“ยินดีต้อนรับสู่ร้านเล็กๆ ของฟางฟาง รายการอาหารอยู่บนผนัง ตัดสินใจได้แล้วก็บอกข้า”
ทันทีที่ซูฉีก้าวเข้าร้านมา เสียงเล็กน่ารักก็เอ่ยต้อนรับ เด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มจ้องมองเขาพลางกระพริบตาปริบๆ
“นายหญิงน้อยแห่งตระกูลโอวหยางรึ” ซูฉีเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แม้ข้อมูลที่ได้รับจากสายลับจะรายงานไว้อยู่แล้วว่าโอวหยางเสี่ยวอี้อยู่ที่ร้านนี้ด้วย แต่เขาก็ยังตกใจอยู่ดีเมื่อได้มาเห็นของจริง
“เหตุใดองค์หญิงน้อยแห่งตระกูลโอวหยางถึงต้องลดตัวมาเป็นบริกรที่ร้านเล็กๆ แห่งนี้ด้วยเล่า นางเสียสติไปแล้วรึ”
ที่หน้าร้าน ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดพ่อครัวค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เขาขยับคอเสียงดังกรอบ ก่อนเดินไปที่ครัวด้วยท่าทางขี้เกียจถึงขีดสุด
“นั่นน่ะหรือเจ้าของร้าน ระดับพลังปราณต่ำเป็นบ้า… เป็นไปได้อย่างไรกันว่าหมอนี่ที่อยู่เพียงระดับสองขั้นเจ้ายุทธการ จะสังหารนักฆ่าขั้นราชันยุทธการสี่คนได้ อย่างน้อยต้องมีปราณระดับหกขั้นจักรพรรดิยุทธการสิ”
ซูฉีคิดพลางเอามือรูปเครายาวงามของตน ดวงตาจับจ้องไปที่หลังของปู้ฟางด้วยความตกใจ
“นี่ ตกลงเจ้าจะสั่งอะไร” โอวหยางเสี่ยวอี้ถามอย่างไม่สบอารมณ์ นางไม่พอใจที่ตาแก่นี่ไม่สนใจเด็กหญิงหน้าตาน่ารักอย่างนาง แต่กลับจ้องไปที่นายท่านตัวเหม็นแทน ความงามอันน่าตราตรึงใจของนางด้อยกว่าไอ้นายท่านตัวเหม็นนั่นรึ
ซูฉียิ้มอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นก็หันกลับมาสนใจเด็กหญิงอีกครั้ง ดวงตามองไปที่รายการอาหารบนผนัง ทันใดนั้นรูม่านตาของเขาก็หดแคบลง
“ข่าวลือเป็นเรื่องจริงเสียด้วย สมแล้วที่ได้ฉายาว่าเป็นร้านใจไม้ไส้ระกำที่สุดในนครหลวง…” ซูฉีสูดลมเย็นเข้าลึกในปอดพร้อมพูดพึมพำกับตนเอง แม้เขาจะมาสำรวจร้านนี้ตามคำสั่งขององค์ชายรัชทายาท แต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้อยู่ดีเมื่อเห็นราคาที่แพงไร้สาระบนรายการอาหาร
“ข้าเอา… น้ำแกงเต้าหู้หัวปลาก็แล้วกัน” แต่ซูฉีก็ไม่ใช่คนยากจนข้นแค้น เขากวาดตามองรายการอาหารก่อนเลือกสิ่งที่ตนเองชอบกิน น้ำแกงเต้าหู้หัวปลานั่นเอง
“รอสักครู่” เด็กหญิงพ่นลมเยาะก่อนเดินไปในครัว นางไม่ชอบใจเอามากๆ ที่ตาแก่นี่สนใจนายท่านตัวเหม็นมากกว่าเด็กหญิงน่ารักอย่างนาง
ซูฉีหาที่นั่งลงเพื่อรอ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่มีโต๊ะเพียงสี่ตัวเท่านั้น บรรยากาศภายในร้านอบอุ่นกะทัดรัด ทั้งเงียบและสะอาด โดยรวมแล้วทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายกายสบายใจ
ตึกๆๆ
เสียงฝีเท้าดังติดๆ กันมาจากภายนอก มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาแต่ไกลและก้าวเข้ามาในร้าน
“หืม ซูฉีรึ” เสียงหนึ่งอุทานขึ้นด้วยความตกใจเล็กๆ ซูฉีประหลาดใจจึงหันไปมองที่ทางเข้าร้าน ก่อนจะเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่
“เลขาธิการใหญ่ซู ไม่คิดเลยว่าจะเจอกันที่นี่” ซูฉีลุกขึ้นยืนอย่างประหลาดใจ ก่อนทำมือแสดงความเคารพและค้อมตัวลงเล็กน้อย ชายวัยกลางคนตรงหน้าเขาคือเลขาธิการใหญ่จากตำหนักหลวง ตัวซูฉีเองรู้สึกตกใจที่คนผู้นี้ต้องมาเยี่ยมเยียนร้านเล็กๆ แห่งนี้ด้วยตนเอง
แม้จักรวรรดิวายุแผ่วจะเป็นอาณาจักรการยุทธ์แต่ก็ยังมีขุนนางอยู่ เนื่องจากการปกครองบ้านเมืองนั้นต้องใช้ทั้งบุ๋นและบู๊
ซูหยวนชิงจำชายที่มีหนวดยาวงามตรงหน้าได้ทันที ซูฉี คนโปรดขององค์ชายรัชทายาทผู้นี้เป็นที่รู้จักกันดีในตำหนักหลวง
แม้จะเคยเห็นหน้าค่าตากันแต่ทั้งสองก็ไม่ได้สนิทกัน ดังนั้นจึงแยกกันนั่งหลังจากเสร็จพิธีทักทาย ซูหยวนชิงสั่งข้าวผัดไข่
ตอนนี้ปู้ฟางกำลังวุ่นทำอาหารอยู่ในครัว “ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีลูกค้าหน้าใหม่เยอะอยู่ เกิดอะไรขึ้นกัน หรือว่ามีใครในนครหลวงช่วยโฆษณาร้านให้กันแน่”
แม้ปู้ฟางจะประหลาดใจแต่ก็ไม่ได้หยุดมือ เขาตักปลาคาร์ปอัสนีเงินระดับสามขึ้นมาขอดเกล็ด ควักเครื่องในออกให้สะอาดเรียบร้อย แล้วนำปลาไปล้างในน้ำก่อนสับหัวออก
เขาเก็บไว้เพียงหัวปลาเท่านั้น ส่วนที่เหลือโยนลงท้องของเจ้าขาวเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต จากนั้นปู้ฟางก็หยิบเต้าหู้หยกผลึกหิมะที่เปล่งประกายระยิบระยับออกมาจากตู้เย็น แล้วเริ่มทำน้ำแกงเต้าหู้หัวปลาตามที่ลูกค้าสั่ง
ขณะกำลังรอให้น้ำแกงเต้าหู้หัวปลาเดือดอยู่นั้น ชายหนุ่มก็หยิบไข่ฟองสีขาวขนาดเท่ากำปั้นออกจากตู้เย็น
ไข่นี้เป็นไข่ฟองแรกที่ลูกอินทรีทะเลลึกระดับห้าวางเอาไว้ ภายในอัดแน่นไปด้วยพลังปราณเข้มข้น ปู้ฟางเคาะไข่กับชามกระเบื้องสีขาวอย่างแรง แล้วตอกไข่ใส่ชามด้วยมือเดียว
ขณะที่เขากำลังทำอาหารอยู่นั้น ร้านเล็กๆ ของฟางฟางก็แน่นขนัดไปด้วยลูกค้าแล้ว
“ข้าเอาข้าวผัดไข่”
“ข้าขอบะหมี่แห้งคลุก! เร็วๆ ด้วยเล่า!”
“ข้าสั่งปลาดองเหล้า”
…..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD