เต้าหู้ผัดพริกทั้งเผ็ดและชา ทั้งกรุบกรอบและหวาน ชั่วลมหายใจที่เต้าหู้ร้อนๆ สัมผัสกับลิ้นของทหารนายนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกโพลงราวกับจะหลุดออกจากเบ้า ศีรษะชาดิก เส้นผมทุกเส้นลุกชันขึ้นมา รูขุมขนทั้งหมดบนร่างกายเปิดกว้างออกมาพร้อมๆ กัน
“โอ้สวรรค์!”
ความรู้สึกหลังจากยัดเต้าหู้ผัดพริกเข้าปากนั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่ามีมือขนาดจิ๋วนับร้อยนับพันมาลูบไล้ไปทั่วร่าง เขารู้สึกเหมือนในปากมีระเบิดอันหอมหวานวางอยู่ ริมฝีปากแทบจะสูญเสียความรู้สึกไปทั้งหมด ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าเต้าหู้ชิ้นนี้เหมือนเป็นเหล็กร้อนฉ่าที่วางอยู่บนลิ้น ความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปากของเขานั้นช่างสุดยอดเกินบรรยาย
เขาไม่มีเวลาได้เคี้ยวเต้าหู้ผัดพริกชิ้นนั้นเพราะมันไหลลงคอไปก่อน ตอนที่ไหลลงไปถึงท้องความรู้สึกร้อนแรงก็แผดเผาออกมาจากภายใน
“เผ็ดสุดๆ เลย! แต่ก็ยังมีรสหวานซุกซ่อนอยู่ภายใต้รสร้อนแรงของเครื่องเทศ” นัยน์ตาของทหารรื้นไปด้วยน้ำ เขาอ้าปากหอบหายใจผ่านริมฝีปากสีแดงฉาน กระทั่งปลายจมูกก็เป็นสีแดง ขณะนี้เขารู้สึกว่าร่างกายนั้นร้อนเสียจนใกล้จะปะทุ ราวกับว่ากำลังปักศีรษะลงไปในปากปล่องภูเขาไฟกระนั้น
ทหารที่รายล้อมอยู่มองสหายผู้กล้าที่ทดลองชิมเต้าหู้ผัดพริกเป็นคนแรกด้วยสายตาวิตกกังวล พวกเขาต่างก็สนใจอยากลิ้มรสเต้าหู้ผัดพริกที่ส่งกลิ่นหอมหวนชวนกินเป็นอย่างยิ่ง แค่ได้กลิ่นก็อยากกินเต้าหู้ผัดพริกนี้ลงไปชามแล้วชามเล่าไม่หยุดหย่อนแล้ว
อาหารส่วนมากในเมืองประจิมเร้นลับมีรสเผ็ดและหวาน จึงเป็นเรื่องยากที่คนในเมืองนี้จะไม่อยากสวาปามอาหารเผ็ดๆ ที่อยู่ตรงหน้า แต่ปัจจัยเดียวที่หยุดไม่ให้พวกเขารีบตักเต้าหู้ผัดพริกเข้าปากคือมันปรุงขึ้นจากวัตถุดิบธรรมดา
หากว่าเต้าหู้ผัดพริกในหม้อถูกรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบพลังปราณ พวกเขาคงจะต่อยตีแย่งกันกินไปแล้ว อาจจะถึงขนาดยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อที่จะได้ลิ้มลองเลยทีเดียว
“รสชาติของมัน… อืม… ช่างหอมหวานเกินห้ามใจเสียจริง!” ทหารนายแรกที่ได้ลองเต้าหู้ผัดพริกพูดออกมาทั้งที่ปากยังชาอยู่ ความรู้สึกชาแผ่ซ่านไปถึงลิ้นจนทำให้เขาพูดตะกุกตะกัก ความเผ็ดร้อนจัดจ้านของเต้าหู้ผัดพริกชามนี้รุนแรงไม่ใช่น้อย
นัยน์ตาของกองทหารที่รายล้อมอยู่ลุกวาวขึ้นมาทันที พวกเขาต่างกลืนน้ำลายพลางจ้องมองเต้าหู้ผัดพริกตรงหน้า ราวกับเป็นฝูงสุนัขป่าที่จ้องเหยื่อตาเป็นมัน
ใครจะไปสนกันว่ามันจะทำจากวัตถุดิบพลังปราณหรือไม่! พวกเขาสนเพียงว่ามันอร่อยหรือเปล่าเท่านั้น มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะไม่อยากกินอาหารดีๆ
“เอามาให้ข้าชามหนึ่ง!”
“ข้าเอาด้วยชามหนึ่ง! ข้าชอบของเผ็ดๆ จะตาย”
“รีบๆ เอาเต้าหู้ผัดพริกมาให้ข้าชามหนึ่งเร็วเข้า! ข้าทนหิวไม่ไหวอีกแล้ว!”
เสียงตะโกนโหวกเหวกและการทุ่มเถียงระเบิดขึ้น ทหารทุกนายต่างพากันมายืนรุมล้อมปู้ฟางแล้วแย่งกันสั่งเต้าหู้ผัดพริกเป็นการใหญ่ ทุกคนต่างตื่นเต้นจนต้องร้องตะโกนสั่งอาหารออกมา พวกเขาอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อสหายคนหนึ่งได้กินเต้าหู้ผัดพริกจานอร่อยต่อหน้าต่อตา
ความจริงเหล่าทหารทนไม่ไหวตั้งแต่ได้กลิ่นของเต้าหู้ผัดพริกแล้ว
สีหน้าของเว่ยต้าฝูเปลี่ยนไปทันที ท่าทางรังเกียจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา คนพวกนี้ปฏิบัติตนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ไม่ได้เป็นทหารกันหรอกหรือ ไม่ว่าอาหารตรงหน้าจะอร่อยเพียงใด แต่ก็เป็นเพียงอาหารบ้านๆ ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมดา หากไม่ได้ทำจากวัตถุดิบพลังปราณก็ไม่อาจส่งเสริมให้ร่างกายของผู้ที่กินอยู่ในระดับสูงสุดได้ การก้าวเท้าเข้าไปในสนามรบด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ดี… นับเป็นจุดสำคัญที่อาจตัดสินความเป็นความตายได้เชียวนะ!
“พวกเจ้าไม่ควรทะเลาะแย่งชิงกันเลย… มันเป็นเพียงอาหารที่ทำจากวัตถุดิบธรรมดาเท่านั้น” เว่ยต้าฝูมองกลุ่มทหารที่ยังคงโหวกเหวกแล้วก็อดไม่ได้ที่จะออกปากสั่งสอน
“สรวบ! นี่มันบ้าอะไรกัน ทำไมมันถึงได้หวานอร่อยขนาดนี้!”
เว่ยต้าฝูพูดยังไม่ทันขาดคำ ทหารนายหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ก็ซดเต้าหู้ผัดพริกเข้าไปหนึ่งชิ้น ทันทีที่ได้ลิ้มรส เขาก็ตะโกนเสียงดังเสียจนเศษอาหารที่ค้างอยู่ในปากกระเด็นออกมา ช่างบังเอิญเหลือเกินที่เศษอาหารเหล่านั้นกระเด็นไปโดนหน้าของเว่ยต้าฝูพอดี
ความเผ็ดร้อนของอาหารส่งผลต่อเว่ยต้าฝูทันที นี่มันบ้าอะไรกัน! เว่ยต้าฝูน้ำตาแทบไหล ความเผ็ดร้อนดังกล่าวทำให้ผิวของเขาร้อนวูบราวกับถูกไฟลวก
เว่ยต้าฝูต้องวิ่งไปหลบที่มุมหนึ่งก่อนจะใช้มือถูเศษอาหารบนใบหน้าออก เขาอยากเอาความรู้สึกแสบร้อนทรมานนี้ออกไปจากผิวหน้าให้เร็วที่สุด
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ต้องตื่นตกใจกับฉากตรงหน้า ปากของชายวัยกลางคนอ้าค้างขณะที่สายตาจ้องมองออกไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
นี่มัน…
ใบหน้าของเหล่าทหารเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พวกเขาหรี่ตาแล้วพากันอ้าปากหอบหายใจ พลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากสีแดงระเรื่อขณะที่เหงื่อหยดลงมาตรงปลายจมูก
เว่ยต้าฝูไม่เคยเห็นสีหน้าอิ่มเอมใจเช่นนั้นบนใบหน้าของเหล่าทหารมาก่อน ต่อให้คนพวกนี้ได้กินอาหารที่ปรุงจากฝีมือของตัวเขาเอง ใบหน้าก็ยังไม่ปลื้มปริ่มถึงเพียงนี้ แม้ว่าทหารเหล่านี้จะนิยมชมชอบอาหารที่เขาปรุงอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทีปีติยินดีถึงขนาดนี้เลย
หรือจะเป็นเพราะ… ไอ้เต้าหู้อะไรนี่มันอร่อยมากจริงๆ
ตอนนั้นเองกระทั่งเว่ยต้าฝูก็ยังต้องกลืนน้ำลาย
หม้อของปู้ฟางค่อนข้างเล็ก ไม่นานนักเต้าหู้ผัดพริกของเขาก็หมดเกลี้ยง เต้าหูผัดพริกถูกแจกจ่ายให้เหล่าทหารหิวโซจนหมดหม้อ บางคนถึงกับต้องเลียก้นชามเพราะยังกินไม่หนำใจ
ตอนนั้นเองกลุ่มทหารที่อยู่ห่างออกไปก็หันมาเห็นกลุ่มทหารที่ล้อมรอบปู้ฟางอยู่ พวกเขารีบรุดเข้ามาดูด้วยความสงสัย แล้วก็ต้องพากันประหลาดใจเมื่อได้เห็นสภาพของทหารเหล่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD