คำประกาศสุดกล้าบ้าบิ่นของชายชราขี้เมาทำให้จ่านคงและเปี้ยนฉางกงถึงกับไปต่อไม่ถูก ก่อนหน้านี้ชายผู้นี้เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าตนเองร่ำรวยเงินทองถึงเพียงใดตอนที่พวกเขาทั้งสามแย่งชิงผลตื่นรู้กัน ทั้งสองจึงเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับเริ่มลังเลขึ้นมา เนื่องจากไม่แน่ใจว่าควรประมูลต่อไปหรือยอมแพ้แค่นี้ ไม่มีใครรู้ว่าผลตื่นรู้ทางห้าสายที่ถูกนำมาทำเป็นอาหารจะให้ผลลัพธ์เดียวกับผลไม้หรือไม่ แม้ตัวปู้ฟางจะยืนยันหลายต่อหลายครั้งว่าอาหารจานนี้จะทำให้ขั้นนักพรตยุทธการบรรลุขั้นปราณไปเป็นขั้นเทพแห่งสงครามก็ตามที
คนทั้งคู่มีปราณขั้นเทพแห่งสงคราม พวกเขารู้ดีว่าการบรรลุปราณขั้นนี้ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้างเนื่องจากเคยผ่านมาก่อน และรู้ดีว่ามันยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด การประกาศว่าอาหารจานเดียวสามารถทำให้บรรลุขั้นปราณได้นั้น ร้อยทั้งร้อยย่อมฟังดูเหมือนเรื่องเพ้อฝันหลอกเด็ก
หมื่นผลึกนั้นอาจฟังดูเยอะสำหรับขั้นนักพรตยุทธการ แต่ก็ไม่ได้มากมายเกินไปสำหรับขั้นเทพแห่งสงคราม เพียงแต่ไม่มีใครเชื่อว่าอาหารจานเดียวจะทำให้เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ได้ถึงเพียงนั้นต่างหาก
เมื่อผ่าผลตื่นรู้ออกก็แปลว่าคุณสมบัติที่อัดแน่นอยู่ภายในจะต้องสลายหายไปแทบทั้งหมด แล้วประสิทธิภาพของมันจะยังคงอยู่ได้อย่างไรกัน
“จะสู้ราคาต่อหรือไม่ หากไม่…อาหารจานนี้ก็เป็นของข้าแล้ว” ตาแก่ขี้เมาจับน้ำเต้าที่วางอยู่บนโต๊ะ เขามองไปยังจ่านคงและเปี้ยนฉางกง รู้ดีว่ามีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่สามารถสู้ราคาได้
เซียวเหมิงรู้สึกสองจิตสองใจ เขาอยากซื้ออาหารจานนี้มากเนื่องจากรู้ดีว่าอาหารของเถ้าแก่ปู้นั้นได้ผลชะงัดตามคำโฆษณาจริง ทว่า…ไม่ใช่ว่าเขามีเงินไม่พอ แต่เขาไม่กล้าจ่ายเงินมากถึงเพียงนั้นออกไปต่างหาก เนื่องจากเขานั้นต้องดูแลตระกูลเซียวทั้งหมดไม่ใช่แค่ตัวเอง และยังต้องดูแลค่าใช้จ่ายในการบรรลุปราณของบรรดาทหารยามที่ดูแลความเรียบร้อยให้ตระกูลเซียวอีกหลายร้อยชีวิต ความเป็นอยู่ของคนเหล่านี้อยู่บนบ่าของแม่ทัพใหญ่แห่งนครหลวง
ปู้ฟางไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่าคนพวกนี้จะสู้ราคากันสูงเท่าใด เนื่องจากระบบจะนำผลึกเพียง 5,550 ผลึกไปรวมกับรายรับของร้านเท่านั้น โดยไม่สนว่าอาหารจานนี้จะทำเงินได้จริงเท่าไร
‘ผลตื่นรู้ทางห้าสายนั้นเป็นผลไม้พลังปราณระดับแปด จึงเป็นเรื่องปกติที่ราคาของอาหารซึ่งทำมาจากผลไม้ชนิดนี้จะสูงกว่าห้าพันผลึก’ ชายหนุ่มคิด สุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งที่เขาใช้สมุนไพรพลังปราณระดับเจ็ดสามชนิดปรุงขึ้นมานั้น เมื่อประกอบกับกระบวนการทำที่แสนซับซ้อนซ่อนเงื่อนแล้ว ยังคิดออกมาเป็นเงินเพียงห้าร้อยผลึกต่อจอกเท่านั้น
การตั้งราคาของระบบนั้นมักไม่เกินมูลค่าของวัตถุดิบที่ใช้ทำ นั่นเป็นเรื่องที่ปู้ฟางรู้เป็นอย่างดี และด้วยความที่สูตรอาหารที่ระบบมอบให้มักใช้วัตถุดิบมูลค่าสูงในการทำ เขาจึงจำเป็นต้องขายในราคาสูงตามไปด้วย
ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ ค่อยๆ บังคับพลังปราณในแก่นพลังให้กระจายไปทั่วร่างเพื่อฟื้นคืนพลัง เขามองไปที่ฝูงชน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยากต่อราคาเพิ่มอีกก็หรี่ตาลง
“เอาละ…ในเมื่อไม่มีใครจะเสนอราคาต่อ ประตูมังกรทะยานก็จะตกเป็นของคนผู้นี้” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ตบมือทั้งสองข้างเข้าหากันแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย ขณะประกาศว่าใครเป็นผู้ได้อาหารโอสถทิพย์จานนี้ไปครอง
ตาแก่ขี้เมาลูบเครายาวของตนแล้วยิ้มยิงฟันออกมา
จ่านคงและคนอื่นๆ ถอนหายใจ รู้สึกเสียดายอยู่ในอก
ที่ทางเข้าร้าน มือหนึ่งจับหมับเข้าที่กรอบประตู กล้ามเนื้อบนมือดูกระตุกประหลาดและกำลังฉีกขาดออกจากกัน เลือดไหลซิบออกมาทุกอณู
พ่อครัวเงาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดที่รุมเร้าร่างกายทำให้ชายชรารู้อยู่เต็มอกว่าตนเหลือเวลาไม่มากแล้ว หากไม่ได้ผลตื่นรู้ทางห้าสายมาครอบครอง ร่างของเขาจะต้องพิการแล้วจากโลกนี้ไปด้วยผลข้างเคียงของน้ำแกงเนื้อพลังชีวิตแน่นอน
เขาตั้งใจที่จะเดิมพันอยู่แล้ว จึงเลือกดื่มน้ำแกงในอึดใจสุดท้าย เพราะมันเป็นไพ่ตายที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ได้ผลตื่นรู้ทางห้าสายมาครอง
แต่เขากลับคาดคะเนผิดไปมากโข ชายสองคนปรี่ออกจากร้านมาซ้อมเขาจนปางตาย ทั้งยังทำลายความหวังที่เหลืออยู่ไปจนหมดสิ้น
ซู่!
ผิวหนังของพ่อครัวเงาเริ่มเหี่ยวแล้วหลุดออกจากร่างราวกับถูกไฟคลอก เลือดสดๆ ไหลตามออกมา ทำให้ร่างทั้งร่างดูน่าสยองพองขนเหมือนปีศาจที่กำลังชดใช้กรรมอยู่ในนรก
ดวงตาของชายชราเหลือเพียงความบ้าคลั่งเท่านั้น เขามองไปยังประตูมังกรทะยานบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยไอร้อนและพลังปราณ รู้สึกได้ถึงผลตื่นรู้ทางห้าสายที่ผสานอยู่ในอาหารจานนั้น…
เขาต้องการอาหารจานนั้นยิ่งนัก นี่คือความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่สำหรับเขาแล้ว
ปัง!
พ่อครัวเงาหวังติงกระโจนใส่ประตูมังกรทะยานอย่างหมดสิ้นซึ่งทุกอย่าง ด้วยความเร็วที่ทำให้เขาดูเหมือนเงาผี
ทุกคนตกใจเกินกว่าจะทำอะไรถูก อีกทั้งสภาพรุ่งริ่งเหมือนสัมภเวสีของพ่อครัวเงายังทำให้พวกเขาสะพรึงมากอีกด้วย ปู้ฟางเองก็มีอาการไม่ต่างกัน
“ตัวบ้าอะไรนี่…” ชายหนุ่มเอ่ย ตกใจกับสารรูปของพ่อครัวเงาเป็นอันมาก ดูอย่างไรก็เหมือนผีที่ทำบาปจนโดนทรมานอยู่ในนรกชัดๆ กลิ่นเหม็นที่โชยออกจากร่างกายของชายชราทำให้ปู้ฟางมุ่นคิ้ว
ตาแก่ขี้เมาหรี่ตามอง ไม่พอใจเป็นอันมากที่มีซากอะไรก็ไม่ทราบได้พุ่งเข้ามาหมายตะครุบอาหารจานที่เขาเพิ่งจ่ายไปหมื่นผลึกเพื่อให้ได้ครอบครอง ชายชราจ้องไปที่พ่อครัวเงาเขม็งพลางส่ายเคราขาวไปมา จากนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
นี่เป็นครั้งแรกที่ตาแก่ขี้เมาออกโรงเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD