัน จึงรู้ดีว่าคุณภาพเช่นใดเหมาะกับราคาเช่นใด หากอาหารที่ปู้ฟางเลี้ยงในวันนี้มีราคาไม่ถึงผลึก ทุกคนคงได้รู้กันคราวนี้ว่าปู้ฟางขี้เหนียวเหมือนที่เขาพูดกันจริงๆ

นี่เป็นเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มต้องงัดเอามงกุฎเลือดออกมาใช้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD