ดวงตาคู่นั้นเจิดจ้าเหมือนพระจันทร์เต็มดวงในคืนมืดมิด แจ่มแจ้งราวกับเป็นจุดสีขาวในหมึกสีดำสนิท
ดวงตาของสุนัขสีดำตัวใหญ่จับจ้องอยู่ที่ชิ้นซี่โครงควันฉุยเคลือบด้วยซอสเปรี้ยวหวานสีส้มส่งกลิ่นหอมชวนหิวที่อยู่ระหว่างซี่ตะเกียบ
ความหิวกระหายในดวงตาคู่นั้นทำให้ปู้ฟางผงะไปข้างหลังด้วยความตกใจ
“พับผ่าสิ! เจ้าดำ รู้หรือไม่ว่าการที่เจ้าโผล่มาจ้องข้าเช่นนี้มันน่ากลัวเพียงใด” มือของชายหนุ่มสั่นจนเกือบทำซี่โครงตกจากตะเกียบ
ลิ้นของเจ้าดำห้อยออกจากปาก ดวงตายังคงจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มเจ้าของร้าน
“เจ้าอยากกินไอ้นี่หรือ” ชายหนุ่มถามหน้าตาย โบกซี่โครงเปรี้ยวหวานไปมา เจ้าดำพยักหน้าลิ้นห้อยอย่างว่านอนสอนง่าย
ใบหน้าแข็งทื่อของชายหนุ่มไม่ขยับแม้แต่น้อย แต่มุมปากกลับฉีกกว้างเป็นรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็อ้าปากยัดซี่โครงเปรี้ยวหวานชิ้นอวบอ้วนนุ่มลิ้นเข้าไปหมดในคราวเดียว
ชายหนุ่มมีซี่โครงอยู่เต็มปาก เขากัดลงไปที่เนื้อและเริ่มเคี้ยว ภายนอกริมฝีปากเปรอะเปื้อนไปด้วยซอสเปรี้ยวหวานสีส้ม
ดวงตาของเจ้าดำจ้องซี่โครงเขม็ง เมื่อเห็นว่าปู้ฟางกินซี่โครงเข้าไป ดวงตาของมันก็มืดมิด กำลังใจในการใช้ชีวิตเหือดหาย ราวกับท้องฟ้าจะถล่มโลกจะทลายลงมาก็ไม่ปาน
“ช่างน่าหงุดหงิดอะไรเช่นนี้! เจ้ามนุษย์นี่มันตั้งใจแน่ๆ !” เจ้าดำคิด
เจ้าดำเดือดดาลเป็นอันมากที่ไม่ได้กินซี่โครงชิ้นนั้น ขนของมันตั้งชัน ปากแยกเขี้ยวขาว ดวงตาจ้องชายหนุ่มเขม็ง
แต่ตอนนี้ปู้ฟางไม่มีเวลามาสนใจเจ้าดำแม้แต่น้อย รสชาติยอดเยี่ยมเกินจินตนาการของเนื้อหมูป่าเมฆาทะยานระเบิดอยู่ในปากเขา กลิ่นหอมหวนของเนื้อราวกับเป็นระเบิดปรมาณูที่เข้าครอบงำต่อมรับรสของเขาในพริบตา
รสชาติกลมกล่อมสมบูรณ์แบบของซอสผสานกับเนื้อหมูชั้นยอดไม่เปรี้ยวหรือหวานจนเกินพอดี
สัมผัสของเนื้อไม่แข็งจนเกินไป หลังจากทอดกรอบด้วยกรรมวิธีประณีตมันก็กรอบกรุบลงตัว แป้งทอดที่ชุบเนื้อหมูเองก็กรุบกรอบอร่อยล้ำ
เนื้อหมูส่วนที่ใช้เป็นซี่โครงส่วนใกล้กระดูกสันหลัง ซึ่งหลังจากที่ปู้ฟางทำให้นุ่ม มันก็ทั้งนุ่มและอ่อนนิ่ม แถมยังมีกระดูกอ่อนกรุบกรอบอยู่ภายในด้วย ทุกครั้งที่กัดลงไปจะส่งเสียงกรึบออกมา เพิ่มความอร่อยของรสชาติอาหารให้ทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีก
ดวงตาของปู้ฟางสว่างวาบขณะใช้ตะเกียบคีบซี่โครงเปรี้ยวหวานขึ้นมาอีกชิ้น แล้วส่งเข้าปากไปด้วยความเร็วแสง เขาหยีตาเล็กอย่างสุขใจ ปากเคี้ยวซี่โครงหมุบหมับ ตกอยู่ในวังวนของโลกแห่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจ
สุนัขสีดำตัวใหญ่กำลังโกรธจัด! มันโบกหางไปมาเดินพล่านไปทั่วร้าน ดวงตาละล้าละลังตัดสินใจไม่ถูก “ข้าจะเข้าไปฉกซี่โครงมาจากมนุษย์หน้าโง่นี่เลยดีไหมนะ”
“ไม่ได้สิ หากไอ้มนุษย์นี่ไม่ยอมให้อาหารสุนัขรูปงามอย่างข้าอีกในอนาคตล่ะ สุนัขรูปงามอย่างข้าติดใจฝีมือของมนุษย์หน้าโง่นี่เข้าให้แล้ว!
“เอาอย่างไรดี จะแย่งดีหรือไม่แย่งดี” จำนวนซี่โครงเปรี้ยวหวานหายไปจากจานกระเบื้องสีฟ้าขาวอย่างรวดเร็ว เจ้าดำรู้สึกราวกับว่าหัวใจค่อยๆ เต้นโหวงเหวงด้วยความว่างเปล่า…
ท้ายที่สุดก็เหลือซี่โครงอยู่บนจานเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น
ตะเกียบในมือปู้ฟางค่อยๆ ยื่นเข้าไปสัมผัสซี่โครงชิ้นสุดท้ายบนจานนั้น ปลายตะเกียบบีบเข้าไปที่ชิ้นซี่โครง ซอสเปรี้ยวหวานบนชิ้นเนื้อกระจายไปทั่วบริเวณ ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจให้รุนแรงขึ้นอีก
ดวงตาของเจ้าดำแทบมีน้ำตาคลอเบ้าขณะมองซี่โครงชิ้นสุดท้ายด้วยความอาลัย!
ปู้ฟางทำท่าเคี้ยว สีหน้าของเขาน่าขันเป็นที่สุด อาจเรียกได้ว่าเป็นสีหน้าที่มีสีสันที่สุดในชีวิตของเขาแล้วก็เป็นได้
“อะ เอาไป ดูเหมือนว่าข้าจะใจดีเกินไปจริงๆ เสียด้วย” ชายหนุ่มพูดพร้อมคีบซี่โครงชิ้นสุดท้ายให้เจ้าดำ
เจ้าดำดีใจเหมือนได้ทองคำแท่ง ดวงตาของมันเจิดจรัสด้วยแสงแห่งความหวังที่อธิบายไม่ถูก ขณะกินซี่โครงเปรี้ยวหวานหมดในคำเดียว
กลิ่นหอมเข้มระเบิดออกมาในปากของมัน ร่างทั้งร่างพาลสั่นไหว ใบหน้าเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ มันส่งเสียงหอนออกมาด้วยความสุขใจ
ปู้ฟางชะงักอึ้ง… แค่ได้กินซี่โครงชิ้นเดียว สุนัขบ้านกลับกลายสภาพเป็นสุนัขป่าได้อย่างไร
หลังจากกินซี่โครงเข้าไปเรียบร้อย เจ้าดำก็ยังไม่รู้สึกพอใจ ทว่าปู้ฟางผู้ชั่วร้ายกลับกินหมดจานเสียแล้ว มันจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องเดินกลับไปนอนหลับที่หน้าร้านดังเดิม
ปู้ฟางเองก็ค่อยๆ ล้างจานอย่างไม่รีบร้อนก่อนจะเข้านอน
เช้าวันต่อมา ชายหนุ่มตื่นแต่ไก่โห่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD