สรุปเนื้อหา บทที่ 263 อาหารโอสถทิพย์เสร็จเรียบร้อย – ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet
บท บทที่ 263 อาหารโอสถทิพย์เสร็จเรียบร้อย ของ ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หีบหยกกล่องแล้วกล่องเล่าถูกส่งเข้ามาในห้องครัวจนเต็มแน่นโต๊ะไปหมด
ถึงจะอย่างไรตระกูลเซียวก็เป็นหนึ่งในตระกูลผู้มีอิทธิพลทางการเงินในเมืองนครใต้ ดังนั้นจึงร่ำรวยกว่าตระกูลทั่วไปอยู่มากโข อิทธิพลที่พวกเขามีมากมายเกินกว่าคนธรรมดาจะจินตนาการได้
ปู้ฟางยืนมองสมุนไพรพลังปราณตรงหน้าด้วยแววตาสงสัย เขาพบว่าสมุนไพรพลังปราณเหล่านี้ส่วนใหญ่ทั้งหายากและมีราคาสูง มีชนิดหนึ่งเป็นถึงสมุนไพรพลังปราณระดับหก สำหรับตระกูลร่ำรวยที่คนมีฝีมือที่สุดเป็นเพียงระดับหกขั้นจักรพรรดิยุทธการ การที่สามารถครอบครองสมุนไพรพลังปราณระดับนี้ได้นับว่าน่าประทับใจไม่ใช่เล่น
ปู้ฟางเลือกสมุนไพรพลังปราณที่มีฤทธิ์แรงที่สุดมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงสั่งให้ยกที่เหลือออกไป
หลังจากกินขนมปังหอยนางรมเข้าไปสองชิ้น ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าร่างกายได้พลังปราณเที่ยงแท้กลับคืนมาในระดับที่น่าพอใจ กระแสพลังปราณเที่ยงแท้ในกายกลับมาโคจรได้ตามปกติอีกครั้ง
ปู้ฟางล้างเขียง ควันจางๆ ลอยออกมาล้อมรอบมือของเขา จากนั้นมีดทำครัวกระดูกมังกรทองสีดำสนิทไร้ซึ่งการตกแต่งใดๆ ก็ปรากฏขึ้น ปู้ฟางควงมีดเล่มนั้นอยู่ในมือ
จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มหั่นสมุนไพรพลังปราณที่เลือกเฟ้นมา ก่อนวางลงบนจานกระเบื้อง ด้วยพลังของมีดทำครัวกระดูกมังกรทอง ปู้ฟางจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการพลังปราณของสมุนไพรเหล่านี้ ในเมื่อเขาไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ การหั่นสมุนไพรจึงนับว่าเป็นงานที่แสนเบามือ
หลังจากจัดการสมุนไพรพลังปราณตรงหน้าเสร็จ ปู้ฟางก็หยิบสมุนไพรพลังปราณจำนวนหนึ่งออกมาจากคลังเก็บของของระบบเพื่อใช้ปรับสมดุลกับสมุนไพรพลังปราณชุดแรก
เขายังหยิบเนื้อปลาสีขาวราวหิมะที่มีขนาดเท่าก้อนหินมาวางบนเขียงด้วย กลิ่นหอมนมจางๆ ลอยออกมาจากเนื้อปลาชิ้นนั้น
เมื่อเซียวเยียนอวี่เห็นชิ้นปลา ตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ปลาชิ้นนี้มาจากร่างของอสูรเวทระดับเจ็ด ทั้งมูลค่าและคุณภาพนั้นสูงส่งกว่าวัตถุดิบทั่วไปเป็นอันมาก
เซียวเยียนอวี่ผู้ฉลาดเฉลียวเข้าใจแผนของปู้ฟางทันทีที่เห็นเนื้อปลา หากตัดสินด้วยสายตาแล้ว เนื้อชิ้นนี้ต้องเป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุดในตัวของมัจฉาปีศาจ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังไม่ถูกพลังปราณสีดำปนเปื้อนเหมือนส่วนอื่นๆ ซึ่งแปลว่าเนื้อชิ้นนี้มีสื่อกลางที่สามารถรับมือกับสสารชั่วร้ายได้
ช่างเป็นวัตถุดิบที่เหมาะกับการรักษาอาการป่วยของเซียวเคออวิ่นเสียจริง
และนี่ก็เป็นเป้าหมายของปู้ฟางจริงๆ เขาล้างเนื้อปลาและมือทั้งสองข้างจนสะอาด จากนั้นก็บีบเนื้อปลาชิ้นใหญ่เสียแน่น ด้านนอกของเนื้อนุ่มมือ ส่วนภายในออกจะแน่นกว่าสักหน่อย
ปู้ฟางวัดขนาดชิ้นเนื้ออยู่ในใจ ก่อนจะควงมีดแล้วหั่นเนื้อออกมาชิ้นใหญ่
เขาเก็บเนื้อปลาส่วนที่เหลือเข้าคลังเก็บของของระบบไป ชิ้นที่เหลืออยู่บนเขียงค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว
เมื่อแล่เป็นชิ้นบางๆ เนื้อปลาสีขาวราวหิมะก็เริ่มสะท้อนแสงออกมาเป็นลายเส้นชัดเจน เนื้อปลาแต่ละชิ้นส่องประกายสีแดงระเรื่อน่าดูชมเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากแล่ปลาเป็นชิ้นแล้ว ปู้ฟางก็บั้งด้านข้างชิ้นปลาสองสามครั้ง ก่อนจะบั้งแนวนอนหนึ่งครั้ง
หลังจากเตรียมปลาเสร็จ ปู้ฟางก็หันไปมองเซียวเยียนอวี่ ก่อนเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ติดไฟได้”
เซียวเยียนอวี่พยักหน้าแล้วเริ่มจุดไฟ นางเองก็ทำอาหารอยู่บ่อยครั้ง การจุดไฟจึงไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างใด สำหรับคุณหนูของตระกูลใหญ่ คุณสมบัตินี้ช่างหายากและน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
ไม่นานนักไฟก็พร้อม ปู้ฟางเทน้ำที่นำมาจากทะเลสาบเทือกเขาปราณสวรรค์ลงหม้อ จากนั้นก็ใส่เนื้อปลาที่แล่แล้วลงไป
ชายหนุ่มเทสมุนไพรพลังปราณที่หั่นเรียบร้อยลงในหม้อ ต้มรวมกับวัตถุดิบอื่นๆ ที่อยู่ภายใน
หลังจากปิดฝาหม้อเรียบร้อย ปู้ฟางก็เริ่มโคจรพลังปราณเที่ยงแท้ในแก่นพลังปราณ เขาส่งพลังปราณเที่ยงแท้ไปครอบฝาหม้อไว้ พลางพยายามสัมผัสความผันผวนของพลังปราณจากบรรดาวัตถุดิบและสมุนไพรพลังปราณในหม้อ
“โหมไฟให้แรงเข้าไว้ อย่าให้มอด” ปู้ฟางชำเลืองมองเซียวเยียนอวี่ผู้ที่กำลังง่วนอยู่กับการโบกพัดไฟ
ใบหน้าสวยสะคราญของหญิงสาวระเรื่อขึ้นมาเพราะความร้อนจากเปลวไฟ สีชมพูบนแก้มของนางดูงดงามราวกับเป็นดอกไม้แรกแย้มที่ปล่อยความเย้ายวนน่าหลงใหลไปทั่ว
เซียวเยียนอวี่ปรายตามองปู้ฟางครั้งหนึ่งก่อนจะกลับไปพัดไฟต่อ เปลวไฟลุกโชติช่วงส่งให้น้ำในหม้อเริ่มเดือด ปู้ฟางไม่ได้เร่งรีบอะไร ฝ่ามือของเขายังคงกดอยู่บนฝาหม้อ ระลอกพลังปราณเที่ยงแท้ไหลวนอยู่ด้านบนราวกับเป็นอสรพิษตัวจ้อย โคจรไปพร้อมๆ พลังปราณที่ผันผวนอยู่ด้านล่าง
สมุนไพรพลังปราณหลายชนิดในหม้อเริ่มละลายจากการปล่อยพลังปราณเที่ยงแท้ของปู้ฟาง พวกมันละลายหายไปราวกับเป็นน้ำแข็งที่ค่อยๆ สลายกลายเป็นน้ำสีใส สรรพคุณของบรรดาสมุนไพรต่างแทรกซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อปลา
ที่สำคัญที่สุดก็คือ… นี่มันใช่อาหารโอสถทิพย์หรือ ปลาธารมังกรหมักน้ำส้มสายชูจะถูกเปลี่ยนให้เป็นโอสถทิพย์ได้จริงหรือ
ขณะที่เซียวเยียนอวี่กำลังตกตะลึงอยู่นั้น ปู้ฟางก็เริ่มทำน้ำราด น้ำซอสเหนียวข้นสะท้อนแสงเห็นเป็นสีแดงอมน้ำตาลส่งกลิ่นหอมเข้มข้นที่เจือด้วยรสหวานอมเปรี้ยว พอเติมมงกุฎเลือดลงไป กลิ่นซอสที่ได้สูดดมก็ส่งให้พลังปราณในร่างใไหลบ่าไปทั่วราวกับพญามังกรสง่างามที่พุ่งตัวไปบนท้องฟ้า
ชายหนุ่มตักน้ำราดขึ้นมาจำนวนหนึ่งก่อนจะเทลงไป น้ำราดเข้มข้นแปรเปลี่ยนเป็นกระแสธารสีน้ำตาล ขณะเดียวกันกระแสพลังปราณของชายหนุ่มยังคงไหลเวียนอยู่ในแก่นพลังไม่หยุด พลังปราณเที่ยงแท้ในกายเขาที่เพิ่มขึ้นมาเกือบครึ่งก่อนหน้านี้หมดลงไปอีกครั้งแล้ว
ปู้ฟางหมุนช้อน หรี่ตาลงพลางเม้มริมฝีปากแน่น จากนั้นก็ตักน้ำราดออกมาจากหม้อจนหมด
เมื่อน้ำซอสข้นเหนียวถูกราดลงไปบนเนื้อปลาขาวนวล เนื้อนั้นก็ดูราวกับถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ มันสูดเอาพลังปราณเข้มข้นในน้ำราดเข้าไปเฮือกใหญ่ ไอน้ำร้อนระอุพุ่งขึ้นไปในอากาศก่อนกระจายไปทุกสารทิศ ส่งกลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวไปทั่ว หน้าตาของอาหารจานนี้ไม่เลวเลย
โฮก
เสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมาเบาๆ ราวกับเป็นเสียงร้องครางของอสูรเวท หลังจากนั้นเงาของอสูรเวทก็จางหายไปเบื้องบนชาม
กระแสลมแรงพวยพุ่งออกมา พัดผมที่มัดไว้ลวกๆ ของปู้ฟางจนปลิวกระจาย
เซียวเยียนอวี่ลุกขึ้นจ้องอาหารตรงหน้าอย่างตื่นเต้น มันทั้งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังปราณและกลิ่นหอมเข้มข้น
อาหารโอสถทิพย์… เสร็จเรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรือ!
ปู้ฟางยกมุมปากขึ้น เขาหยิบมงกุฎเลือดที่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมขึ้นมาอีกก้อน ก่อนจะทุบมันจนแหลกเป็นผงแล้วโรยลงไปบนจาน
“อาหารโอสถทิพย์ มัจฉาปีศาจพิษมงกุฎเลือดเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD