ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 8

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD ตอนที่ 8 อย่าริอ่านทำให้พ่อครัวเทพโกรธ
ตอนที่ 8 อย่าริอ่านทำให้พ่อครัวเทพโกรธ

ข้าวผัดไข่ที่ส่องแสงเจิดจรัส!

รูม่านตาของเซียวเยียนอวี่เปิดกว้างออกอย่างช้าๆ แววตาของนางดูไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น ตอนที่เซียวเสี่ยวหลงเล่าให้นางฟังนั้น นางไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดแม้แต่น้อย เมื่อได้มาเห็นกับตาตนเองแล้ว ภาพตรงหน้าช่างดูเหมือนฝันไป

กลิ่นหอมหวนยังคงหลั่งไหลเข้าสู่ประสาทรับกลิ่นของเซียวเยียนอวี่ กลิ่นนั้นเปรียบเสมือนสัมผัสของคนรักที่ทำให้ร่างทั้งร่างของนางผ่อนคลายลง จิตใจของหญิงสาวปราศจากซึ่งสิ่งรบกวนใดๆ มีความคิดเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นซึ่งก็คือ กิน!

แต่เซียวเยียนอวี่ยังคงมีศักดิ์เป็นถึงเทพธิดาแห่งจักรวรรดิวายุแผ่ว นางต้องรักษาภาพพจน์แม้อยู่เบื้องหน้าอาหารรสเลิศ นางค่อยๆ เปิดผ้าคลุมหน้าของตนออก เผยให้เห็นริมฝีปากอิ่มเต็มสีเรื่อ

หญิงสาวหยิบช้อนกระเบื้องสีฟ้าขาวขึ้นมาตักข้าวผัดไข่เต็มคำ ไข่ข้นที่ยังไม่สุกดียืดเป็นสายตามช้อนที่ถูกยกขึ้นในอากาศ ราวกับเส้นด้ายทองคำส่องประกาย ไออุ่นแผ่ออกจากช้อนกระเบื้องสีฟ้าขาว พร้อมกลิ่นหอมหวนชวนหิวที่ตามกันมาติดๆ

ผิวของเซียวเยียนอวี่ที่ขาวนวลเหมือนเต้าหู้เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อจากไออุ่นนั้น

“พี่หญิง รสชาติของข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงเป็นอย่างไรบ้างหรือ!” เซียวเสี่ยวหลงที่สูดกลิ่นข้าวผัดไข่เข้าไปเต็มๆ อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา ขณะจ้องมองช้อนที่กำลังเข้าปากพี่สาวของตนไป

ช้อนกระเบื้องสีฟ้าขาวสัมผัสฟันของเซียวเยียนอวี่อย่างแผ่วเบา ข้าวทุกเมล็ดร่วงหล่นจากช้อนเข้าสู่ปากนาง เซียวเยียนอวี่หรี่ตาขณะที่รสชาติเข้มข้นพุ่งตรงขึ้นสู่สมอง ราวกับรสของความอร่อยได้ระเบิดออกมาในปากกระนั้น

ต่อมรับรสของเซียวเยียนอวี่ถูกเกาะกุมเอาไว้ด้วยรสชาติของข้าวผัดไข่จนดิ้นหนีไปไหนไม่ได้

“มัน… อร่อย… มาก!”

เซียวเยียนอวี่มีสีหน้าเคลิบเคลิ้มขณะร้องออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา จากนั้นนางก็เลิกสนใจผู้คนรอบกายแล้วเริ่มยัดข้าวผัดไข่ช้อนแล้วช้อนเล่าเข้าปาก ภาพลักษณ์ของนางเป็นอันป่นปี้เรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่ชั่วลมหายใจ

นางไม่เคยกินข้าวผัดไข่ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ด้วยความที่เซียวเยียนอวี่เป็นผู้ฝึกตนระดับสี่ขั้นจิตยุทธการ นางจึงแทบไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสียด้วยซ้ำไป การที่ผู้ฝึกตนระดับนี้รู้สึกหิวขึ้นมาได้เพราะข้าวผัดไข่หนึ่งชามถือเป็นเรื่องที่แทบไม่น่าเกิดขึ้นได้ ข้าวผัดไข่ชามนี้คือข้าวผัดไข่มหัศจรรย์เหมือนที่เซียวเสี่ยวหลงพูดไว้ไม่มีผิด!

โครก!

เมื่อเซียวเสี่ยวหลงเห็นเซียวเยียนอวี่ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวผัดไข่โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนเองอีกต่อไป เขาก็ไม่ได้หัวเราะออกมาแต่อย่างใด ชายหนุ่มมองพี่สาวของตนด้วยแววตาอิจฉา ท้องของเขาถึงกับร้องออกมาโครกหนึ่ง

ซุนฉีเซี่ยงหมดคำจะพูดเมื่อเห็นเทพธิดาในฝันของตนกำลังตั้งหน้าตั้งตากินข้าวโดยไม่สนใจใคร เขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าเหตุใดนางจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

“กับอีแค่ข้าวผัดไข่ชามเดียว… ต้องตะกละตระกลามขนาดนี้เชียวรึ!

“ถึงไอ้ข้าวผัดไข่นี่… จะหอมมากก็เถอะ แต่เจ้าก็ยังเป็นถึงเทพธิดา ไม่ต้องโยนภาพลักษณ์อันสวยงามทิ้งไปแค่เพราะข้าวผัดไข่ชามเดียวจะได้ไหม!”

“เถ้าแก่! ข้าวผัดไข่ของข้าเล่า! รีบเอามาเสียที! เร็วเข้าสิ!”

แม้ซุนฉีเซี่ยงจะคิดเช่นนั้น แต่เขากลับอยากรู้เรื่องข้าวผัดไข่นี่มากขึ้นไปอีก ชายหนุ่มงับพัดกระดาษในมือตนเองให้ปิดลง ก่อนเหล่มองไปด้านข้าง ซุนฉีเซี่ยงตะโกนใส่ปู้ฟางที่กำลังยิ้มขณะมองเซียวเยียนอวี่กิน

ปู้ฟางเลิกคิ้วขึ้น แล้วหันไปมองซุนฉีเซี่ยงด้วยสายตาไร้ความรู้สึก ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร แต่หันหลังกลับเข้าครัวไปแทน

“เร็วเข้า! หากข้าไม่ได้กินข้าวผัดไข่ของเจ้าภายในครึ่งของครึ่งเค่อ ข้าจะพังไอ้ร้านรูหนูนี่ให้เหี้ยน!” ซุนฉีเซี่ยงพูดอย่างยโส

ปู้ฟางเดินเข้าครัวหน้าตาย แล้วหยิบเอาถุงแป้งออกมาจากตู้เย็น

เขาจะเริ่มทำข้าวผัดไข่เช่นนั้นรึ ผิดแล้ว… ซุนฉีเซี่ยงกล้ามาข่มขู่พ่อครัวอย่างเขา หมอนี่จึงสมควรต้องทนหิวต่อไปอีกสักพัก อีกไม่นานซุนฉีเซี่ยงก็คงเข้าใจเองว่าชะตากรรมของพวกที่ชอบทำให้พ่อครัวโกรธนั้นเป็นอย่างไร และยิ่งเป็นพ่อครัวที่ชอบคิดเล็กคิดน้อยด้วยละก็

บะหมี่แห้งคลุกนั้นความจริงแล้วเป็นอาหารที่เรียบง่าย มันเป็นเพียงเส้นบะหมี่ที่นำมาคลุกเครื่องปรุงเท่านั้น

แต่ปู้ฟางเลือกทำเส้นสดด้วยตนเอง รสชาติของเส้นจากฝีมือของชายหนุ่มจัดว่าพิเศษด้วยทักษะการนวดเส้นชนิดเหนือชั้น

ด้วยความที่ปู้ฟางฝึกทำเส้นสดมานับครั้งไม่ถ้วน การเริ่มทำบะหมี่แห้งคลุกจากแป้งเปล่าจึงใช้เวลาเพียงค่อนเค่อเท่านั้น กระบวนการนวดแป้งของเขาเรียกได้ว่าน่าดูชมยิ่งนัก ราวกับว่ามือทั้งสองข้างได้หายวับไปเป็นภาพติดตาขณะที่กำลังนวดคลึงแป้งบะหมี่อย่างไรอย่างนั้น

หลังจากที่นวดแป้งเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เริ่มดึงเส้นออกให้ยาวสยายด้วยแรงระดับปานกลาง จากนั้นก็โรยแป้งเล็กน้อยลงบนบะหมี่เส้นเรียวเล็ก แล้วนำไปต้มในน้ำร้อนหนึ่งครั้ง

น้ำที่ใช้ต้มเส้นก็ไม่ใช่น้ำธรรมดาเช่นกัน น้ำนั้นใสสะอาดบริสุทธิ์ไม่มีที่ติ กระทั่งไอน้ำที่ระเหยออกมายังมีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ

ระหว่างที่กำลังรอต้มเส้นอยู่นั้น ปู้ฟางก็เริ่มทำเครื่องปรุงรส เขาตวงเกลือ ซีอิ๊ว และผงชูรสใส่ในชามกระเบื้องสีฟ้าขาว แล้วเทน้ำร้อนราดลงไป จากนั้นก็ยกเส้นก๋วยเตี๋ยวขึ้นจากน้ำร้อนแล้วใส่ลงไปในชามเดียวกัน ชายหนุ่มนำตะเกียบไม้ไผ่มาคนจนสีเข้มของซีอิ๊วซึมซาบเข้าไปในเส้นก๋วยเตี๋ยวใสแจ๋วอย่างสมบูรณ์แบบ

เพียงเท่านี้บะหมี่แห้งคลุกก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ไม่มีน้ำแกง ไม่มีไข่ ไม่มีแม้กระทั่งผัก อาหารชามนี้เป็นเพียงเส้นบะหมี่แห้งคลุกเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD