ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 289

ปู้ฟางปิดฝาไม้ลงบนหม้อด้วยท่าทางสงบนิ่ง จากนั้นก็ยกหม้อเดินจากไปโดยไม่สนใจสายตาเย็นชาที่จ้องมองมาแม้แต่น้อย

พ่อครัวคนอื่นๆ พากันโกรธจัดที่อาหารซึ่งพวกเขาทำขึ้นอย่างดีกลับโดนอาหารของปู้ฟางข่มจนสิ้นท่า แถมอาหารของชายหนุ่มยังปรุงจากวัตถุดิบธรรมดาด้วย นับว่าเป็นเรื่องน่าอับอายของพ่อครัวคนอื่นๆ โดยแท้

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะโกรธเคืองเพียงใดก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือ นั่นเพราะพวกเขาอยู่ในค่ายของกลุ่มอื่น แถมแม่ทัพจูก็ยังยืนอยู่ไม่ไกล ต่อให้อยากสั่งสอนปู้ฟางสักเพียงใด พวกเขาก็ต้องรอจนกระทั่งได้กลับไปยังค่ายของตนเองเสียก่อน

บรรดาพ่อครัวคนอื่นๆ จึงทำได้เพียงพ่นลมหายใจใส่ปู้ฟางอย่างเย็นชา พลางส่งสายตามุ่งร้ายมาให้

เว่ยต้าฝูตกตะลึงกับทักษะของปู้ฟางเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเขาก็กดความรู้สึกนี้เอาไว้ภายในเพราะรู้ดีว่าแม้ต้นไม้ที่สูงที่สุดในป่าก็ยังถูกโค่นได้ด้วยลม ประโยคนี้เป็นจริงในทุกสถานการณ์ การแสดงความสามารถของปู้ฟางในครั้งนี้ดึงดูดสายตาอิจฉาริษยาได้ไม่น้อยแล้ว

ชีวิตของปู้ฟางในฐานะพ่อครัวประจำกองทัพจะยิ่งยุ่งยากขึ้นอีกนับจากนี้ อาจจะถึงขั้นที่ว่าชายหนุ่มไปไหนมาไหนลำบากเลยก็ว่าได้

แต่ปู้ฟางกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย

สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของชายหนุ่มคือคิ้วที่ขมวดมุ่น เขาไม่ได้แยแสสายตามุ่งร้ายหมายขวัญจากพ่อครัวคนอื่นๆ แต่อย่างใด ทำเพียงยกหม้อเดินออกจากค่ายไปเท่านั้น หม้อของเขาว่างเปล่าไร้อาหาร จึงถึงเวลาอันควรที่เขาจะกลับไปยังกระโจมของตนเอง

หลังจากได้เห็นหม้อที่ว่างเปล่าของปู้ฟาง เว่ยต้าฝูก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เขาเริ่มละอายที่ไม่เชื่อมั่นในอาหารของปู้ฟางตั้งแต่แรก เขาเป็นคนลั่นวาจาเอาไว้ว่า หากอาหารของปู้ฟางไม่มีคนกิน พ่อครัวหนุ่มจะถูกลงโทษอย่างหนัก แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ทำให้เว่ยต้าฝูต้องกลืนน้ำลายตนเอง ดูเหมือนว่าคำพูดของเขาได้ย้อนกลับมาตบหน้าตัวเองเข้าอย่างแรง

ไม่เพียงแค่มีคนกิน แต่อาหารของปู้ฟางยังเป็นจานแรกที่หมดเกลี้ยงอีกด้วย

การนำตนเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น… รังแต่จะทำให้โมโหมากขึ้นเปล่าๆ

“อาหารที่เจ้าหนุ่มนั่นทำ… อร่อยขนาดนั้นจริงๆ หรือ” เว่ยต้าฝูเริ่มหัวหมุน

ปู้ฟางยกหม้อกลับไปยังค่ายของตน หลังจากบิดขี้เกียจเสร็จ ชายหนุ่มก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียง เขานึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่า วัตถุดิบที่ตนใช้นั้นไม่มีพลังปราณอยู่แม้แต่น้อย แล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาต้องคิดหาวิธีใหม่ๆ ที่จะใช้ปรุงวัตถุดิบเหล่านั้น

ขณะที่ปู้ฟางกำลังคร่ำเคร่งกับความคิดอยู่นั้น เวลาอาหารก็หมดลงแล้วบรรดาพ่อครัวคนอื่นๆ ก็เริ่มกลับมาที่ค่าย

บรรยากาศในค่ายอึดอัดขึ้นมาทันที

หลงไฉเป็นคนแรกที่เดินมาหาปู้ฟาง และยังเป็นคนแรกที่เอ่ยเตือนปู้ฟางอย่างใจเย็น อาหารของปู้ฟางแย่งความเด่นไปจากอาหารของพ่อครัวคนอื่นๆ ทำให้อาหารของพวกเขาไม่ได้รับความนิยมในหมู่ทหารเท่าที่ควร

ตอนนี้บรรดาพ่อครัวอาวุโสจึงอยากเล่นงานปู้ฟางเต็มแก่แล้ว

คำตอบของปู้ฟางทำเอาหลงไฉตะลึงงันไป เด็กหนุ่มจ้องมองปู้ฟางอย่างงุนงงเมื่อได้รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่กังวลเรื่องพ่อครัวคนอื่นๆ แม้แต่น้อย ปู้ฟางยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

เว่ยต้าฝูยกมือไพล่หลังขณะเดินตามพ่อครัวคนอื่นๆ ไปยังกระโจมของปู้ฟาง ในที่สุดทุกคนก็เข้ามาเบียดเสียดกันอยู่ในกระโจมหลังเล็ก

“นี่มันกลิ่นอะไรกัน ต้องเป็นกลิ่นพิษสักอย่างแน่ๆ! แล้วอาหารดีๆ จะถูกปรุงขึ้นมาในสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไร”

“จุ๊ๆๆ … พวกเจ้าทุกคนมาดูนี่เสียก่อน ผักนี่เน่าแล้ว กลิ่นเน่าเหม็นอวลไปทั่วห้องเลย ใครมันบังอาจเอาวัตถุดิบเช่นนี้มาทำอาหารกัน ช่างน่าไม่อายเสียจริง”

“คุณธรรมและหลักการของเขาไปอยู่ที่ไหนเสียหมด หากทหารเกิดท้องเสียขึ้นมาหลังจากกินอาหารที่เขาทำ จะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่! ถึงตอนนั้นพวกเราจะทำอย่างไรกันดี”

ทันทีที่กลุ่มพ่อครัวมาถึงกระโจมของปู้ฟางพวกเขาก็พากันวิพากษ์วิจารณ์หาข้อเสียไปต่างๆ นานา เห็นได้ชัดว่าทุกคนอารมณ์เสียที่ปู้ฟางมาแย่งโอกาสเด่นไป

ปู้ฟางเพิ่งมาใหม่แถมอายุยังน้อย แต่บรรดาพ่อครัวมากประสบการณ์กลับต้องพ่ายแพ้ให้แก่เด็กหนุ่มเช่นนี้ พวกเขารู้สึกไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย

หลงไฉโกรธพ่อครัวคนอื่นๆ ที่พากันมาหาเรื่องปู้ฟาง แต่ก็ไม่อาจหยุดทุกคนได้ ถึงแม้อายุจะยังน้อย แต่เขาก็อยู่ในกองทัพมาระยะหนึ่งแล้ว เด็กหนุ่มเคยได้ยินว่าเหล่าพ่อครัวอาวุโสมักใช้อายุงานที่มากกว่ากดขี่พ่อครัวใหม่ๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หลงไฉได้เห็นมันกับตาตนเอง

เขารู้สึกรังเกียจพฤติกรรมนี้ขึ้นมาเล็กน้อย ท่าทางของบรรดาพ่อครัวทำเอาขนของเขาลุกไปทั้งตัว

ปู้ฟางนอนอยู่ในกระโจมที่ใช้เก็บวัตถุดิบธรรมดา และเพราะเป็นวัตถุดิบธรรมดา อายุของพวกมันจึงสั้นกว่าวัตถุดิบพลังปราณอยู่ประมาณหนึ่ง เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีบางส่วนเน่าเสียไป ปู้ฟางไม่เข้าใจเลยว่าบรรดาพ่อครัวจะมาแสดงละครลิงให้ตนดูทำไม

หรือจะเป็นเพราะอาหารของเขาได้รับการยอมรับจากทหารส่วนใหญ่

เป็นเรื่องง่ายที่จิตใจมนุษย์จะสูญเสียความปรองดอง ทันทีที่สติหลุดลอยไป พฤติกรรมน่ารังเกียจก็จะปรากฏออกมา

ปู้ฟางกวาดตามองคนกลุ่มนี้ด้วยสายตานิ่งสงบ ไม่มีร่องรอยของอารมณ์ใดๆ อยู่เบื้องหลังแววตานั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD