มีคนบอกว่าเห็นองค์รัชทายาทกับคุณหนูสามจวนสกุลซูพลอดรักกัน บ้างก็บอกว่าความรักระหว่างองค์รัชทายาทกับคุณหนูสามจวนสกุลซูนั้นร้อนแรงเหลือเกิน ครั้นคุณหนูสามจวนสกุลซูบาดเจ็บ พระองค์ได้เชิญท่านหมอให้มารักษาที่จวน
อย่างไรเสีย เรื่องเล่าล้วนมีมูลเหตุทั้งนั้น จะให้ไม่เชื่อก็คงยาก
แต่ทว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์ จึงไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยถึงอย่างเปิดเผย
ว่ากันว่าผู้ติดตามที่มายังจวนสกุลซูกับท่านหมอนั้น ด้วยท่านหมอเกรงว่าจะสร้างปัญหาในภายหลัง จึงให้หนีออกจากเมืองหลวงไปภายในคืนนั้นเลย
เดิมทีเรื่องซูหนิงซีคิดฆ่าตัวตาย ฝ่าบาทได้สั่งให้ปิดเรื่องนี้ไว้ แต่พอเรื่องของไป๋หลีเหิงและซูหนิงซานหลุดออกมา เรื่องที่ว่าซูหนิงซีถูกความสัมพันธ์ของทั้งสองบีบให้คิดสั้นนั้นก็ไม่รู้ว่าหลุดออกมาด้วยได้อย่างไร
ณ จวนท่านแม่ทัพ
ท่าทีของซูหงเหว่ยดูเคร่งขรึม แต่นางเฉียวและซูหนิงซานกลับดูภาคภูมิใจเหลือเกิน
“นายท่าน ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนปล่อยข่าวออกไป แต่กลับเป็นผลดีต่อเรานะเจ้าคะ”
นางเฉียวยิ้มพลางมองไปยังซูหงเหว่ย“เดิมทีฝ่าบาทลังเลใจที่จะยกเลิกการอภิเษกขององค์รัชทายาทและคุณหนูใหญ่ ด้วยเห็นแก่ฮูหยินคนก่อน แต่เพราะองค์รัชทายาททรงพอพระทัยในซานเอ๋อร์ของเรา อีกไม่นานคงได้ยกเลิกการแต่งงานเป็นแน่”
“ฮูหยิน”ที่นางกล่าว คือฮูหยินที่แต่งงานกับซูหงเหว่ยตามธรรมเนียม ฮูหยินผู้ล่วงลับซึ่งเป็นมารดาของซูหนิงซี
นางเฉียว แต่งงานกับซูหงเหว่ยหลังจากที่ฮูหยินซูคนก่อนจากไป
“ข้าเกรงว่าหนิงซีจะรับไม่ไหว”
ซูหงเหว่ยกล่าวด้วยความลังเลใจ
เมื่อสองวันก่อนเนื่องจากไป๋หลี่เหิงปฏิเสธการอภิเษก นางจึงคิดกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย หากการแต่งงานถูกยกเลิกเข้าอีก นางจะไม่คิดฆ่าตัวตายอีกหรือ
“นายท่านจะกลัวอะไร?นังเด็กสารเลวนี่ดวงแข็งขนาดไหน กระโดดลงไปในน้ำยังรอดมาได้ แค่หมดสติไปวันเดียวก็ลุกขึ้นมาร่าเริงแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเราก็ไม่ต้องบอกความจริงนาง แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวว่านางจะก่อเรื่องแล้ว”
นางเฉียวกล่าว
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น พ่อบ้านก็รีบวิ่งมาแจ้ง“นายท่าน องค์รัชทายาทมาถึงแล้ว”
ซูหนิงซานลุกขึ้นดีใจ “เหิงเกอเกอ[1]จะต้องมาเพื่อแจ้งเป็นแน่ ว่าฝ่าบาททรงยกเลิกการแต่งงานแล้ว!”
ยังไม่ทันได้ดีใจเท่าไหร่ เมื่อพ่อบ้านได้ยินจึงรีบกล่าวว่า“แต่ว่า เซ่อเจิ้งอ๋อง[2]มาด้วยขอรับ!”
พ่อบ้านรีบก้มหัวลงด้วยความกลัว
“อะไรนะ?!”
ซูหงเหว่ยขมวดคิ้ว นางเฉียวเองก็รู้สึกกังวล “เซ่อเจิ้งอ๋องกับเราไม่เคยข้องเกี่ยวกัน ครั้งนี้มาด้วยเหตุอันใด?”
ทันทีที่พูดจบ เซ่อเจิ้งอ๋องไป๋หลี่จิ่นเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เบื้องหลังตามมาด้วยไป๋หลี่เหิงที่มีทีท่ามัวหมอง
“คารวะเซ่อเจิ้งอ๋อง……”
ซูหงเหว่ยรีบพานางเฉียว บุตรี รวมถึงบ่าวรับใช้รีบมาคารวะไป๋หลี่จี่น
ไป๋หลี่จิ่นเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา ก่อนนั่งลง “ลุกขึ้นเถิด”
ซูหงเหว่ยไม่แน่ใจถึงการมาครั้งนี้ของไป๋หลี่จิ่น จึงส่งสัญญาณให้ซูหนิงซานไปถามไป๋หลี่เหิง
ในขณะนั้น ไป๋หลี่เหิงที่กำลังก้มหน้าด้วยความขุ่นเคือง จะเห็นถึงการขยับเขยื่อนของซูหนิงซานได้อย่างไร
แต่เด็กจนโต ผู้ที่เขาเกรงกลัวที่สุดก็คือเซ่อเจิ้งอ๋องท่านอาเจ็ดนั่นเอง
ฝ่าบาทองค์ก่อนมีบุตรทั้งหมดเก้าพระองค์ องค์ชายใหญ่และอ๋องเจ็ดเป็นบุตรของหวงโฮ่วองค์ก่อน ด้วยสองพี่น้องอายุต่างกันเป็นอย่างมาก ฝ่าบาทองค์ปัจจุบันทรงดูแลและวางใจในตัวอ๋องเจ็ดเป็นอย่างมาก ไป๋หลี่เหิงเคยแอบคิดในใจว่าฝ่าบาททรงเห็นไป๋หลี่จิ่นเป็นบุตรอีกคน
ด้วยลำดับความสำคัญ บุตรชายแท้ๆคนนี้ยังห่างไกลนัก
ไป๋หลี่จิ่นอายุห่างจากเขาเพียงสิบปี แต่ทุกครั้งที่เห็น ไป๋หลี่เหิงมักรู้สึกกดดันเสมอ และนั่นมักทำให้เขาประหม่า
ไม่แปลกใจที่ไป๋หลี่เหิงจะไม่ทะเยอทะยาน ผู้แข็งแกร่งในสนามรบอย่างซูหงเหว่ยนั้น เมื่อเผชิญหน้าไป๋หลี่จิ่นยังต้องประหม่าจนเหงื่อตก
ไม่ต้องเอ่ยถึงนางเฉียวและคนอื่นๆ ที่ประหม่าจนเหงื่อตกกันไปหมดแล้ว
ไป๋หลี่เหิงอดทนต่อไปไม่ไหว อยากจะปกป้องซูหนิงซานและนางเฉียว จึงรีบกล่าวว่า “เสด็จอาเจ็ด ข้ากับซูหนิงซียังไม่ได้แต่งงานกัน จะนับว่านางเป็นพระชายาได้อย่างไร?เสด็จอาเจ็ดลงโทษเช่นนี้หนักเกินไปแล้ว”
“องค์รัชทายาท นี่เจ้ากำลังสงสัยในการตัดสินใจของข้าหรือ?”
ทุกคนในที่นั้นต่างได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจของไป๋หลี่จิ่น ความกดดันปกคลุมไปทั่วพื้นที่ สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ต่างทำให้รับรู้ได้ถึงความตึงเครียดที่มาถึง
ทุกคนต่างไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก เกรงว่าจะกลายเป็นหาเรื่องเข้าตัว
ภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วง ไป๋หลี่เหิงประหม่าจนเหงื่อท่วมกาย เขากัดฟันตอบกลับไปว่า“หลานมิบังอาจ”
“งั้นยังจะรออะไรอยู่?ทหาร ลงโทษ!”
ไป๋หลี่จิ่นโบกมือหนึ่งครั้ง เฮยเย่าผู้อยู่เบื้องหลังก้าวออกมา เอ่ยต่อนางเฉียวด้วยความสุภาพ“ฮูหยินซู ล่วงเกินแล้ว”
มือของเฮยเย่าที่ผ่านการฝึกวรยุทธมานั้น หากว่าให้มาตบปาก เมื่อตบครบยี่สิบครั้ง หน้าของนางเฉียวเกรงว่าจะไม่ได้กลายเป็นแค่เพียงหัวหมูเท่านั้น แต่จะกลายเป็นถูกตบจนตายแทนเสียมากกว่า
ซูหงเหว่ยไม่รู้ว่านางเฉียวไปล่วงเกินอะไรท่านอ๋อง แต่เวลานี้สำคัญที่สุดคือรีบร้องขอความเมตตา
“ท่านอ๋องโปรดอภัยโทษ!ฮูหยินช่างโง๋เขลา!ขอท่านอ๋องทรงอนุญาตให้ข้าได้เป็นคนลงมือเองด้วยเถิด ให้ผู้หญิงโง่เง่านี่ได้จดจำเอาไว้”
ไป๋หลี่จิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่มิได้ปฏิเสธ “ได้”
เมื่อเห็นซูหงเหว่ยเดินเข้ามาทีละก้าว นางเฉียวตื่นตระหนกจนหน้าซีด อ้อนวอนร้องขอความเมตตา “นายท่าน!ข้าผิดไปแล้ว นายท่าน!”
เชิงอรรถ
[1] เกอเกอ ใช้เรียกผู้ชายที่มีอายุมากกว่า
[2] เซ่อเจิ้งอ๋อง หรือเซ่อเจิ้งหวัง คือองค์ชายผู้มีหน้าที่สำเร็จราชการแทนหรือช่วยบริหารบ้านเมืองแทนกษัตริย์
[3] หมาป่าหางโต เป็นสำนวน หมายถึงหมาป่าอวดหาง เพราะกลัวคนอื่นจะมองข้ามหรือมองไม่เห็นตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาป่วนหัวใจ ท่านอ๋องจอมหึง
ไม่อัพต่อหรือคะ...
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ...