ฟ่อ!
เสียงงูขู่ฟ่อเบาๆ ดังขึ้นในโสตประสาท พลังชีวิตที่ลอยอยู่เหนือชามโจ๊กในมือปู้ฟางเปลี่ยนสภาพไปเป็นงูตัวเล็กที่เลื้อยว่ายอยู่ในอากาศ ปะปนกับกลิ่นอาหารที่ล้อมรอบตัวมัน
“นี่… นี่คืออาหารโอสถทิพย์รึ!” อู๋อวิ๋นไป่พูดด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ
ปู้ฟางหันไปมองนางด้วยสายตางุนงง เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงต้องประหลาดใจถึงเพียงนี้ การทำอาหารโอสถทิพย์หนึ่งชาม… มันประหลาดขนาดนั้นเชียวหรือ
แน่นอนว่าการทำอาหารโอสถทิพย์นั้นไม่ใช่เรื่องประหลาด แต่ที่อู๋อวิ๋นไป่ตกใจเป็นเพราะปู้ฟางสามารถทำอาหารโอสถทิพย์ได้แม้ในยามที่ระดับพลังปราณในร่างกายลดลงจนแทบไม่เหลือต่างหาก
นอกจากนี้สภาพห้องครัวและอุปกรณ์ที่มียังแย่มากอีกด้วย เตาทำอาหารนั้น… ตัวนางเองไม่เคยเห็นเตาที่สภาพย่ำแย่เท่านี้มาก่อน แค่จะใช้เตานี้ทำอาหารปกตินางยังแอบสงสัยว่าจะพังลงมาคามือหรือเปล่า คงไม่ต้องพูดถึงการใช้เตานี้ทำอาหารโอสถทิพย์ที่ยากกว่าเป็นไหนๆ
ปู้ฟางถือชามโจ๊กไปให้ชายที่นอนอยู่บนเตียง หยูฟู่และมารดาของนางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง ส่วนดวงตาของผู้อาวุโสสูงสุดก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ
อาหารโอสถทิพย์ของปู้ฟางเป็นความหวังเดียวที่ยังเหลืออยู่ของพวกเขา
ชายหนุ่มมองมนุษย์อสรพิษเพศเดียวกันจากนั้นก็ทำสีหน้าเหม่อไปสักพัก เขาหันไปหามารดาของหยูฟู่ “ป้อนเขาสิ”
อย่างไรเสียชายที่ไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้นี้ก็เป็นสามีของนาง นอกจากนี้ปู้ฟางเองก็ยังไม่มีนิสัยชอบป้อนอาหารเพศเดียวกันอีกด้วย…
มารดาของหยูฟู่รับโจ๊กมาจากมือปู้ฟาง นี่เป็นความหวังสุดท้ายของนางแล้ว
นางตักโจ๊กขึ้นมาเต็มช้อนแกงเก่าๆ งูตัวเล็กที่สร้างมาจากพลังชีวิตเลื้อยวนรอบด้ามช้อนเหมือนเถาวัลย์ที่พันเกี่ยวกิ่งไม้
นางค่อยๆ เป่าโจ๊กในช้อนด้วยความระมัดระวัง เพื่อทำให้โจ๊กที่ร้อนจัดเย็นลงเล็กน้อย แม้ความร้อนระดับนี้จะทำอะไรร่างกายของมนุษย์อสรพิษไม่ได้ก็ตาม
หลังจากที่ป้อนสามีของตนเรียบร้อย โจ๊กก็ไหลเข้าไปในท้องของอีกฝ่ายแล้วเปลี่ยนสภาพเป็นงูตัวเล็ก พลังงานจากงูนั้นกระจายไปทั่วร่างของชายผู้ไม่ได้สติ เข้าเยียวยาทุกส่วนในร่างกายของเขาทันที
พลังปราณเที่ยงแท้จำนวนมหาศาลในเนื้อของวัวมังกรพเนจร บวกกับพลังชีวิตจากมงกุฎเลือดของงูเหลือมทมิฬ ทำให้ร่างของมนุษย์อสรพิษชายบนเตียงที่เคยเย็นเฉียบ ร้อนขึ้นทันทีเหมือนโดนโยนเข้าไปในกองไฟ
ดวงตาของมารดาหยูฟู่เบิกกว้างขึ้น มือที่ถือชามโจ๊กอยู่เริ่มสั่นเทา นางพยายามสะกดความตื่นเต้นในจิตใจ แล้วตั้งหน้าตั้งตาป้อนโจ๊กให้สามีต่อไปทีละช้อน
ปู้ฟางมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มน้อยๆ จนแทบจะมองไม่เห็น
ได้ผลจริงรึนี่! อู๋อวิ๋นไป่ประหลาดใจเป็นที่สุด ในสภาพที่แสนทุรกันดารเช่นนี้ หมอนี่ยังสามารถทำอาหารโอสถทิพย์ออกมาได้ ทักษะการทำอาหารของชายตรงหน้านางนั้นยอดเยี่ยมระดับไหนกัน ไม่แน่ว่าฝีมือของพ่อครัวที่ตำหนักเมฆาขาวอาจจะยังด้อยกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ
ผู้อาวุโสสูงสุดถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ส่วนดวงตาของหยูฟู่นั้นเต็มไปด้วยความสุข
หลังจากที่กินโจ๊กหมดครึ่งชาม มารดาของหญิงสาวก็รู้สึกว่าร่างของสามีตนสั่นเล็กน้อย อาการสั่นนั้นทำให้หัวใจของนางไหวตอบรับเช่นกัน ในที่สุดสามีของนางก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเสียที!
ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จับจ้อง ดวงตาของหยูเฟิ่งก็ค่อยๆ เปิดขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความงงงวย
บรรยากาศของครอบครัวมนุษย์อสรพิษพลันแปรเปลี่ยนจากความเศร้าเป็นความสุข ปู้ฟางเองก็อดรู้สึกดีใจกับพวกเขานิดๆ ไม่ได้เช่นกัน
แต่ชายหนุ่มดีใจมากกว่าที่ภารกิจในการมาเยือนหนองน้ำปราณมายาของตนสำเร็จลุล่วงด้วยดี เขาได้วัตถุดิบชั้นเลิศอย่างฝักบัวและเม็ดบัวของสมุนไพรระดับเจ็ดดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งมาครอบครองในที่สุด
“ภารกิจการเก็บเกี่ยวสมุนไพรพลังปราณสำเร็จ ต่อไประบบจะเริ่มเคลื่อนย้ายกลับ กำลังเตรียมวงแหวนปราณเคลื่อนย้าย…”
ขณะที่ปู้ฟางกำลังยืนมองภาพอันแสนชื่นมื่นภายในครอบครัวมนุษย์อสรพิษ เสียงขรึมของระบบก็ดังขึ้นในหัวเขา
ชายหนุ่มชะงักไปชั่วครู่ เขาเกือบลืมไปเสียสนิทว่าตนเองต้องเดินทางกลับบ้าน
“ระบบเตรียมการเคลื่อนย้ายกลับสำเร็จแล้ว เริ่มการเคลื่อนย้ายใน 3 2 1…”
ขณะที่ระบบกำลังนับถอยหลังอยู่นั้น จุดลำแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นบนศีรษะของปู้ฟาง มันเริ่มวาดเส้นแสงในอากาศ ไม่นานนักวงแหวนปราณก็ปรากฏให้เห็น
อู๋อวิ๋นไป่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นรอบตัวปู้ฟาง วงแหวนปราณที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขาทำให้นางต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ…
“คราวนี้เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย วงแหวนปราณนี่… มันซับซ้อนไม่น้อยเลย!” อู๋อวิ๋นไป่คิด นางไม่เคยเห็นวงแหวนปราณตรงหน้ามาก่อน
ครอบครัวมนุษย์อสรพิษเองก็เห็นปรากฏการณ์นี้เช่นกัน หยูฟู่เปิดปากถามทันที “ผู้มีพระคุณ เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ ท่าน… จะไปแล้วหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD