ปู้ฟางพันผ้าพันคอเพื่อปกป้องตนเองจากความหนาว แล้วเดินออกจากร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ ทันทีที่ก้าวเท้าออกจากความอบอุ่นภายในตึก ลมเย็นก็พุ่งเข้าปะทะใบหน้า ทำให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน อากาศหนาวเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นกอดอกเดิน
ทว่าแม้อุณหภูมิจะหนาวเหน็บ ตัวปู้ฟางเองกลับรู้สึกตื่นเต้นรุ่มร้อนเป็นพิเศษ เนื่องจากระบบเพิ่งประกาศว่าเขาทำภารกิจสำเร็จ และกำลังจะได้รับรางวัล
พลังปราณเที่ยงแท้เพิ่มอีกร้อยละสิบและสูตรอาหารจากร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ฉบับปรับปรุงนั้น จัดว่าเป็นรางวัลที่เยี่ยมยอดเป็นอันมาก ชายหนุ่มจึงรู้สึกมีความสุขไม่น้อย
เซียวเสี่ยวหลงและคนอื่นๆ เดินตามเขามาจนทัน ทั้งสามเดินอยู่เคียงข้างชายหนุ่ม โอวหยางเสี่ยวอี้และเซียวเสี่ยวหลงคุยกันไม่หยุดปาก และเอ่ยชมความสามารถแสนลึกลับยิ่งใหญ่ของเขา ในการทำให้พ่อครัวแม่ครัวร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ถึงกับพูดไม่ออกผ่านการชิมเพียงคำเดียวเท่านั้น
ใบหน้าสวยไม่มีที่ติยากหาผู้ใดเทียบเทียมของเซียวเยียนอวี่กลับไปซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าคลุมอีกครั้ง นางดูสงบเยือกเย็นและสง่างามยิ่งขณะเดินเคียงข้างพวกเขา
ทั้งสี่เอ่ยคำร่ำลากันเมื่อเดินมาถึงทางเข้าตรอก เซียวเสี่ยวหลงและคนอื่นๆ พากันกลับบ้านของตนเองไป ส่วนปู้ฟางก็เดินเข้าตรอกเพื่อกลับไปที่ร้าน
เจ้าดำนอนหลับเอาพุงติดพื้นอยู่ที่ปากทางเข้าร้าน แม้ปู้ฟางจะกลับมาเรียบร้อยแล้ว แต่มันก็ยังคงนอนอุตุไม่สนใจต่อไป
“ระบบกำลังมอบรางวัลให้นายท่าน นายท่านได้รับพลังปราณเที่ยงแท้เพิ่มร้อยละสิบเรียบร้อยแล้ว บัดนี้ระบบจะสุ่มเลือกรายการอาหารที่นายท่านประเมินไปก่อนหน้านี้” เสียงเรียบเฉยไร้อารมณ์ของระบบดังขึ้นในศีรษะของชายหนุ่ม
ปู้ฟางชะงักด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาหรี่ลง อารมณ์ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ เขาสงสัยขึ้นมาทันทีว่าตนเองจะสุ่มได้อาหารจานใด
แน่นอนว่าซี่โครงขี้เมาเปรี้ยวหวานเป็นอย่างสุดท้ายที่เขาอยากได้ เนื่องจากร้านของเขามีซี่โครงเปรี้ยวหวานสูตรประจำอยู่แล้ว
ชื่ออาหารมากมายวิ่งผ่านเข้ามาในมโนจิตของเขาเรื่อยๆ ระบบกำลังสุ่มสูตรให้นั่นเอง…
ในที่สุดชื่ออาหารเหล่านั้นก็ค่อยๆ วิ่งช้าลงจนหยุดนิ่ง ชื่ออาหารจานใหม่ที่เขาได้รับฉายชัดเจนอยู่ในสมองของปู้ฟาง
“ผัดปูม้าคืออาหารจานที่ถูกเลือก หลังจากที่ปรับปรุงสูตรเรียบร้อย สูตรใหม่สำหรับนายท่านคือผัดปูม้าสยบโลกา”
ปู้ฟางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงกลิ่นหอมหวนชวนน้ำลายสอของผัดปูม้า จนตัวเขาเริ่มน้ำลายไหลออกมาเสียเอง หากเทียบกับการสุ่มได้ซี่โครงขี้เมาเปรี้ยวหวานแล้ว ผัดปูม้าก็จัดว่าเป็นรายการที่ใช้ได้เลยทีเดียว
ด้วยความที่หน้าประตูมีป้ายบอกว่าร้านปิดทำการแขวนอยู่ ลูกค้าหลายคนที่เดินมาถึงร้านด้วยสีหน้าตื่นเต้นก็ต้องพากันกลับไปด้วยใบหน้าหดหู่ ยกตัวอย่างเช่นเจ้าอ้วนจินและผองเพื่อนที่รออยู่สักพัก จนสุดท้ายก็ตัดสินใจกลับไปอย่างขมขื่นในที่สุด หลังจากทำใจได้ว่าร้านปิดจริงๆ ในวันนี้
ลูกค้าคนอื่นๆ ก็เจอสภาพนี้กันถ้วนหน้า
หลังจากที่ปู้ฟางกลับมาถึงร้าน เขาก็ไม่ได้เปิดร้านเนื่องจากสายมากแล้ว ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าลวกๆ แล้วเดินเข้าครัวไปทันทีเพื่อเริ่มทำผัดปูม้าสยบโลกาอาหารจานใหม่
…
ณ ร้านปักษาเพลิงนิรันดร์
เฉียนเป่ากำลังนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้ เอามือหนึ่งเท้าคาง หน้านิ่วคิ้วขมวด ดูเหมือนว่าจะกำลังคิดอะไรอยู่
“นายน้อยปู้เป็นเถ้าแก่ร้านใจไม้ไส้ระกำเช่นนั้นรึ แถมยังมาที่ร้านปักษาเพลงนิรันดร์ของเราและวิพากษ์วิจารณ์อาหารครบทุกจาน คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน เหตุใดจึงกล้ามาดูถูกพวกเราเช่นนี้!” เฉียนเป่ากำหมัดแน่น นิ่วหน้าด้วยโทสะ
ทันใดนั้นเขาก็พลันคลายกำปั้นออกแล้วถอนหายใจ “แต่ว่า จะว่าเช่นนั้นก็เถอะ… เถ้าแก่ปู้เป็นบุรุษที่มีความสามารถยิ่งนัก เพียงกินเข้าไปแค่คำเดียวก็วิเคราะห์บรรยายออกมาได้เป็นฉากๆ ช่างน่ากลัวเสียจริง!”
ก่อนหน้านี้เขาวางแผนว่าจะให้พ่อครัวแม่ครัวที่ร้านท้าปู้ฟางประลอง แต่เมื่อลองดูสถานการณ์แล้ว ถือว่าเป็นโชคดีที่ยังไม่ได้เดินสุ่มสี่สุ่มห้าไปทำเช่นนั้น มิเช่นนั้นมีหวังชื่อเสียงของร้านเขาคงดิ่งลงเหวเป็นแน่ ความแตกต่างด้านความสามารถระหว่างปู้ฟางและพ่อครัวแม่ครัวที่ร้านของเขานั้นมีมากจนเกินไป
กระนั้นเฉียนเป่าเองก็ยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้ทุกอย่างตกอยู่ในสภาพนี้ การกล้ำกลืนฝืนทนยอมข่มอารมณ์โกรธนั้นไม่ใช่วิธีของเขาอย่างสิ้นเชิง
ช้าก่อน! ดวงตาของเฉียนเป่าเป็นประกายเหมือนเพิ่งคิดอะไรบางอย่างได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD