ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 69

สรุปบท ตอนที่ 69 ข้าให้ศูนย์คะแนน... ทุกจาน!: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD

อ่านสรุป ตอนที่ 69 ข้าให้ศูนย์คะแนน... ทุกจาน! จาก ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 69 ข้าให้ศูนย์คะแนน... ทุกจาน! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD ตอนที่ 69 ข้าให้ศูนย์คะแนน… ทุกจาน!
ตอนที่ 69 ข้าให้ศูนย์คะแนน… ทุกจาน!

“หา… นี่ท่านประกาศว่าจะมาก่อเรื่องด้วยท่าทางเหมือนกำลังทำสิ่งที่ถูกได้อย่างไรกัน นิสัยเช่นนี้ช่างสมกับที่เป็นเถ้าแก่ปู้เสียจริง”

เซียวเสี่ยวหลงและคนอื่นๆ งงเป็นไก่ตาแตก ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าปู้ฟางจะมาจับผิดร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ไปเพื่ออะไร

“เถ้าแก่ปู้… ท่านมีความแค้นกับร้านปักษาเพลิงนิรันดร์เช่นนั้นหรือ” เสียงชวนฟังของเซียวเยียนอวี่ถามขึ้นเบาๆ ไม่ใช่แค่เซียวเสี่ยวหลงเท่านั้นที่ไม่เข้าใจเจตนาของปู้ฟาง แม้แต่คนฉลาดอย่างเซียวเยียนอวี่เองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

ปู้ฟางหันไปมองเซียวเยียนอวี่ ดวงตาประสานเข้ากับดวงตาสว่างสดใสของนาง “ต้องมีเหตุผลด้วยรึ ที่ข้าจับผิดก็เพราะข้าอยากทำ”

“ก็ได้… จะตอบเช่นนี้ก็ไม่แปลก ก็เหมาะกับนิสัยเถ้าแก่ปู้ดี” แม่นางคิด

ทุกคนหยุดพูดคุยกันแล้วนั่งรอให้อาหารมาวางที่โต๊ะอย่างเงียบๆ ชั้นหนึ่งของร้านเสียงดังมากและมีกลิ่นมากมายลอยผสมกันอยู่ในอากาศ กลิ่นสุราราคาถูกผสมกับกลิ่นอาหารหลายชนิด เปลี่ยนจากกลิ่นที่ควรหอมกลายเป็นเหม็นชวนคลื่นไส้ทันที

แม้แต่ดวงตาของเซียวเสี่ยวหลงเองยังแสดงอาการดูถูกออกมาให้เห็น ร้านปักษาเพลิงนิรันดร์อาจเป็นร้านอันดับหนึ่งในนครหลวง แต่ความสะอาดที่ชั้นหนึ่งนั้นจัดได้ว่าย่ำแย่ เหตุผลหลักก็คือจำนวนลูกค้าที่เข้ามากินอาหารที่ชั้นนี้มีมากเกินไป จนทำให้ทำความสะอาดไม่ทัน

“อาหารมาแล้วขอรับ!” เสียงบริกรที่มีผ้าเช็ดมือสีขาวพาดบ่าอยู่ดังขึ้น ในมือถืออาหารค่อยๆ เดินเข้ามายังโต๊ะของปู้ฟาง

“ท่านลูกค้า นี่ลูกชิ้นตุ๋นตำรับจีนที่สั่งขอรับ!” บริกรยิ้มขณะวางจานลูกชิ้นตุ๋นลงบนโต๊ะของทั้งสี่

สีของลูกชิ้นตุ๋นตำรับจีนในซอสสีแดงนั้นดูสวยงามน่ากิน กลิ่นหอมลอยออกมาพร้อมไอน้ำโชยขึ้นและจางหายไปในอากาศ

“ลูกชิ้นตุ๋นนี่ดูน่ากินใช้ได้!” เซียวเสี่ยวหลงพยักหน้าแล้วมองไปที่จานอาหารบนโต๊ะ

เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาเคาะกับโต๊ะเบาๆ เพื่อให้ตรงเป็นระเบียบ ก่อนคีบลูกชิ้นในซอสสีแดงขึ้นมาหนึ่งลูก

ปู้ฟางเองก็หยิบตะเกียบขึ้นมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เช่นกัน เขาคีบลูกชิ้นขึ้นมาหนึ่งลูกแล้วใส่ลงในชามของตนเอง จากนั้นก็ใช้ตะเกียบจิ้มลูกชิ้นดูเพื่อวัดระดับความแข็ง แล้วยกขึ้นมาใกล้จมูกเพื่อดมกลิ่น

โอวหยางเสี่ยวอี้และเซียวเยียนอวี่ต่างกินลูกชิ้นกันคนละลูกเช่นกัน รสชาตินั้นอร่อยใช้ได้ เนื่องจากเป็นอาหารจานที่ดีติดอันดับสิบของชั้นหนึ่งในร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ แม้รสชาติจะเทียบไม่ได้กับอาหารของปู้ฟาง แต่ก็จัดว่าอร่อยถ้าเทียบกับอาหารธรรมดาทั่วไป

ใบหน้าน่ารักของโอวหยางเสี่ยวอี้แดงเป็นสีเรื่อขณะกินลูกชิ้นหมดภายในไม่กี่คำ สีหน้าดูพึงพอใจ

เซียวเสี่ยวหลงเองก็ดูดริมฝีปากจากนั้นก็ดื่มน้ำตามเข้าไป เขาคีบลูกชิ้นขึ้นมากินอีกลูก ทั้งจานมีอยู่ห้าลูก เขากินเข้าไปสอง

“เถ้าแก่ปู้ ลองกินดูสิ รสชาติลูกชิ้นนี่จัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว ดูเหมือนพ่อครัวแม่ครัวร้านปักษาเพลิงนิรันดร์จะมีความสามารถอยู่เหมือนกัน” เซียวเสี่ยวหลงพูดกับปู้ฟางขณะเคี้ยวลูกชิ้นเต็มปาก

ปู้ฟางไม่พูดอะไร เพียงกัดเข้าไปคำเล็กๆ เท่านั้น ทันทีที่ซอสไหลเข้าปาก รสสัมผัสประหลาดก็สำแดงออกมา ชายหนุ่มเคี้ยวอยู่สองสามครั้ง กลืนลูกชิ้นลงไป แล้วก็วางตะเกียบลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่กินต่อ

ปฏิกิริยาของปู้ฟางทำให้คนทั้งสามที่ร่วมโต๊ะกับเขาหันมามองด้วยสายตาประหลาด

“ซอสของลูกชิ้นตุ๋นเค็มเกินไป เห็นได้ชัดว่าใส่เกลือเกินพอดี ยิ่งไปกว่านั้นน้ำตาลในซอสยังละลายไม่หมด จึงมีรสสัมผัสหยาบประหลาด อาหารรายการลูกชิ้นตุ๋นตำรับจีนนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่าลูกชิ้นสี่สุข ทำมาจากการนำเนื้อไร้ไขมันร้อยละเจ็ดสิบมานวดรวมกับเนื้อที่อุดมด้วยไขมันร้อยละสามสิบปั้นให้เป็นก้อน เนื้อส่วนที่ไร้ไขมันนั้นต้องนำมาบดให้ละเอียดด้วยมือ ส่วนเนื้อส่วนที่มีไขมันจะต้องไม่มันเกินไป การที่ชิ้นเนื้อของลูกชิ้นนั้นติดกันแน่น แปลว่าเนื้อส่วนไร้ไขมันยังบดไม่ละเอียดพอ ตรงกันข้ามกับเนื้อส่วนที่มีไขมันซึ่งมันมากเกินไป จนส่งผลต่อรสชาติของลูกชิ้น จานนี้ข้าให้ศูนย์คะแนน”

ปู้ฟางผ่อนลมหายใจออกเบาๆ แล้วพูดเสียงเรียบ เซียวเสี่ยวหลงและอีกสองคนที่เหลือมองเขาอย่างจนด้วยคำพูด ชายหนุ่มบรรยายความด้อยค่าของลูกชิ้นตุ๋นตำรับจีนเสียยืดยาวจนฟังดูเหมือนเศษขยะในจานอาหารเลยทีเดียว

เซียวเสี่ยวหลงตกใจมากเสียจนทำตะเกียบร่วงจากมือตกลงไปบนโต๊ะ หลังจากที่ฟังการประเมินของปู้ฟาง ลูกชิ้นที่เคยอร่อยก็ไม่อร่อยอีกต่อไป เขาไม่รู้แม้แต่น้อยว่าลูกชิ้นตรงหน้ามีข้อผิดพลาดเยอะถึงเพียงนี้

ก่อนหน้านี้เขายังพออยากอาหารอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ความอยากอาหารนั้นได้มลายหายไปสิ้นแล้ว ชายหนุ่มถุยลูกชิ้นที่เคี้ยวไปครึ่งเดียวกลับลงชามของตน

บางจานนั้นแทบไม่ถูกแตะเลย ส่วนบางจานก็มีร่องรอยการกินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าชิมเพียงครั้งเดียวแล้วก็ไม่ได้กินเพิ่มอีก

นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ร้านปักษาเพลิงนิรันดร์มาก่อน อาหารที่พ่อครัวแม่ครัวร้านนี้ทำมักทำให้ทุกคนยอมสยบเสมอ!

หลังจากที่บริกรนำอาหารจานสุดท้ายของโต๊ะปู้ฟางออกมา เขาก็เดินไปบอกพี่หญิงใหญ่ชุนว่าเกิดเหตุไม่ชอบมาพากลขึ้นที่โต๊ะนั้น ตัวนางเองก็ประหลาดใจเช่นกัน สีหน้าของนางดูเคลือบแคลงขณะนำอาหารจานสุดท้ายไปวางบนโต๊ะของปู้ฟาง

เมื่อพี่หญิงใหญ่ชุนเดินมาถึงโต๊ะ ก็เห็นว่าบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่แทบไม่มีใครแตะ รูม่านตาของนางหดแคบลงเล็กน้อยขณะเอ่ยถาม “ตายแล้ว นายน้อยเซียวเจ้าคะ เหตุใดท่านจึงไม่กินอะไรเลยเล่าเจ้าคะ รสชาติไม่ถูกปากเช่นนั้นหรือ”

ตอนนี้ปู้ฟางอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก การที่เขาไม่ได้กินอาหารอร่อยถูกปากทำให้หน้าตาบูดบึ้งมากขึ้นไปอีก

เซียวเสี่ยวหลงชี้ไปที่ปู้ฟางอย่างจนปัญญา “นายน้อยปู้ท่านนี้บอกว่าอาหารของร้านเจ้า… รสชาติแย่จนกินไม่ได้”

“อะไรกัน นายน้อยเซียวพูดเล่นใช่หรือไม่เจ้าคะ ทุกคนในนครหลวงรู้ดีว่าอาหารของร้านเรายอดเยี่ยมที่สุด แม้ว่านี่จะเป็นเพียงชั้นหนึ่งของร้าน แต่คุณภาพและรสชาติก็เทียบได้กับอาหารจานเด็ดของร้านอาหารใหญ่เจ้าอื่นเลยทีเดียว!” พี่หญิงใหญ่ชุนพูดพร้อมโบกมือรัวๆ

หลังจากที่กินเข้าไปเพียงคำเดียวชายหนุ่มก็วางตะเกียบลงบนโต๊ะ เขาส่ายหน้าแล้วพูดเสียงเรียบ “สำหรับหน่อไม้ผัดกุ้งจานนี้ หน่อไม้ที่เลือกใช้แก่เกินไป บางชิ้นก็ขมเกินและเหนียวจนเคี้ยวยาก นอกจากนี้กุ้งแต่ละตัวยังคุณภาพไม่เสมอกัน บางตัวตอนที่เอามาทำอาหารนั้นยังไม่ตายแต่บางตัวก็ตายแล้ว รสชาติจึงต่างกันจนเกินไป ข้าให้ศูนย์คะแนน”

เมื่อได้ยินคำประเมินของปู้ฟาง พี่หญิงใหญ่ชุนก็มีสีหน้าเหมือนตกอยู่ในภวังค์ นางหงุดหงิดมากเสียจนหน้าอกเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงพลางคิดว่า “ไอ้หน้าผีดิบตายซากนี่มันมาหาเรื่องพวกเราจริงๆ เสียด้วย! กล้าดีอย่างไรมาบอกว่าอาหารจานพิเศษของชั้นหนึ่งรสชาติเลวเกวไร้ค่า! หมอนี่มันเป็นใครถึงกล้ามาวิจารณ์พวกเราเช่นนี้!”

พี่หญิงใหญ่ชุนนวดหน้าอกใหญ่เบิ้มของตนเอง ดวงตามองไปที่ปู้ฟางอย่างเย็นชาพร้อมเอ่ย “ดูเหมือนว่าท่านจะเป็นพ่อครัวเหมือนกันใช่หรือไม่ ในเมื่อเป็นพ่อครัวเหมือนกันก็ควรจะเข้าใจสิ… คิดว่าตนเองเป็นใครกันถึงมาวิจารณ์อาหารของร้านปักษาเพลิงนิรันดร์เช่นนี้!”

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD