ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 257

น่านน้ำเชี่ยวกรากกั้นขวางเกาะมหายานออกจากผืนทวีป เรือลำใหญ่ล่องผ่านกระแสคลื่นไร้ขอบเขต ก่อให้เกิดสายน้ำสาดกระเซ็นเข้ากระทบสองฝากของตัวเรืออย่างรุนแรง เสียงคลื่นกระทบลำเรือดังสะท้อนต่อเนื่องไม่ขาดหู

เหนือท้องฟ้าเบื้องบน นกอินทรีตัวหนึ่งสยายปีกบินทะยาน เสียงร้องใสของมันสะท้อนก้องไปทั่วนภากาศ

“ราชาอวี่ วันพรุ่งนี้เราก็จะถึงทวีปหลักแล้ว จากนั้นเราจะเดินทางไปพบพวกพ้องที่อยู่บนผืนทวีป พวกเขาเริ่มลงมือตามแผนการกันแล้ว ตอนนี้จักรวรรดิวายุแผ่วกำลังปั่นป่วนวุ่นวายไม่น้อย…” เจ้ารู่เก๋อในชุดสีขาวยืนอยู่ตรงหัวเรือ เส้นผมพัดสะบัดตามลมหนาวที่กระหน่ำใส่หน้าของชายหนุ่มไม่หยุดหย่อน

นัยน์ตาของจีเฉิงอวี่ราวกับมีสายฟ้าฟาดอยู่ภายใน ขณะกำลังมองแนวชายฝั่งทอดตัวยาวที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในครรลองสายตา เขาไม่ได้มีความรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด

สุดท้ายเขาก็ต้องกลับไปที่นั่นเพื่อต่อสู้แย่งชิงในสิ่งที่เป็นของตนเองมาตั้งแต่แรก

จู่ๆ ราชาอวี่ก็หรี่ตา สายตาจับจ้องไปยังจุดจุดหนึ่ง

ดวงตาเมินเฉยของเจ้ารู่เก๋อก็หรี่ลงเล็กน้อยเช่นกัน เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างกายจีเฉิงอวี่ สายตาจับจ้องไปยังจุดเดียวกันกับอีกฝ่าย หมอกหนาในมหาสมุทรเลือนรางลงเมื่อร่างร่างหนึ่งค่อยๆ แจ่มชัดขึ้นในสายตา

เรือลำเล็กล่องผ่านกระแสน้ำกว้างใหญ่ตรงเข้ามายังเรือของพวกเขาช้าๆ

บุคคลที่อยู่บนเรือดูเปล่าเปลี่ยวอย่างไรบอกไม่ถูก

ทั้งจีเฉิงอวี่และเจ้ารู่เก๋อต่างพยายามหรี่ตามองคนตรงหน้าเพื่อระบุตัวตน

ราวกับว่าชายในเรือเล็กเพิ่งสังเกตเห็นเรือขนาดใหญ่ข้างหน้า พลังปราณน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากร่างร่างนั้น ขณะที่เรือเล็กใต้เท้าก็เร่งความเร็วขึ้นมาอย่างปุบปับ คลื่นขนาดมหึมาที่ด้านหลังเป็นตัวส่งกำลังที่ทำให้เรือน้อยเร่งความเร็วได้มากขึ้น

“ขั้นนักพรตยุทธการหรือ” จีเฉิงอวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ถูกแล้ว… เขาน่าจะมาเพราะท่าน ราชาอวี่ หรือจะเป็นหัวหน้าขันทีเหลียนที่ต้องการจับตัวท่านกัน” เจ้ารู่เก๋อ

กล่าว มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

เรือลำน้อยค่อยๆ เร่งความเร็วมากขึ้นท่ามกลางสายตาของคนทั้งคู่ ร่างที่อยู่ในเรือใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เช่นกัน ในที่สุดพวกเขาก็เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าผู้ที่ยืนอยู่ในเรือลำเล็กนั้นเป็นใคร

เหลียนฟู่สวมชุดคลุมปักลายและเครื่องหัวประจำตำแหน่ง ใบหน้าขาวกระจ่าง ผมสีขาวสะบัดไหวไปด้านหลังเพราะลมทะเลรุนแรง“ราชาอวี่… ในที่สุดข้าน้อยก็พบตัวท่านจนได้”

เหลียนฟู่มองจีเฉิงอวี่ที่กำลังยืนอยู่บนเรือขนาดใหญ่ ตอนนั้นเองลำแสงเจิดจ้าก็ระเบิดออกมาจากดวงตาของขันทีชรา

น้ำในแม่น้ำกลืนกินเมืองนครใต้ไปเกือบครึ่งเมือง เสียงดังสนั่นที่ประตูเมืองยังคงสะท้อนก้องไปทั่ว เนื่องจากปลาอสูรมังกรพินาศยังพยายามดิ้นรนแทรกตัวเข้ามาไม่หยุดยั้ง

รอยแตกร้าวจากการถูกกระแทกปรากฏขึ้นบนกำแพงเมืองเรื่อยๆ จนดูราวกับว่ามันจะถล่มลงมาเมื่อใดก็ได้

ผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการสิบคนดูไม่ต่างอะไรกับมดปลวกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปลาอสูรมังกรพินาศ พลังปราณของพวกเขาระเบิดออกจากร่าง ขณะกวัดแกว่งอาวุธพลางพุ่งเข้าใส่ร่างของอสูรเวทตรงหน้า พลังปราณเที่ยงแท้แผ่รังสีออกมาจากอาวุธในมือ ระหว่างที่ทุกคนต่างงัดเอาทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาใช้กับปลาปีศาจ

พลังการต่อสู้ของผู้ฝึกตนเหล่านี้รุนแรงและสร้างความเจ็บปวดให้ปลาอสูรมังกรพินาศที่ติดอยู่ระหว่างบานประตูไม่น้อย แต่ก็ยังไม่อาจสร้างแผลฉกรรจ์ให้อสูรเวทตรงหน้าได้ แถมมันยังดูบ้าคลั่งขึ้นอีกหลังจากถูกรุมโจมตีไม่หยุดมือ

แผงฟันที่เรียงกันแน่นเปิดอ้า ส่งให้กลิ่นคาวปลารุนแรงพวยพุ่งตรงเข้าปะทะใบหน้าของเหล่าผู้ฝึกตนเซียวเคออวิ่นกลั้นใจอดทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในกาย เขาโจมตีเข้าใส่โพรงปากของปลาปีศาจไม่หยุด จนสร้างแผลฉกรรจ์ให้มันได้

ทว่าพลังปราณสีดำสนิทในร่างของเขากลับเข้มข้นขึ้นจนแพร่กระจายออกมาภายนอก ชายวัยกลางคนรู้สึกเหมือนว่าร่างทั้งร่างถูกมดเล็กๆ รุมกัดทึ้ง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นยากจะทานทนได้

ผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการคนอื่นๆ ยังคงโจมตีใส่ปลาปีศาจอย่างสุดความสามารถ พวกเขาต้องป้องกันไม่ให้ปลาอสูรมังกรพินาศตัวนี้เข้าเมืองนครใต้ ณ ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลาคิดหาวิธีรับมือใดๆ เพราะต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับการสกัดอสูรเวทตัวนี้ไว้ ไม่เช่นนั้นมันอาจเข้าไปสร้างหายนะภายในเมืองได้!

“พี่เซียว ท่านยังไหวหรือไม่”

เหล่าผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการที่สนิทสนมกับเซียวเคออวิ่นเป็นอย่างดีจับพฤติกรรมแปลกประหลาดของอีกฝ่ายได้ จึงถามออกไปด้วยความสงสัย

เซียวเคออวิ่นโบกไม้โบกมือแสดงให้เห็นว่าตนสบายดี ตอนนี้เขายังอดทนต่อความเจ็บปวดได้อยู่

ปู้ฟางยืนอยู่บนหลังคาสายตาจับจ้องไปที่การต่อสู้ไกลลิบอยู่เงียบๆ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นเซียวเคออวิ่น แต่ดูท่าว่าสถานการณ์ของอีกฝ่ายนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ณ คฤหาสน์ตระกูลเซียวที่อยู่ไกลออกไป ผู้คนมากมายต่างเร่งรุดออกมาดูการต่อสู้ ทว่าน้ำแม่น้ำที่ไหลเข้าท่วมเมืองทำให้พวกเขาไม่อาจเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้

ปู้ฟางที่ยืนอยู่บนหลังคานั้นเตะตาเป็นอันมาก เพียงแค่ปรายตามองเซียวเยียนอวี่ก็เห็นชายหนุ่มได้ทันที

ฟึ่บ!

เซียวเยียนอวี่กับเซียวอวี่กระโดดขึ้นมายืนข้างๆ ปู้ฟางบนหลังคา พื้นที่บนหลังคาค่อนข้างกว้าง คนสามคนยืนอยู่ด้วยกันไม่ได้ดูคับแคบแต่อย่างใด

“พ่อของเจ้าอาการไม่ค่อยดีเท่าไร” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พลางปรายตามองเซียวอวี่

เซียวอวี่ดูงุนงงไม่น้อย เพราะตอนที่เขามองบิดาต่อสู้กับปลาอสูรมังกรพินาศ เด็กหนุ่มไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ รับรู้ได้เพียงอารมณ์ที่เดือดพล่านของบิดาเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD