ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 287

สรุปบท บทที่ 287 เต้าหู้ผัดพริก: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD

อ่านสรุป บทที่ 287 เต้าหู้ผัดพริก จาก ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet

บทที่ บทที่ 287 เต้าหู้ผัดพริก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

กองทหารลำดับสามของกองทหารแห่งเมืองประจิมเร้นลับจัดได้ว่าเป็นกองทหารที่อ่อนแอที่สุด เทียบไม่ได้เลยกับทหารในกองทหารลำดับหนึ่งซึ่งเป็นพวกหัวกะทิ กองทหารลำดับสามด้อยกว่ากองอื่นทั้งในแง่ของพลังปราณ ความอดทน และความมั่นคงทางจิตใจ กระนั้นกองทหารลำดับสามก็ยังได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

บรรดาพ่อครัวยกหม้อของตนเองขึ้นสูง แต่ละหม้อส่งไอร้อนพร้อมกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปในอากาศ กลิ่นอาหารหอมหวนนี้ดมดูก็รู้ว่าอร่อยอย่างแน่นอน และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเจ้าของหม้อนั้นๆ อาหารบางจานถูกเตรียมจากเนื้อของอสูรเวทล้ำค่า ทั้งหมดนี้เพื่อให้กองทหารลำดับสามอยู่ในสภาพที่พร้อมรบที่สุด

ตึง!

หม้อหนักอึ้งถูกวางลงบนพื้นค่าย ส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

ทหารในชุดเกราะมองหม้อเหล่านั้นด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้ แม้จะอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในหม้อ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก ปฏิกิริยาของเหล่าทหารทำให้เว่ยต้าฝูที่กำลังมองหน้าของคนเหล่านั้นอยู่รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ชายวัยกลางคนก็ทำอะไรไม่ได้มาก ทหารจากกองทหารลำดับสามเบื่อหน่ายอาหารที่พวกเขาทำแล้ว แต่อาจยังรู้สึกสงสัยและตื่นเต้นอยู่บ้างสำหรับรายการที่ทำมาเป็นพิเศษ นั่นเพราะอาหารที่ทำมาเป็นพิเศษรสชาติใช้ได้และหากินไม่ได้บ่อยนัก ส่วนอาหารที่กินเป็นประจำทุกวันนั้นรสชาติแทบจะเรียกได้ว่าจืดชืดเลยทีเดียวสำหรับพวกเขา

บรรดาพ่อครัวไม่อาจทำให้ทหารพึงพอใจในรสชาติได้ เว้นแต่ว่าจะคิดค้นอาหารจานใหม่ขึ้นมา แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย

จูเยวี่ย แม่ทัพของกองทหารลำดับสามเดินเอามือไพล่หลังตรงมาหาเว่ยต้าฝูอย่างไม่รีบร้อนนัก ผู้ช่วยในชุดเกราะสองสามคนเดินตามเขามาติดๆ

เว่ยต้าฝูโค้งคำนับอีกฝ่ายอย่างนบนอบก่อนจะหลบไปข้างๆ

“ใช้ได้เลยทีเดียว ทำได้ดีมาก แบ่งอาหารเหล่านี้ให้ทหารเพื่อให้พวกเขาได้กินกันเต็มที่ก็แล้วกัน” จูเยวี่ยออกคำสั่งพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า แม้คุณภาพของอาหารที่หน่วยโรงครัวทำจะเหมือนเดิม แต่การที่ทหารเหล่านี้ได้กินอย่างเต็มที่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว

เว่ยต้าฝูปฏิบัติตามคำสั่งทันที เขาจัดแจงให้พ่อครัวนำอาหารแสนอร่อยไปแจกจ่าย บรรดาทหารรุมล้อมพ่อครัววเอาไว้พร้อมพูดคุยเสียงดัง ต่างพากันกรูเข้ามาหาหม้ออย่างหิวโหยแล้วเริ่มสั่งอาหารด้วยความตื่นเต้น

เว่ยต้าฝูและคนอื่นๆทำงานอย่างเต็มที่ ทหารเหล่านี้ชื่นชอบอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบพลังปราณพอตัว เนื่องจากทั้งอร่อยและยังช่วยรักษาระดับพลังปราณเที่ยงแท้ในกายให้สูงสุดอยู่เสมอ เช่นนี้จะไม่ให้พวกเขาชื่นชอบได้อย่างไร

ปู้ฟางมองบรรดาทหารด้วยสีหน้าสงบนิ่ง คนเหล่านี้กำลังสวาปามอาหารจานแล้วจานเล่าเหมือนสุนัขป่าที่หิวโหย ชายหนุ่มวางหม้อใบเล็กของตนลง ฝาหม้อยังปิดเอาไว้สนิท กลิ่นอาหารไม่ได้เล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย

เหมือนที่เว่ยต้าฝูคาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด เหล่าทหารสนใจแต่อาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบพลังปราณ ไม่มีใครปรายตามองหม้อของปู้ฟางที่ทำมาจากวัตถุดิบธรรมดาเลย

ทหารเหล่านั้นไม่ได้มองมาทางชายหนุ่มเลยสักครั้ง ความน่าสนใจระหว่างอาหารของพ่อครัวคนอื่นและอาหารของปู้ฟางนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

เว่ยต้าฝูยิ้มปากแทบฉีกถึงรูหูตลอดงาน เขาจะตักอาหารใส่ชามจนพูนแล้วส่งให้ทหารนายแล้วนายเล่า หรือไม่ก็เดินเอามือไพล่หลังสำรวจตรวจตราโน่นนี่ ระหว่างที่เดินสำรวจอยู่นั้นเขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นลูกน้องของตนเองกำลังสาละวนกับการทำงาน

ชายวัยกลางคนหันไปมองปู้ฟางที่ยืนเงียบอยู่ในมุมหนึ่ง หม้อของชายหนุ่มปิดฝาเอาไว้สนิทจนกลิ่นเล็ดลอดออกมาไม่ได้ ภาพของชายหนุ่มที่ยืนอยู่คนเดียวดูน่าเวทนาไม่น้อย

“เห็นหรือไม่… แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่มีใครสนใจอาหารที่เจ้าทำ หากไม่มีใครมากินอาหารของเจ้า ข้าจะจัดการปรับทัศนคติเจ้าทันทีที่เรากลับไปถึงค่าย” เว่ยต้าฝูเดินมาหาชายหนุ่มพร้อมเอามือไพล่หลังไว้ เขามองภาพน่าสมเพชของปู้ฟางแล้วระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น

อาหารที่ทำจากวัตถุดิบธรรมดาและวัตถุดิบพลังปราณนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว นี่เป็นความจริงที่ถึงอย่างไรก็ก้าวข้ามไปไม่ได้ ความสนใจที่ตัวเขาและชายหนุ่มได้รับนั้นบ่งบอกความจริงข้อนี้ได้เป็นอย่างดี

ปู้ฟางหันไปมองชายวัยกลางคนที่กำลังทำหน้ายิ้มเยาะอย่างย่ามใจแล้วก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงนิ่งเฉยขณะมองเหล่าทหารต่อสู้แย่งชิงสิ่งที่พ่อครัวคนอื่นทำ

แม้ทหารเหล่านั้นจะดูตื่นเต้น แต่ปู้ฟางก็มองออกว่าพวกเขาไม่ได้พอใจกับสิ่งที่ตนเองกำลังกินอยู่จริงๆ ดูก็รู้ว่าพวกเขาเคยกินอาหารแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

“ข้าจะปล่อยให้พวกทหารกินอาหารอย่างอื่นเล่นไปก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรอาหารของข้าก็ต้องหมดในชั่วพริบตาอยู่แล้ว” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบพร้อมยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ ขณะปรายตามองเว่ยต้าฝู

พอรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมา เว่ยต้าฝูก็ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มเยาะด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ “ไอ้หนุ่มนี่ช่างมั่นหน้ามั่นโหนกเสียจริง… อาหารที่ทำจากวัตถุดิบธรรมดาและวัตถุดิบพลังปราณนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว มั่นใจขนาดนี้คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากในสมองของเจ้ามีแต่ขี้เลื่อยกลวงโบ๋”

“อ้อ… กลวงโบ๋เช่นนั้นรึ” ปู้ฟางยิ้มมุมปาก

บรรดาทหารพูดคุยกันไม่หยุดปากขณะมองเต้าหู้ผัดพริกด้วยดวงตาเป็นประกายและสีหน้าละห้อยหา

“จะว่าไปหม้อใบนี้ก็เล็กอยู่นะ… หรือว่าจะเป็นอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบธรรมดากัน” ทหารนายหนึ่งอนุมานขึ้นมาเนื่องจากพวกเขาคุ้นเคยกับข้อปฏิบัติของหน่วยโรงครัวเป็นอย่างดี จึงสามารถบอกได้ว่าวัตถุดิบแบบใดอยู่ในหม้อขนาดไหน

ทันทีที่ได้ยินดังนั้น สีหน้าของทหารทุกนายก็เปลี่ยนเป็นผิดหวัง ดูไม่อยากกินอีกต่อไป เนื่องจากอาหารตรงหน้าทำมาจากวัตถุดิบธรรมดาเท่านั้น

กระนั้นปู้ฟางก็ยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งตามสูตร กลิ่นของอาหารทำหน้าที่หลักในการดึงความสนใจของทุกคนมาที่หม้อใบนี้ อย่างไรเสียกลิ่นก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าสัมผัสได้ก่อนเป็นอย่างแรก และเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกอยากอาหารขึ้นมา

กลิ่นของเต้าหู้ผัดพริกนั้นเข้มข้นมากพอ รายการอาหารที่มีกลิ่นรุนแรงเช่นนี้มีหลายประเภท แต่ทหารเหล่านี้ต้องการอาหารที่จะช่วยทำให้พวกเขามีใจสู้ รสชาติหวานและเผ็ดของอาหารจานนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงเลือกทำเต้าหู้ผัดพริก

แม้วัตถุดิบที่ใช้จะธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยังทำหน้าที่อย่างที่มันควรจะทำได้ดี

ปู้ฟางมองหน้าเหล่าทหารที่ก่อนหน้านี้ดูตื่นเต้นแต่ตอนนี้กลับคอตกด้วยความเสียใจ ชายหนุ่มยิ้มออกมา จากนั้นก็ใช้ไม้พายเหล็กตักเต้าหู้ผัดพริกมาใส่ชาม ชามที่เต็มไปด้วยอาหารร้อนจี๋ส่งไอสีขาวลอยโขมงพร้อมกลิ่นเข้มข้นขึ้นสู่ท้องฟ้า

ปู้ฟางส่งชามให้ทหารนายที่อยู่ใกล้ตัวเขาที่สุดแล้วยิ้มหน้าตาย “เอาเลย ลองชิมดูสิ”

ทหารผู้นั้นรับชามมาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก ดูเหมือนว่ายังคงสงสัยในรสชาติอยู่

เว่ยต้าฝูมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยสายตาโกรธเคือง “รับมาทำบ้าอะไร ลืมหลักธรรมประจำใจไปหมดแล้วหรือ เจ้าควรกินแต่อาหารที่ทำจากวัตถุดิบพลังปราณเพื่อให้สภาพร่างกายของตนเองพร้อมเต็มที่สิ!”

ทหารผู้นั้นจ้องชามในมือด้วยสีหน้ากระวนกระวาย เต้าหู้ผัดพริกอ่อนนุ่มสีแดงเรื่อดูเผ็ดร้อน ทำให้ทั้งต่อมรับรสและสายตาของเขาสนใจอาหารอย่างอื่นไม่ได้อีก

เขายกช้อนขึ้นมาด้วยมือสั่นเทาแล้วตักชิ้นเต้าหู้ขึ้นมา จากนั้นก็เอาปากเป่าเต้าหู้เพื่อไล่ไอร้อนแล้วยัดเข้าปากเต็มคำท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จับจ้องอยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD