พิยะตาแอบมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ไม่ไกล เธอแอบอมยิ้มให้กับการแสดงออกของอา ยิ่งได้ยินน้ำเสียงสั่นเครือต่อว่าชายหนุ่มเธอก็รับรู้ว่าหัวใจสองสีของดนุพรมีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่ครอบครอง แต่ยิ่งคิดก็นึกสงสารชะตากรรมที่ลิขิตให้เกิดมามีเพศเดียวกัน ครั้นถ้าตกลงปลงใจไปแล้วสังคมชั้นสูงของคนหนุ่มไม่ยอมรับปัญหาไม่รู้จบก็จะตามมา หญิงสาวสลดลงด้วยความเห็นใจดนุพร
“มายืนอยู่ตรงนี้นี่เอง”
“คุณธีร์...มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะพิตต้าไม่ทันได้มอง”
“คงเพราะฉันไม่ใช่คนสำคัญของเธอน่ะสิ...เธอเลยมองไม่เห็นฉัน” ใบหน้าคนหนุ่มแสร้งทำน้อยใจหันมองทางอื่นพร้อมถอนหายใจ
“เอ...ที่น้อยใจเนี่ยเพราะพิตต้าหรือใครกันนะ” พิยะตาหยอกล้อหวังจะให้เขาหายหงุดหงิด แต่ใบหน้านั้นกลับบึ้งตึงมากขึ้น
“ดึกแล้วฉันอยากกลับบ้าน”
“แต่ร้านยังไม่ปิดเลยนะคะ”
“กลับก่อนซักวันคงไม่เป็นอะไรมั้ง...ไหนๆ ก็มีอาของเธอคอยดูแลอยู่ทั้งคน”
“แต่” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อ ชายหนุ่มก็หันมาจ้องมองใบหน้าสวยราวกับจะอ้อนวอนขอร้องเธอ
“ก็ได้ค่ะ...กลับก็กลับ” หญิงสาวก้าวขาจะเดินออกมือหนารีบคว้าข้อมือเล็กเอาไว้
“อะไรคะ”
“ถ้าเธอไปชุดนี้คงไม่ถึงบ้านแน่ๆ พิตต้า” พิยะตาก้มมองตัวเองแล้วก็ต้องหน้าแดงระเรื่อ เธอยกฝ่ามือทาบหน้าอกอูมเอาไว้ด้วยความอาย ยิ่งเขากลั่นแกล้งมองแทะโลมหน้าสวยเกือบจะกลายเป็นลูกแอปเปิ้ล
“อย่ามองสิคะ”
“อ้าวเธอตั้งใจจะให้คนมองไม่ใช่เหรอ...ดูสิแต่งตัวไม่ได้ปรึกษาใคร ขออนุญาตฉันหรือยัง”
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวมุ่ยหน้ารับผิด
“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพิตต้าไปเปลี่ยนชุดก่อน”
“ฉันรอที่รถแล้วกัน...อ่อ อย่าช้าล่ะ”
“ไม่ช้าค่ะ แวะไปบอกอาโด่งแป๊บนึงเอง”
“ไม่จำเป็นต้องบอก เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ไปหาฉันที่รถเลย” เสียงดุทำให้เธอเบ้ปากก่อนจะหันเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว
“อุ๊ย” เพียงแค่เธอหันหลังปิดประตูห้อง ร่างของใครอีกคนก็เข้ามาประชิดตัวเธอ
“ตกใจมากเหรอครับ”
“คุณวุฒิ”
“ผมขอโทษครับไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณตกใจ” สีหน้าเศร้าของเขาทำให้หญิงสาวโกรธไม่ลง
“ทำไมมาอยู่ในห้องนี้ล่ะคะ ไม่ออกไปนั่งข้างนอก”
“คือ ผมไม่อยากให้ใครเห็น”
“มีเรื่องอะไรม่สบายใจคะ”
“คุณพิตต้าครับ...ได้โปรดเถอะนะครับ ให้ผมได้ช่วยคุณเถอะช่วยปลดหนี้ของคุณนะครับ” ความต้องกรของเขาไหลออกมาจนหญิงสาวตกใจได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ถูก วราวุฒิเขย่าไหล่หญิงสาวให้เธอรับรู้คำพูดของเขา
“คุณพิตต้าครับ ผมอยากช่วยคุณจริงๆ ผมรักคุณ” ดวงตาสวยที่คลอไปด้วยน้ำตามองใบหน้าคม เธอเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะปลดมือเขาออก
“ขอบคุณนะคะที่คุณรู้สึกดีๆกับพิตต้า แต่อย่าทำแบบนี้ดีกว่าค่ะ”
“ทำไม คุณกลัวอะไรครับ”
“พิตต้าไม่อยากให้คุณเดือดร้อนค่ะ...เรื่องนี้มันมีทางออกของมันแล้ว”
“หมายความว่าคุณจะไม่ยอมให้ผมช่วย”
“ค่ะ ขอบคุณจริงๆ นะคะ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันดีกว่า” ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่มือที่สั่นกุมมือเล็กเอาไว้
“อย่าพึ่งปฏิเสธครับ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือเมื่อไหร่บอกผมได้ทุกเมื่อนะครับ” พิยะตาโล่งใจขึ้นที่เขาไม่โวยวายและโกรธเคือง หญิงสาวส่งยิ้มให้ก่อนที่เขาจะเดินออกไป
“เฮ้อ พิตต้าขอโทษจริงๆ ค่ะคุณวุฒิ ไม่อยากให้คุณเดือดร้อนปวดหัวกับเรื่องของพิตต้าจริงๆ” ร่างเล็กคอตกเมื่อรับรู้ว่าเธอสร้างความวุ่นวายให้ผู้ชายอีกคนเสียแล้ว และเขาก็แสนดีกับเธอจนทำหญิงสาวรู้สึกหนักใจ
ใกล้ถึงวันวิวาห์เข้ามาทุกที ดูเหมือนหนุ่มสาวจะกลัดกลุ้มระคนกังวลใจไม่น้อยไปกว่ากัน ช่วงนี้ชายหนุ่มอีกคนก็ห่างหายออกจากคฤหาสน์สินสาโรจน์ไป เขาไม่ได้แวะเวียนไปทำงานทีบาร์เสียด้วยซ้ำ เดือดร้อนหัวใจของหญิงสาวที่กำลังเดินวนเวียนอยู่หน้าเตียงนอนหลังใหญ่ บทจะบอกว่าไม่สนใจแต่หญิงสาวก็ต้องแพ้ความรู้สึกข้างในที่เป็นห่วงเขาสาระพัด
“เป็นอะไรไปพิตต้า” ธีร์เอ่ยถามเมื่อเขาเดินเข้ามายืนมองร่างบางอยู่ครู่หนึ่งแล้ว
“อุ๊ย คุณธีร์ อะ เอ่อ” หญิงสาวหลบสายตาคิดหาคำตอบที่ดีพอจะให้เขาเชื่อ แต่สายตาเขาที่มองเธอนั้นราวกับจับพิรุทคนทำผิดอยู่
“หวังว่าเธอคงไม่ได้คิดถึงคนอื่นอยู่หรอกนะ”
“อะ เอ่อ คะ คิดถึงใครกันคะ” เสียงตะกุกตะกัก ยิ่งทำให้เขาขมวดคิ้วหนาอย่างสงสัย
“แล้วเธอคิดถึงใครกันล่ะ”
“ไม่มีค่ะ...พิตต้าแค่ตื่นเต้นกับงานแต่งของเราไงคะ”
“เฮ้อ งั้นเหรอ เธอรู้ไหมว่ามันเป็นคำตอบที่ฉันไม่มีวันเชื่อ”
“คุณธีร์” พิยะตารีบเข้าไปเกาะแขนชายหนุ่มทันที เธอไม่รู้ว่าคำพูดนั้นทำให้เขาไม่พอใจ ใบหน้าสวยหันมองจับจ้องดวงตาเป็นประกายเกาะสายตาเขาไม่ให้หันหนี
“ช่างเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม