ทะลุมิติมาป่วนหัวใจ ท่านอ๋องจอมหึง นิยาย บท 1

แคว้นเป่ยปีที่สิบเจ็ด ณ เมืองหลวง

เสียงฟ้าร้องเปรี้ยงปร้างดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว พายุลมพัดกระโชกอย่างรุนแรง ทั่วทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำ

ณ จวนท่านแม่ทัพ

ซูหนิงซีถูกปลุกจากฝันร้าย นางลุกพรวดขึ้นด้วยความตกใจหยาดเหงื่อผุดพรายขึ้นทั่วทั้งร่าง นางกวาดสายตามองรอบๆห้องด้วยสายตาพร่ามัว

ในยามนี้ก็พลบค่ำแล้ว ทว่า ภายในห้องกลับไร้ซึ่งแสงไฟใดๆ

เบื้องหน้านางเป็นภาพที่ขมุกขมัวแต่กลับมองเห็น เครื่องเรือนโบราณที่อยู่ภายในห้อง

ในตอนนี้ได้ยินเพียงเสียงประตูที่ถูกเปิดออก และเห็นเพียงแค่สาวใช้ที่สวมชุดสีเขียวนางหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความเร่งรีบ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาว่า “ตื่นแล้วหรือเจ้าคะคุณหนู”

ทันใดนั้นซูหนิงซีก็ขมวดคิ้วขึ้น

นี่นางทะลุมิติมาเหรอ

ความรู้สึกหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของนาง ทำให้นึกถึงเรื่องราวที่ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดใจ ซูหนิงซีเม้มริมฝีปากเล็กน้อย และกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “หลิ่วเอ๋อร์เหรอ”

“เจ้าค่ะ คุณหนูรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยังเจ้าคะ”

หลิ่วเอ๋อร์ขานรับและเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่กล้ำกลืน ทำให้ซูหนิงซีเกิดความไม่สบายใจขึ้น “คุณหนูเจ้าคะ ข้าน้อยได้ยินมาว่าองค์รัชทายาทเสด็จมาที่จวน แต่ไม่ได้มาเยี่ยมคุณหนู แต่กลับเสด็จไปที่เรือนคุณหนูสาม”

เดิมทีซูหนิงซีนั้นเป็นคู่หมั้นขององค์รัชทายาทไป๋หลีเหิง เพียงแค่รอเวลาถึงเดือนเก้า อายุของซูหนิงซีก็จะครบสิบเจ็ดปีและเมื่อถึงตอนนั้นก็สามารถเข้าพิธีอภิเษกสมรสได้

ทว่า ไป๋หลีเหิงนั้นไม่ยินยอมที่จะอภิเษกกับนาง วันครบรอบพระชนมายุหกสิบชันษาขององค์ไทเฮาในเมื่อวาน เขาได้ประกาศยกเลิกการอภิเษกต่อหน้าทุกคน

ซูหนิงซีรู้สึกอับอายขายหน้าไม่กล้าพบหน้าผู้ใด นางจึงคิดสั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย

หลังจากที่ได้ช่วยชีวิตขึ้นมา นางก็หมดสติหลับใหลไปเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน

ซูหนิงซีนวดขมับเล็กน้อย จากนั้นยื่นมือไปที่หลิ่วเอ๋อร์พลางกล่าวว่า “พาข้าไปพบเขาหน่อย”

“แต่ว่าคุณหนูเจ้าคะ เดิมทีองค์รัชทายาทก็ไม่อยากพบหน้าคุณหนู หากคุณหนูไปตอนนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้องค์รัชทายาทกริ้วโกรธ แต่เกรงว่าจะทำให้นายท่านและฮูหยินไม่พอใจอีกด้วยนะเจ้าคะ”

หลิ่วเอ๋อร์กล่าวโน้มน้าว

หลิ่วเอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่ติดตามซูหนิงซีมาเป็นเวลาสิบกว่าปี จงรักภักดีต่อนาง และมักจะคิดเพื่อนางมาโดยเสมอ

ซูหนิงซียิ้มเล็กน้อย “เจ้าวางใจเถอะ ข้ามีแผนการอยู่แล้ว”

สวนป่าไผ่ของซูหนิงซีอยู่ทางเหนือสุดของจวนท่านแม่ทัพ ต้องผ่านสวนหย่งเหมยที่เป็นที่พักของซูหนิงซานก่อน จึงจะถึงห้องโถงใหญ่

อากาศในตอนนี้ไม่ค่อยจะดีนัก ภายในจวนท่านแม่ทัพสว่างไสว่ไปด้วยไฟที่ถูกจุดขึ้น

ในขณะที่ผ่านสวนหย่งเหมย บริเวณรอบๆไร้เงาผู้คน แม้แต่สาวใช้ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกก็ไม่มี

นางได้ยินเสียงคลุมเครือดังออกมาจากภายในห้องและอดที่จะยิ้มเยาะไม่ได้ จุดประสงค์ที่ไป๋หลีเหิงมาในคืนนี้ต้องมาพบซูหนิงซานเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน

ฮึ! ผู้หนึ่งคือคู่หมั้นที่ปฏิเสธการแต่งงานกับนางส่วนอีกผู้หนึ่งคือน้องสาวต่างมารดาของนาง

นางจึงนึกขึ้นได้ถึงเรื่องราวเมื่อวานที่นางคิดสั้นกระโดดลงไปในแม่น้ำยู่เหอเพื่อหลีกหนีออกจากโลกที่โหดร้าย เหตุเพราะไป๋หลีเหิงและซูหนิงซานร่วมกันบีบบังคับงั้นหรือ

การแต่งงานระหว่างนางกับไป๋หลีเหิงนั้นได้ถูกหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่ยังวัยเยาว์ ไป๋หลีเหิงไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับนาง แต่ฮ่องเต้ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกงานอภิเษก ด้วยเหตุว่าเขารู้สึกละอายใจต่อมารดาของซูหนิงซี เพราะเหตุนั้นไป๋หลีเหิงและซูหนิงซานจึงคิดตั้งใจที่จะฆ่านาง

ร่างกายอันอ่อนนุ่มนี้ ในเวลานี้นางได้ครอบครองร่างนี้แล้ว นางจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายไปอย่างแน่นอน

ซูหนิงซีได้พูดกระซิบกับหลิ่วเอ๋อร์สองสามประโยค และเมื่อเห็นหลิ่วเอ๋อร์ออกไปทางประตูด้านหลัง นางก็มุ่งหน้าออกไปยังลานเรือน

วันนี้ซูหงเหว่ยกลับมาเร็ว ในขณะที่เขาและนางเฉียวกำลังพูดถึงเรื่องซูหนิงซานกับไป๋หลีเหิง พวกเขาทั้งสองกำลังมีความสุขกับภาระกิจที่ได้สำเร็จลุล่วง ราวกับว่าพวกเขาลืมไปว่าคนที่เป็นคู่หมั้นของไป๋หลีเหิงนั้นคือซูหนิงซี

เมื่อเขาเห็นซูหนิงซีเดินมา ซูหงเหว่ยรีบปิดปากตัวเองด้วยความอับอาย

อย่างไรก็ตามซูหนิงซีกลับแกล้งเป็นมองไม่เห็น ย่างเท้าเข้ามาอย่างเร่งรีบและพูดกับซูหงเหว่ยด้วยแววตาที่เป็นกังวล “ท่านพ่อ เมื่อครู่ข้าเดินผ่านเรือนของน้องสาม ดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากข้างใน เหมือนจะเป็นเสียงของน้องสามที่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

“ท่านพ่อไปดูนางเถอะเจ้าค่ะ”

ซูหงเหว่ยและนางเฉียวมองหน้ากันแล้วพูดว่า “หนิงซี เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร ร่างกายของเจ้าดีขึ้นแล้วหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาป่วนหัวใจ ท่านอ๋องจอมหึง