อ่านสรุป บทที่ 286 อาหารหม้อใหญ่ จาก ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet
บทที่ บทที่ 286 อาหารหม้อใหญ่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เสียงตะหลิวเหล็กกระทบกระทะดังเสียดหูไปทั่วค่ายของโรงครัว ไม่นานนักค่ายก็กลับมาวุ่นวายด้วยความเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ผู้คนในกระโจมต่างเดินออกมาพร้อมเอามือขยี้ตาด้วยความง่วงงุน
ปู้ฟางก็ออกมาจากกระโจมของตนเองเช่นกัน เขาค่อยๆ เดินไปหาฝูงชนที่รวมตัวกันอยู่ กองทหารมักถูกเรียกรวมตัวกันตามปกติทุกวัน แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ปู้ฟางได้มาอยู่ในกองทัพแต่เขาก็รู้ความจริงข้อนี้ดี สิ่งที่แตกต่างคือพวกเขาจะเคาะหม้อไหกระทะเพื่อเรียกหน่วยโรงครัว
หลงไฉใส่หมวกเป๋ไปด้านข้าง ใบหน้าของเขาดูง่วงมาก กองไฟที่จุดเอาไว้กลางค่ายส่งเสียงดังเปรียะสะท้อนไปทั่วบริเวณ
หม้อขนาดใหญ่บนระแนงไม้ที่ตั้งอยู่เหนือกองไฟส่งเสียงเดือดปุดออกมา พร้อมด้วยไอน้ำหนาเจือพลังปราณและกลิ่นหอมอ่อนๆ
ตอนนั้นเองเว่ยต้าฝูก็เดินถือกระทะออกมาพร้อมเคาะเสียงดังลั่นไม่หยุด ใบหน้าของเขาดูโกรธเคืองเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางเอื่ออเฉื่อยของกลุ่มคนตรงหน้า ชายวัยกลางคนตะโกนสุดเสียง “เร็วเข้า! เร็วๆ! อย่าคิดว่าตนเองเป็นพ่อครัวประจำกองทัพแล้วจะไม่ใช่ทหารจริงๆ ตั้งสติแล้วเข้าแถวเดี๋ยวนี้”
ทันทีที่ได้ยินคำสั่ง บรรดาพ่อครัวก็สะดุ้งตื่นเต็มตาแล้วเรียงแถวตรง
ปู้ฟางเดินตามคนอื่นไปยืนอยู่ในแถวด้วยอาการสงบนิ่ง
เว่ยต้าฝูที่กำลังหรี่ตามองอยู่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เนื่องจากเขากำลังคิดหาเรื่องดุด่าเด็กใหม่ผู้ยิ่งผยอง ชายวัยกลางคนไม่คาดคิดว่าปู้ฟางจะตื่นเช้าขนาดนี้แล้วมาตั้งแถวได้ทัน เพราะปกติแล้วพวกหน้าใหม่มักนอนหลับอุตุยันเที่ยง
แต่เว่ยต้าฝูก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาพ่นลมเย้ย จากนั้นก็หันไปเล็งพ่อครัวคนอื่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าแทน
“ยืดอกขึ้น เมื่อวานเราเพิ่งได้รับคำสั่งมาจากท่านแม่ทัพ กองทหารลำดับสามของเราจะตั้งแถวประจัญบานกับข้าศึกในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำอาหารแสนอร่อยเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้เหล่าทหาร เพื่อให้พวกเขากำชัยกลับมาได้” เว่ยต้าฝูตะโกนขณะเอามือไพล่หลัง
ทันทีที่ได้ยิน บรรดาพ่อครัวก็เริ่มพูดคุยกันเสียงดัง หลายคนรู้สึกตื่นเต้นเนื่องจากเป็นโอกาสที่จะได้แสดงความสามารถของตนให้เป็นที่ประจักษ์
“ดังนั้น… พวกเจ้าน่าจะรู้สิ่งที่ข้ากำลังจะพูดดี จงทำอาหารของวันนี้ให้ดี อย่าทำให้หน่วยโรงครัวของพวกเราเสียชื่อเป็นอันขาด อย่าให้พวกทหารมาพูดด้วยน้ำเสียงจงเกลียดจงชังตอนกินอาหารที่เราทำได้ว่า ‘นี่มันขยะเปียกอะไร’ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นไม่ได้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่อับอาย แต่เป็นข้าด้วยที่จะเสียหน้า เพราะฉะนั้นพวกเจ้าทุกคนต้องทำให้ดี” เว่ยต้าฝูพูดเสียงดัง
บรรดาพ่อครัวยืดออกขึ้น ดวงตาเป็นประกายด้วยความมั่นใจ
แม้แต่หลงไฉเองก็ยืดอกขึ้นด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน
“ดี หลงไฉ… ตามพวกนี้ไปเอาโจ๊กแจกจ่ายให้แต่ละค่าย พอกลับมาแล้วเจ้าค่อยเริ่มทำอาหารเหมือนคนอื่นได้ ส่วนพวกเจ้าที่เหลือจงกลับไปที่กระโจมของตนเอง ถ้าข้าไม่พอใจกับอาหารวันนี้ พวกเจ้าทั้งหลายจะต้องตัดไม้ทำฟืนไปตลอดทั้งเดือน”
ใบหน้าของหลงไฉหงอยไปทันที แม้เขาจะไม่อยากทำแต่ก็ยังยกหม้อเหล็กร้อนจนไอน้ำหนาพุ่งขึ้นมา แล้วออกจากค่ายไปพร้อมพ่อครัวฝีมือฉกาจหลายคน
ปู้ฟางเอามือลูบหลังคอตนเองแล้วค่อยๆ เดินออกมาจากที่แห่งนั้น เขาตั้งใจจะกลับไปยังกระโจม
แต่เว่ยต้าฝูตะโกนขึ้นเพื่อหยุดเขาเสียก่อน
“ไอ้หนุ่ม ข้าจับตามองเจ้าอยู่นะ หากอาหารของเจ้าไม่มีทหารนายใดเลือกกินเลย ฮี่ๆ… เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าตนเองจะโดนอะไร! พอถึงตอนนั้นก็รู้เองว่าโทษของการทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าข้าคืออะไร” เขาพ่นลมเย็นเยาะปู้ฟาง
ปู้ฟางมองเว่ยต้าฝูอยู่สักพักก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เขาปฏิบัติต่อเว่ยต้าฝูเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนโง่เง่าคนหนึ่ง นั่นคือไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยเพราะขี้เกียจเกินไป ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงทำเพียงหันหลังเดินกลับไปที่กระโจมของตนเองเท่านั้น
วัตถุดิบที่ปู้ฟางต้องใช้วางกระจายอยู่บนพื้น แม้ทุกอย่างจะเป็นวัตถุดิบธรรมดา แต่ทั้งเนื้อและผักก็มีมากมายหลากหลายชนิด
เขาเลือกวัตถุดิบบางประเภทออกมาจากกอง คัดเอาสิ่งที่ดูคุณภาพดีกว่าสิ่งอื่น และใช้มือตรวจสอบน้ำหนักดูคร่าวๆ จากนั้นชายหนุ่มก็วางระแนงไม้ลงด้านล่าง แล้ววางหม้อไว้ด้านบน จากนั้นก็เริ่มเตรียมวัตถุดิบ
ปู้ฟางไม่สนใจว่าวัตถุดิบที่เขาใช้จะเป็นของดีหรือไม่ เนื่องจากมั่นใจในทักษะของตนเอง อาหารทุกจานที่เขาเตรียมทำให้ลูกค้ามีความสุขและชมไม่ขาดปากเสมอ
อาหารจานแรกที่เขาทำในฐานะพ่อครัของโรงครัวประจำกองทหารกำลังจะถูกประเมินแล้ว
แต่ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้กังวลอะไรเนื่องจากมั่นใจในความสามารถของตน เขาลุกออกจากเตียง ยกหม้อขึ้นแล้วเดินออกจากกระโจมไป ปู้ฟางทิ้งเจ้าขาวเอาไว้ในกระโจม ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำตามอย่างว่าง่าย
พอเดินมาถึงจุดที่พ่อครัวมารวมตัวกัน ชายหนุ่มก็เห็นพ่อครัวหลายคนถือหม้อขนาดใหญ่อยู่ ส่วนบางคนก็วางหม้อของตนเอาไว้บนพื้น หม้อทุกหม้อส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่ว
ทุกคนหน้าแดงก่ำเหงื่อบนหน้าผากพราว ต่างดูตื่นเต้นไม่น้อยหลังจากทำอาหารของตนเสร็จ
“ไอ้หนุ่ม เจ้าน่าจะเดินให้เร็วกว่านี้หน่อย ทุกคนรอเจ้าอยู่นะ” เว่ยต้าฝูมองปู้ฟางแล้วพูดอย่างรังเกียจ
หม้อของชายหนุ่มนั้นไม่ได้ใหญ่โตหากเทียบกับคนอื่น ด้วยเหตุนี้พ่อครัวคนอื่นจึงไม่ได้สนใจมันมากนัก อย่างไรเสียเหล่าทหารก็ไม่แยแสอาหารที่ทำจากวัตถุดิบธรรมดาและมักปล่อยให้เสียของจนต้องเททิ้งอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงให้หม้อใบเล็กกับปู้ฟาง
แม้จะโดนเว่ยต้าฝูว่ากระทบกระเทียบ แต่ปู้ฟางก็ยังคงเดินถือหม้อไปด้วยอาการสงบนิ่ง
ภาพตรงหน้าทำให้เว่ยต้าฝูหงุดหงิดพอตัว เขาพ่นลมเยาะจากนั้นก็หันไปสนใจคนอื่นแทน
“ดี! พวกเจ้านำอาหารออกไปได้”
“ขอรับ!”
ทุกคนขานรับแล้วยกหม้อขึ้นเดินออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD