ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 233

“เจ้าหนูหนี่ เอาเลย กินอาหารจานนั้นเสียสิ เจ้าโม้ทุกวันว่าตัวเองจะบรรลุขั้นเทพแห่งสงครามให้ได้ แต่ก็ไม่เห็นจะทำได้สักที” ตาแก่ขี้เมาหันไปพูดกับหนี่หยันพร้อมซดสุราในน้ำเต้าไปด้วย

หนี่หยันชะงักไป นางไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าตาแก่ขี้เมาจะซื้ออาหารจานนี้ให้นาง ปู้ฟางที่ยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเช่นกัน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“เจ้าจะกินหรือไม่กิน ถ้าไม่กินข้ากินเองนะ” ตาแก่ขี้เมาพูดพร้อมหัวเราะร่า หากผลตื่นรู้ทางห้าสายไม่ได้ถูกนำมาใช้ทำอาหารไปแล้ว เขาอาจไม่มอบมันให้หนี่หยันก็เป็นได้ เนื่องจากต้องการนำมาใช้หมักสุราของตนเอง

แต่ในเมื่อตอนนี้ผลตื่นรู้ทางห้าสายถูกปู้ฟางนำมาทำเป็นอาหารไปเรียบร้อยแล้ว เขาจึงนำไปใช้หมักสุราไม่ได้อีก ดังนั้นการที่ชายชราอุตส่าห์ลงทุนซื้ออาหารจานที่สามารถทำให้บรรลุขั้นปราณได้ แน่นอนว่าก็ต้องเพื่อหนี่หยันอยู่แล้ว

หนี่หยันรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอันมาก แม้นางกับตาแก่ขี้เมาจะทะเลาะกันทุกวัน และบางครั้งนางก็ขโมยลมหายใจมังกรของเขามาดื่ม แต่ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

หนี่หยันไม่คิดพูดพร่ำทำเพลงไร้สาระแต่หันไปกล่าวกับปูฟ่างทันที “เถ้าแก่ปู โปรดนำสุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งมาให้เขาหนึ่งจอกด้วย”

แม้สุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งจะไม่แพงเท่าอาหารจานนี้ แต่สำหรับชายชราตรงหน้า การตอบแทนด้วยสุรานั้นถือเป็นวิธีแสดงคำขอบคุณที่ดีที่สุดแล้ว

สุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งเช่นนั้นรึ ตาแก่ขี้เมาอึ้งไปทันที

ปู้ฟางมองหนี่หยันแล้วพยักหน้า จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพลางเดินเข้าครัวไป

ปู้ฟางเดินออกจากครัวมาพร้อมเหยือกสีฟ้าอ่อนที่มีสุราบรรจุอยู่ภายใน กลิ่นหอมของสุราไหลเข้าท่วมบริเวณ ทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกมึนเมาขึ้นมาเล็กน้อย

“กลิ่น…กลิ่นสุรานี้มัน!” ตาแก่ขี้เมาจ้องเหยือกตาเขม็ง หัวใจรู้สึกตื่นเต้นไปกับความเป็นไปได้ที่จะได้ลิ้มรสสุราชั้นเลิศ

“เจ้าหนู เดี๋ยวนี้หัดโป้ปดมดเท็จกับข้ารึ! เจ้าไม่เห็นเคยบอกข้าเลยว่ามีสุราชั้นเลิศขนาดนี้อยู่ด้วย!” ตาแก่ขี้เมานั้นมีนิสัยสมชื่อเป็นที่สุด นั่นคือหมกมุ่นกับทุกสิ่งที่เป็นสุราเสียจนเรียกได้ว่าคลั่งเลยทีเดียว สำหรับเขาสุราชั้นเลิศหนึ่งจอกนั้นเลิศล้ำยิ่งกว่าสาวงามเสียอีก

หนี่หยันยิ้มแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก สุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งนั้นเป็นสุราชนิดใหม่ที่เพิ่งวางขาย แม้ก่อนหน้านี้นางจะไม่ได้บอก แต่บอกตอนนี้ก็ไม่จัดว่าสายไปนัก

ตาแก่ขี้เมารับจอกที่ปู้ฟางยื่นให้พลางหลับตาลง ก่อนไปหลบมุมเพื่อลิ้มรสสุรา

ส่วนหนี่หยันก็จ้องไปที่ประตูมังกรทะยานไม่วางตา

ครีบปลาในจานแตะลงบนจานกระเบื้องแผ่วเบาราวกับมีชีวิต ส่วนม่านหมอกที่โอบล้อมจานอยู่ก็ทำให้อาหารจานนี้ดูลึกลับเป็นอย่างมาก

นางหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วนั่งลงตรงข้ามปู้ฟาง เมื่ออยู่ท่ามกลางม่านหมอกใบหน้าสวยงามชวนหลงใหลก็ดูเหมือนนางฟ้าที่มาจากสวรรค์ไม่มีผิด

ปู้ฟางมองใบหน้าของหนี่หยันผ่านม่านหมอกเหล่านั้นแล้วก็ต้องตะลึงกับความงามของนาง ช่างเป็นสตรีที่งดงามเกินบรรยายจริงๆ

กลิ่นของประตูมังกรทะยานไม่ได้เข้มมากเมื่อเทียบกับอาหารจานอื่นที่ปู้ฟางเคยทำ อาหารจานนี้จัดว่ากลิ่นบางเบา แต่ราคาของมันกลับแพงยิ่งกว่าจานใดๆ

ลำพังแค่วัตถุดิบก็เหนือชั้นแซงหน้าอาหารจานอื่นไปไกลแล้ว

นางเอาตะเกียบจิ้มหนังปลาเบาๆ แล้วฉีกหนังปลาออก เผยให้เห็นเนื้อปลาสีขาวที่อยู่ภายใน ไอน้ำโชยออกจากเนื้อปลาขาวอ่อนนุ่ม ทำให้เนื้อนั้นดูเหมือนอัญมณีสีสว่างสดใสไม่มีผิด

เนื้อปลาร้อนกรุ่นส่งกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัวของปลาสดใหม่ หลังจากที่ปู้ฟางใช้ทักษะพิเศษของตัวเอง ความคาวของปลาก็หายไปจนหมดสิ้น ตอนนี้เนื้อปลาในจานหลงเหลืออยู่เพียงกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนน้ำนมเท่านั้น

หนี่หยันคีบเนื้อปลาขึ้นมา เนื้อชุ่มฉ่ำสั่นเล็กน้อยขณะหลุดออกมาจากตัวปลา ไอน้ำรูปเมฆลอยขึ้นมาโอบล้อมเนื้อปลาชิ้นนั้นเอาไว้ ดูสวยงามเหมือนภาพวาดของจิตรกรไม่มีผิด

ภาพนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่รายรอบละสายตาไปไม่ได้ หลายคนท้องร้องดังลั่นเพราะรู้สึกอยากกินเนื้อปลาชิ้นนี้

ใบหน้าขาวผ่องของหนี่หยันเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อเมื่อเจอเข้ากับความร้อนจากเนื้อปลา ทำให้นางดูงดงามมากขึ้นไปอีก หญิงสาวเผยอริมฝีปากสีแดงเผยให้เห็นฟันสวยขาวสะอาด ช่างเป็นภาพที่ละสายตาไปไม่ได้จริงๆ

ทันทีที่เนื้อปลาเข้าปาก นางก็รู้สึกเต็มตื้นกับรสชาติของมัน เนื้อปลานั้นอ่อนนุ่มเสียจนละลายในปาก พอกลืนลงไปนางก็สัมผัสได้ถึงความอุ่นของเนื้อในท้อง

รสชาติของเนื้อปลายังคงหลงเหลืออยู่ในปาก ลมหายใจที่สูดเข้าไปก็เต็มไปด้วยกลิ่นปลาหอมหวน

“อืม…อืม…” หนี่หยันส่งเสียงร้องแผ่วเบาพลางดื่มด่ำรสชาติอร่อยล้ำของปลา นางแลบลิ้นเล็กน่ารักออกมาเลียริมฝีปากสีแดงเรื่อเบาๆ เพื่อลิ้มรสชาติอร่อยของเนื้อปลาชุ่มฉ่ำที่ยังเหลืออยู่บนริมฝีปาก ช่างเป็น…ภาพที่สวยงามเกินบรรยายอะไรเช่นนี้

บรรดาผู้คนรายรอบต่างจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความประทับใจ บอกไม่ถูกเลยว่าตนเองสนใจอาหารน่ากินหรือสาวงามหยดย้อยมากกว่ากันกันแน่

ปู้ฟางเองก็ต้องเอามือขึ้นมาหยิกจมูกตัวเอง แม่นางผู้นี้…ช่วยทรงเสน่ห์ให้น้อยลงหน่อยจะได้หรือไม่

“อร่อยมาก!” หนี่หยันดึงสติตนเองกลับมาได้แล้วอุทานออกมาด้วยความตกใจ! นางคีบปลาอีกชิ้นเข้าปาก สีหน้าดูดื่มด่ำกับรสชาติแสนอร่อยของอาหารเป็นอันมาก

รสชาติของปลานึ่งนั้นมาจากรสชาติที่เลิศล้ำของวัตถุดิบ มันไม่ได้มีรสที่จับความสนใจได้อยู่หมัดเหมือนปลาต้มรสเผ็ด หรือมีกลิ่นสุราแรงเหมือนปลาดองเหล้า แต่เป็นรสหวานมันจากไขมันในปลา

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ปู้ฟางเลือกใช้ปลาตัวอ้วนไขมันเยอะในการประกอบอาหาร แม้ระดับของปลาที่มาจากหนองน้ำปราณมายาตัวนี้จะไม่สูง แต่หากดูในแง่ของคุณภาพแล้วจัดว่ายอดเยี่ยมพอตัวเลยทีเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD