“ยังไม่เปิดอีกรึ ดูเหมือนว่าวันนี้ก็ยังไม่มีหวังสินะ!”
“ข้ามาสามรอบแล้วนะ! เถ้าแก่ปู้เป็นอะไรไป ปิดร้านเกือบสองวันเต็ม หรือว่ากำลังคิดค้นอาหารจานใหม่อยู่กันนะ”
“เถ้าแก่ปู้เปลี่ยนไป เมื่อก่อนเขาไม่ทำอะไรแบบนี้นี่”
กลุ่มคนเริ่มรวมตัวกันที่ทางเข้าร้าน จนตรอกที่เคยกว้างขวางแน่นขนัดไปหมด ทุกคนยืนอยู่หน้าร้านเล็กๆ ของฟางฟาง พร้อมพูดคุยกันเสียงจ้อกแจ้ก
คิ้วสวยของโอวหยางเสี่ยวอี้มุ่นเข้าหากัน นางยืนจังก้าอยู่ที่หน้าร้าน หันไปมองประตูที่ปิดสนิทอยู่เป็นระยะ ปากเล็กน่ารักเม้มเข้าหากันขณะคิด “ไอ้นายท่านตัวเหม็นนี่… จะปิดร้านดันไม่บอกก่อน!”
เจ้าอ้วนจินเองก็ยืนพุงยื่นอยู่ตรงนั้นเช่นกัน เขาพยายามยื่นคอหนาเข้าไปมองในร้านเพื่อดูว่าปู้ฟางกำลังคิดค้นอาหารจานใหม่อยู่จริงหรือไม่ แต่ไม่นานนักก็ล้มเลิกความพยายาม เนื่องจากมองไม่เห็นแม้แต่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้นในร้านบ้าง นอกจากนี้ยังไม่มีกลิ่นอะไรลอยออกมาเลยด้วย คิดดูอีกที… ปู้ฟางน่าจะไม่ได้กำลังคิดค้นอาหารจานใหม่อยู่แน่ๆ
เซียวเยี่ยนอวี่เองก็พยายามมองผ่านผ้าคลุมหน้าของตนเข้าไปในร้าน แต่ก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากโอวหยางเสี่ยวอี้ นางพึมพำเบาๆ “เสี่ยวอี้ ไปกันเถิด ดูเหมือนว่าวันนี้เถ้าแก่ปู้ก็ยังไม่เปิดร้านนะ”
หลัวซานเหนียนผู้แสนอารมณ์ร้อนซึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเช่นกันหมดความอดทนแล้ว หากไม่ใช่เพราะเจวี้ยนเอ๋อร์ที่ยืนถือกล่องอาหารอยู่ข้างๆ คอยดึงตัวนางกลับมาเรื่อยๆ หลัวซานเหนียนคงพังประตูร้านเข้าไปดูเรียบร้อยแล้ว
แต่การพังร้านเข้าไปนั้นดูน่าจะจบไม่สวยนัก…
เจ้าดำนอนอืดอยู่บนพื้น เหลือบตามองกลุ่มคนที่ก่อหวอดอยู่หน้าร้านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มุมปากของมันยกขึ้นเป็นรอยยิ้มราวกับกำลังมองอะไรบางอย่างที่แสนน่าขันและน่าเวทนาไปในคราวเดียวกัน
แต่เจ้าดำเองก็งุนงงเช่นกันว่าเหตุใดปู้ฟางจึงไม่เปิดร้านติดกันถึงสองวัน ทว่ามันก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เพียงแต่ไม่ได้กินซี่โครงเปรี้ยวหวานของโปรดก็เท่านั้น
…
จ๋อมแจ๋ม
สายน้ำไหลผ่านผิวขาวของปู้ฟาง ผมยาวเปียกชื้นลู่ติดกับตัว ชายหนุ่มสะบัดศีรษะอย่างแรงจนทำให้หยดน้ำกระจายไปทุกทิศทาง
ไอน้ำลอยขมุกขมัวอยู่ในอากาศ
ปู้ฟางตัวอุ่นขึ้นหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาเช็ดผมเปียกชื้นด้วยผ้าขนหนูแล้วเดินออกจากห้องน้ำมาด้วยสีหน้าพึงพอใจ การได้อาบน้ำชำระร่างกายตอนเหนื่อยๆ ถือเป็นความสุขที่สุดในโลกแล้ว ยิ่งหากได้กินอาหารรสเลิศตอนนี้ด้วยละก็…
เขาคงรู้สึกมีความสุขเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว!
ชายหนุ่มพันเสื้อคลุมรอบร่างผอมของตน จากนั้นก็เดินไปที่หน้าต่างอย่างสบายอารมณ์ หน้าต่างในห้องเขาปิดสนิท บดบังภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนด้านนอกเอาไว้หมดสิ้น
ผมยาวของปู้ฟางหมาดขึ้นหลังจากเช็ดแล้วแต่ก็ยังคงเปียกอยู่ ปู้ฟางเปิดหน้าต่างรับลมเย็นที่พลันพัดเข้ามาสัมผัสผมเปียกๆ ของเขา ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสดชื่นเป็นอันมาก
“ให้ตายเถิด! หน้าต่างเปิด! เถ้าแก่ปู้อยู่ในร้านนี่!”
“บ้าน่า! หรือว่าเถ้าแก่ปู้นอนขี้เกียจอยู่ในร้านมาสองวันเต็มกันนะ ขนาดเราโวยวายกันขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีกรึ”
“ใครจะไปคิดว่าเถ้าแก่ปู้ไม่ได้ออกจากร้านเลย! หมอนี่มันทำบ้าอะไรอยู่ในห้องตัวเองกัน มัวแต่… คิดอาหารจานใหม่อยู่จริงๆ รึ!”
…
ทันทีที่หน้าต่างเปิด ปู้ฟางที่แทบจะยังไม่ได้สูดลมเย็นเข้าปอดให้หายเหนื่อย ก็ได้ยินเสียงฝูงชนด้านล่างโวยวายดังลั่น เสียงนั้นเต็มไปด้วยความตกใจและงุนงง… ทั้งยังมีความโกรธเคืองปนอยู่ด้วย
ปู้ฟางชะงัก เขายืดคอลงไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นข้างล่างกันแน่ ผมเปียกชื้นตกลงมาปรกหน้าทำให้ชายหนุ่มพลันรู้สึกขนลุกขึ้นมา
“หา คนมาจากไหนเยอะแยะไปหมด แล้วมาทำอะไรอยู่ข้างล่างกันน่ะ” ปู้ฟางถามอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หรี่ตามองฝูงชนด้านนอกร้านที่กำลังกัดฟันกรอดมองเขาตาเขียว
ผู้คนที่ยืนอยู่ด้านล่างระเบิดโทสะขึ้นทันที “เถ้าแก่ปู้ ยังมาไขสืออีก ลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ถึงอย่างไรเราก็ไม่ซ้อมท่านจนตายแน่นอน!”
“ปิดร้านไปสองวันไม่บอกไม่กล่าว ยังจะมีหน้ามาถามอีกรึว่าพวกเรามาทำอะไรกันที่นี่” ทุกคนด้านล่างจ้องปู้ฟางเขม็งด้วยดวงตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ทำให้ชายหนุ่มตัวสั่นขนลุกซู่ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD