ฤดูหนาวค่อยๆ จากไป ทิ้งไว้เพียงสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิที่เข้าโอบล้อมนครหลวงเอาไว้ทั้งเมือง
ฝนแห่งฤดูกาลใหม่ตกลงมาไม่ขาดสาย เหมือนเส้นผมที่พลิ้วไหวอยู่ระหว่างท้องฟ้าและผืนดิน ทำให้ดินที่จำศีลแน่นิ่งอยู่ในช่วงฤดูหนาวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ในตรอกเล็ก มนุษย์อสรพิษพ่อลูกและอาหนีที่โบกสะบัดหางอยู่ กำลังเดินทางไปยังร้านของปู้ฟางท่ามกลางสายฝนอันชุ่มฉ่ำของฤดูใบไม้ผลิ ทันทีที่เข้าไปในร้าน กลิ่นอาหารหอมหวนก็พุ่งเข้าปะทะใบหน้า ทำให้ทั้งสามรู้สึกเมามายไปตามๆ กัน
ร้านของปู้ฟางอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมยั่วยวนใจ อาหารแต่ละจานของเขานั้นเลิศรสมากเสียจนทำให้บรรดาลูกค้าเคลิบเคลิ้มไปตามๆ กัน
ทว่าเป้าหมายของทั้งสามในวันนี้คือการบอกลาปู้ฟาง ก่อนหน้านี้อวี่เฟิงตั้งใจว่าจะทำหน้าที่อารักขาร้านนี้ให้ แต่พอได้ประสบกับความน่ากลัวของร้านเข้าไปเมื่อวาน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคำประกาศของตนก่อนหน้านี้นั้นน่าชวนหัวเพียงใด
ปู้ฟางไม่ต้องการการปกป้องจากเขาแม้แต่น้อย หรืออาจจะพูดให้ถูกได้ว่า สิ่งที่เขามอบให้ได้นั้น เป็นคนละชั้นกับสิ่งที่ชายหนุ่มมีอยู่
ไม่ว่าจะเป็นหุ่นเชิดโลหะแสนลึกลับ หรือสุนัขดำอสูรเวทในตำนานที่ทำเอาทุกคนขวัญหนีดีฝ่อ ก็ไม่มีอะไรที่อวี่เฟิงเทียบชั้นได้แม้แต่น้อย
สรุปคือข้อเสนอของเขาที่จะเป็นผู้อารักขาร้านแห่งนี้ทั้งเลื่อนลอยและเพ้อฝันสิ้นดี
เนื่องจากร้านไม่ต้องการกำลังของเขา ทั้งสามจึงไม่มีความจำเป็นที่จะอยู่ในนครหลวงอีกต่อไป นครหลวงเป็นดินแดนแปลกถิ่นสำหรับพวกเขา และพวกเขาก็อยากกลับบ้านเกิดที่เผ่ามนุษย์อสรพิษเหลือเกินแล้ว
ปู้ฟางเดินออกจากครัวมาเจอทั้งสามยืนอยู่ในร้าน ทั้งบิดา บุตรสาว และอาหนี ต่างมาเพื่อแสดงความขอบคุณปู้ฟาง หากไม่ใช่เพราะเขา อวี่เฟิงคงไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ปู้ฟางก็ทำเพียงโบกมือไปมา แล้วเอ่ยว่าการช่วยชีวิตอวี่เฟิงเป็นสิ่งที่ตัวเขาสัญญากับผู้อาวุโสสูงสุดไว้เท่านั้น คำสัญญาก็คือคำสัญญา เขาไม่ได้คิดมากอะไร
ชายหนุ่มหรี่ตามองมนุษย์อสรพิษทั้งสาม เขาเมินอาหนีหัวทื่อไปทันที เนื่องจากชายหนุ่มมีเพียงกล้ามเนื้อแขนกับหางหนึ่งหาง และสมองสุดทึ่มทื่อเท่านั้น จากนั้นชายหนุ่มก็ปรายตาไปมองคู่พ่อลูก โดยเฉพาะอวี่ฝู
สายตาที่ไล่มองตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าของปู้ฟางทำให้ทั้งสามรู้สึกกระสับกระส่าย อวี่ฝูถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก นางไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าเหตุใดปู้ฟางถึงมองนางเช่นนี้
“เถ้าแก่ปู้ ตัวข้ามีอะไรติดอยู่หรือเจ้าคะ” นางก้มลงมองตัวเองด้วยความงุนงง แต่ทุกอย่างก็ดูปกติดี
ปู้ฟางเบ้ปากจากนั้นก็สบสายตาอวี่ฝูกลับ
“ระบบบอกข้าทีว่าพรสวรรค์การทำอาหารของมนุษย์อสรพิษนางนี้เป็นอย่างไร” ชายหนุ่มเอ่ยถามระบบในใจ
ระบบเงียบอยู่สักพักก่อนเอ่ยตอบ “จากการประเมินของระบบ พรสวรรค์ด้านการทำอาหารของอวี่ฝูจัดว่าผ่านเกณฑ์ นายท่านต้องใช้เวลาหนึ่งวันครึ่งในการสอนให้นางทำข้าวผัดไข่”
หนึ่งวันครึ่ง! ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าแม่นางมนุษย์อสรพิษตนนี้จะมีคุณสมบัติเพียงพอ นางน่าจะสามารถทำหน้าที่เป็นแม่ครัวฝึกหัดของร้านได้
“อะแฮ่ม…อวี่ฝู ข้าสงสัยว่าเจ้าอยากเรียนทำอาหารหรือไม่” ปู้ฟางถาม
ทันทีที่พูดจบ ทั้งสามตนก็งงเป็นไก่ตาแตก เถ้าแก่ปู้พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน
ปู้ฟางไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม ทำเพียงมองทั้งสามด้วยสายตาสงบนิ่งเท่านั้น แต่แน่นอนว่าดวงตาของเขาจ้องไปที่อวี่ฝูเป็นหลัก
อวี่ฝูรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นสีแดง นางรู้สึกกระวนกระวายเมื่อถูกปู้ฟางจ้องจนเหมือนร่างจะทะลุ
“ข้า…เรียนได้หรือเจ้าคะ” ข้างในตัวนางกระสับกระส่ายไปหมด
เมื่อนึกถึงอาหารชั้นเลิศที่ร้านปูฟ่าง ทั้งในแง่ของรสและกลิ่น นางก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากแดงเรื่อเหมือนผลทับทิม
“เอ่อ ได้สิ แต่การจะมาเป็นแม่ครัวฝึกหัดที่ร้านข้า เจ้าจะต้องผ่านการทดสอบก่อน พรุ่งนี้ตอนเที่ยง เจ้าจงนำข้าวผัดไข่ฝีมือตัวเองมาให้ข้าชิม หากผ่านมาตรฐานที่ข้าตั้งไว้ ข้าจะสอนเจ้าทำอาหารและอนุญาตให้เจ้าทำหน้าที่เป็นแม่ครัวฝึกหัดที่ร้านของข้าได้” ชายหนุ่มตอบเสียงขรึม
อวี่ฝูสัมผัสได้ถึงความจริงจังในน้ำเสียงของปู้ฟาง ใบหน้าสวยน่ารักจึงพลันแข็งทื่อไป นางส่ายหางพลางพยักศีรษะอย่างจริงจัง
ดวงตาของอาหนีเบิกกว้าง เกิดอะไรขึ้นกัน อวี่ฝูจะกลายมาเป็นแม่ครัวฝึกหัดที่ร้านแห่งนี้รึ แปลว่าในอนาคต อวี่ฝูจะสามารถทำอาหารที่อร่อยเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ของร้านนี้ได้เช่นนั้นหรือ
แค่คิดอาหนีก็น้ำลายไหลแล้ว
“เถ้าแก่ปู้ แล้วข้าเล่า ข้าขอเรียนทำอาหารจากท่านด้วยได้หรือไม่” อาหนีเอามือทาบอกที่มีแต่มัดกล้ามพลางตะโกนถาม
ปู้ฟางตวัดสายตามองอาหนี เสียงของระบบดังขึ้นในศีรษะของเขาทันที ความสามารถของอาหนีนั้นจัดว่าแย่กว่าโอวหยางเสี่ยวอี้เสียด้วยซ้ำ…หมอนี่ควรทำหน้าที่เป็นคนกินเหมือนเดิมน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว
อวี่เฟิงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจู่ๆ อวี่ฝูจะส้มหล่นเช่นนี้ เขาคิดคำนวณอย่างรวดเร็วในศีรษะ ที่ร้านนี้มีทั้งอสูรเวทในตำนานและหุ่นเชิดลึกลับ แปลว่านางจะปลอดภัยอย่างแน่นอน เมื่อกลับไปถึงเผ่า เขาตั้งใจว่าจะออกชำระแค้นของตนเอง ซึ่งแปลว่าเผ่าของเขาจะต้องตกอยู่ในความโกลาหล การที่อวี่ฝูอยู่ที่นี่แปลว่าตัวนางจะปลอดภัยไร้ห่วง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD