เสียงห้าวแหบเหมือนกระดาษทรายแฝงไปด้วยไอเย็นดังกังวานไปทั่วร้าน
เจือไปด้วยความกระหายและความปรารถนา
“มีสุราขายแน่นอนอยู่แล้ว” ปู้ฟางพยักหน้าพร้อมเอื้อนเอ่ย เขาอยากละเลียดดื่มด่ำสุราคนเดียว แต่ในเมื่อมีลูกค้ามา ก็จำใจต้องวางจอกลงก่อน
ชายผู้นั้นเดินเข้าร้านมาด้วยความดีใจ นั่งลงที่โต๊ะ แล้วพูดด้วยเสียงแหบห้าว “เถ้าแก่ ข้าขอสุราหนึ่งเหยือกก็แล้วกัน”
ปู้ฟางตอบรับอย่างไร้อารมณ์ด้วยการพยักหน้า จากนั้นก็หันไปมองรายการอาหารบนผนัง มีสามรายการใหม่เพิ่มเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
“สุราหัวใจหยกเยือกแข็ง เหยือกละสิบห้าผลึก”
“สิบห้าเองรึ ไม่แพงเลยแฮะ” ปู้ฟางคิดพลางชะงักแต่ก็เข้าใจเหตุผลได้โดยง่าย แม้สุราหัวใจหยกเยือกแข็งจะเป็นสุราชั้นเลิศ แต่วัตถุดิบที่ใช้หมักก็ไม่ได้แพงเท่าที่ใช้ในอาหารจานอื่น
จุดขายเดียวของมันคือวิธีการบ่มแสนยาวนานน่าเบื่อหรือก็คือกระบวนการหมักเก้ากรรมวิธี วัตถุดิบนั้นจัดว่าธรรมดาดาษดื่นทั่วไป ข้าวที่ใช้เป็นข้าวพลังปราณคุณภาพเยี่ยม แต่ก็ยังจัดว่าด้อยกว่าข้าวไข่มุกที่ใช้ทำข้าวผัดไข่
“ระบบ ราคานี้ไม่ถูกไปรึ” ปู้ฟางถามระบบเงียบๆ
“ราคาที่ระบบตั้งให้นั้นสมเหตุสมผลแล้ว ระบบคิดคำนวณจากวัตถุดิบที่ใช้ กระบวนการ และระยะเวลาในการทำ สุราหัวใจหยกเยือกแข็งจัดว่าเป็นสุราธรรมดาทั่วไป ราคาจึงไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสุราผลไม้หรือสุราพลังปราณที่หมักด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ สำหรับสุราธรรมดาทั่วไป สิบห้าผลึกก็จัดว่าแพงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว” ระบบอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ปู้ฟางพยักหน้าเข้าใจ
“สุราหัวใจหยกเยือกแข็งราคาเหยือกละสิบห้าผลึก” ปู้ฟางพูดกับชายในหมวกไม้ไผ่หน้าตาย
“สิบห้าผลึกรึ” ชายผู้นั้นประหลาดใจเล็กน้อย ราคา 15 ผลึกสำหรับสุราหนึ่งเหยือกจัดว่าค่อนข้างไร้สาระเลยทีเดียว แต่เมื่อหันไปมองรายการอาหารทั้งหมด ชายผู้นั้นก็ทำได้เพียงเงียบเสียงลง
หลังจากคิดอยู่สักพักเขาก็ตัดสินใจได้ “ข้าขอเหยือกหนึ่งก็แล้วกัน ก่อนหน้านี้ข้าเดินผ่านตรอกแล้วถึงกับต้องเข้ามาดูเพราะกลิ่นสุราลอยมาเตะจมูก หวังว่าจะคุ้มราคาล่ะ”
ของดีไม่จำเป็นต้องโพนทะนา มุมปากของปู้ฟางยกขึ้นเล็กน้อย
“รับรองว่าไม่ผิดหวัง” ชายหนุ่มตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ จากนั้นก็เดินกลับเข้าครัวไปหยิบสุราหัวใจหยกเยือกแข็งจากตู้เก็บมาหนึ่งเหยือก
เหยือกดินเผาไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก มันเล็กกว่าโถที่ใช้ใส่เหล้าปกติเสียด้วยซ้ำ ปู้ฟางวางเหยือกลงตรงหน้าชายในหมวกไม้ไผ่แล้วพูดเสียงเรียบ “นี่สุราที่สั่ง”
ชายผู้นั้นพยักหน้าแล้วค่อยๆ เปิดผ้าคลุมสีดำที่ติดอยู่กับหมวกไม้ไผ่ออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่
ปู้ฟางประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นใบหน้าเบื้องหลังผ้าคลุมนั้น เพราะมันดูคลับคล้ายคลับคลาผิดปกติ
ทันทีที่อีกฝ่ายถอดหมวกไม้ไผ่ออก ก็เผยให้เห็นใบหน้าสง่าหล่อเหลา ดวงตาเจิดจ้าเหมือนดาวระยิบระยับ และริมฝีปากกระจับเป็นรอยยิ้มโดยธรรมชาติ
“นึกออกแล้ว! หมอนี่หน้าเหมือนไอ้หน้าสาวเซียวเสี่ยวหลงเลยแฮะ!”
“เถ้าแก่ เหตุใดจึงมองหน้าข้าเยี่ยงนั้น” ชายในชุดดำหัวเราะในลำคอพลางถามเสียงแหบ
“เจ้าแค่หน้าคุ้นๆ เฉยๆ ไม่มีอะไร ดื่มให้อร่อยล่ะ” ชายหนุ่มเจ้าของร้านตอบหน้าตาย จากนั้นก็นั่งลงจิบสุราของตนเองเช่นกัน
อีกฝ่ายเองก็ไม่ได้ใส่ใจเจ้าของร้าน ลำคอของเขาขยับเล็กน้อยขณะเปิดผ้าปิดเหยือกออก
กลิ่นสุราเข้มข้นพวยพุ่งออกจากเหยือกทันทีเหมือนภูเขาไฟระเบิด โถมใส่โพรงจมูกตรงดิ่งเข้าสู่หัวใจ ชายหนุ่มดื่มด่ำกับกลิ่นหอมอย่างเต็มที่
เขาเทสุราใส่จอกกระเบื้องสีฟ้าขาวที่ปู้ฟางวางไว้ให้พร้อมกัน สุราในจอกใสบริสุทธิ์เหมือนน้ำในบ่อน้ำพุบนเทือกเขาสูง ปราศจากมลทินแม้แต่น้อย
“สุราชั้นเยี่ยม!” ชายในชุดดำอุทานออกมาเบาๆ อย่างไม่รู้ตัวด้วยความตื่นเต้นดีใจ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ยกจอกสุราขึ้นจดริมฝีปาก
ทันทีที่สุราไหลลงคอ รูขุมขนทุกอณูในร่างก็เปิดออก ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาวาววาบ จิตใจเอ่อล้นด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ
เขาต้องมนต์สะกดของกลิ่นหอมและความรู้สึกเหมือนน้ำแข็งและเปลวเพลิงเข้าเสียแล้ว
“สุรานี่เยี่ยมมาก! เทียบได้กับสุราน้ำอัญมณีทิพย์ของวังหลวงเลยทีเดียว!” ชายผู้นั้นเอ่ยชื่นชมอีกครั้ง
ฤทธิ์ของมันแรงเหลือ แต่กลับนุ่มนวลและหอมหวน! ทั้งยังกระตุ้นพลังปราณเที่ยงแท้ภายในกายให้ไหลเวียนอีกด้วย! ราคาของมันควรสูงกว่าสิบห้าผลึกอย่างแน่นอน!
“ฮ่าๆ! ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเจอสุราชั้นยอดขนาดนี้ได้ ช่างเป็นโชคของข้าเสียจริง! ตอนนี้คนเหล่านั้นดื่มสุราน้ำอัญมณีทิพย์กันที่วังหลวง ส่วนข้าก็กำลังดื่มสุราหัวใจหยกเยือกแข็งอยู่ที่นี่ ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย” ชายในชุดดำหัวเราะร่วน รินสุราอีกหนึ่งจอก แล้วกระดกหมดในรวดเดียว ความเผ็ดร้อนในลำคอทำให้ใบหน้าขาวผ่องแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD