หลังจากนั่งชะเง้อมองรอคอยใครบางคนมากว่าสัปดาห์ เจ้าของบ้านผิดสังเกตยิ่งเห็นหญิงสาวไม่สบายใจข้าวปลาอาหารก็ทานอย่างกับแมวดม ชายหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจแต่เขาก็ต้องแสร้งทำเป็นเฉย แสดงออกแค่ความห่วงใยเล็กๆ น้อยๆ
“พิตต้า”
“คะ คุณธีร์”
“ไม่ออกไปไหนเหรอ”
“ไม่ค่ะ พิตต้าเบื่อๆ ไม่อยากไปไหน”
“เฮ้อ อยู่บ้านไม่น่าเบื่อกว่าเหรอ ไปหาเพื่อนๆ บ้างก็ได้ฉันไม่ว่าหรอก”
“คุณธีร์มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ฉันก็แค่เห็นหนูนั่งถอนหายใจอย่างกับรอใครอยู่หลายวันแล้ว ไม่แน่นะออกไปข้างนอกเผื่อจะเจอคนที่รอคอยก็ได้” พิยะตามองหน้าคนพูด ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้ากลบเกลื่อนความไม่สบายใจ
“ไม่ได้รอใครซักหน่อยค่ะ...ออกไปข้างนอกมีแต่รถติดน่าเบื่อจะตาย”
“งั้นก็ตามใจ...วันนี้ฉันก็ไม่ได้ไปไหนซะด้วย...ทำอะไรดีล่ะ” ใบหน้าเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นทับความสวยของคนสาว เธอหันมองไปยังห้องนั่งเล่นก่อนจะหันกลับมายิ้มให้ชายหนุ่ม เขาเองก็รู้ทันว่าหญิงสาวต้องการให้เขานั้นเล่นเกมส์กับเธอ ยิ่งมองใบหน้าแดงระเรื่อเขาก็ยิ่งมีความสุขในฐานะที่เป็นผู้ปกครองของเธอ
“คราวนี้รับรองว่าคุณธีร์แพ้ราบคาบแน่ๆ ค่ะ”
“อย่าเพิ่งประมาทคู่ต่อสู้สิจ๊ะ ฉันก็มีฝีมือเหมือนกันนะเรื่องนี้” จอโทรทัศน์ฉายภาพเกมส์รถแข่งที่ทั้งสองกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะขบขันดังสะท้อนอยู่ในห้องกระจกจนแม่บ้านที่นำอาหารว่างเข้ามาเสิร์ฟต้องพลอยยิ้มให้กับความน่ารักของหญิงสาว เธอสร้างสีสันความอบอุ่นสนุกสนานให้คฤหาสน์สินสาโรจน์ไม่น้อย ยิ่งเจ้าบ้านที่วันๆ เอาแต่ทำงานไม่ค่อยได้มีเวลาพักผ่อนจะพูดจากับคนในบ้านยังได้เพียงถามถ่ทุกข์สุขเท่านั้น แต่ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาที่เปื้อนริ้วรอยเล็กน้อย หัวเราะชอบใจมีความสุขกับสิ่งที่เขากำลังทำ
“โอ๊ย แพ้ ไม่จริงคุณธีร์เล่นขี้โกงแน่ๆ ค่ะ” หญิงสาวโวยวายเง้างอนเมื่อตัวเองพลาดพลั้งเล่นเกมส์พ่ายคนหนุ่ม
“อะไรกัน ฉันเพิ่งชนะตาเดียว และตาแรกด้วยนะ”
“โธ่ก็พิตต้าสู้เต็มทีเลยนี่คะ จะแพ้ได้ยังไง” หน้าสวยบูดบึ้ง เธอดึงหมอนอิงเข้ามาโอบกอดแล้วทุบมันเบาๆ
“โอเคๆ เล่นใหม่อีกรอบก็ได้ ฉันจะไม่ยอมชนะ”
“อ้าวพูดแบบนี้ว่าพิตต้าพาลเหรอคะ”
“เปล่าซะหน่อย...ไม่ได้พูดซักคำ จริงไหมป้า” ธีร์รีบหาตัวช่วย เขาหันไปขยิบตาให้แม่บ้าน นางได้แต่อึกอักทำอะไรไม่ถูกไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน
“อะ จะ จริงค่ะ”
“ป้าเงียบไปเลย ไม่ต้องเข้าข้างคุณธีร์หรอก”
“อ้าวก็ป้าเห็นนี่คะ ว่าคุณธีร์ยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
“ไม่เอาแล้วพิตต้าไม่เล่นเกมส์นี้แล้ว”
“แล้วคนเกเรจะทำอะไรล่ะ” ธีร์ล้อเลียนเสียงเง้างอนของเธอ
“อ๊าย ว่าพิตต้าเกเรเหรอคะ...ไม่ได้เกเรซะหน่อยแค่ไม่พอใจ” ขายหนุ่มหันไปมองหน้าแม่บ้าน นางรู้ความในจึงค่อยๆ เลี่ยงออกไป เขาขัยบตัวเข้ามาใกล้ร่างเล็กใบหน้าบูดบึ้งมองจอโทรศัพท์ไม่สนใจเขา จนมือหนาต้องช้อนหน้าสวยให้หันมามองหน้า ดวงตากลมสบตาเขาครู่หนึ่งก่อนจะตวัดไปมองทางอื่น
“งอนอะไรฉันล่ะ ไม่บอกคนแก่อย่างฉันก็ไม่รู้หรอกนะ”
“ไม่ได้งอนค่ะ”
“ถ้างั้นก็คงหงุดหงิดที่เจ้าธัญญ์ไม่ยอมกลับบ้านล่ะสิ” พิยะตาหันมองเขาโดนไม่ต้องให้มือนั้นช้อนใบหน้าเธออีก ดวงตากลมเบิกกว้งอย่างตกใจเรียวปากบางขยับเม้ม ก่อนจะหลบสายตาเก็บซ่อนบางสิ่งเอาไว้
“ฉันพูดแทงใจดำเธอหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ คุณธีร์พูดเรื่องอะไรพิตต้าไม่เข้าใจ”
“เอาเป็นว่าฉันพูดในสิ่งที่ฉันรู้สึก” หัวใจดวงเล็กเริ่มสั่น เธอตื่นเต้นไม่น้อยที่เขารู้ความในใจของเธอ
“ความรู้สึกของคุณมันคงด้านชาจนรับรู้อะไรไม่ได้หรอกค่ะ หญิงสาวตอบเสียงอ่อย เธอแอบตำหนิเขาที่ไม่ใช้ความรู้ที่มีทำให้อาของเธอใจอ่อน
“ฮ่าๆ มันคงด้านชาจริงๆ ไม่เอาน่าเราเลือกเส้นทางนี้แล้วไม่ใช่เหรอ จะต้องคิดถึงเรื่องอื่นอีกทำไม”
“คุณธีร์แน่ใจนะคะ ว่าเราทั้งคู่ทำถูก”
“มาถึงขั้นนี้แล้วนะ การ์ดก็แจกไปเยอะยังจะต้องคิดอะไรอีกล่ะ”
“คุณธีร์” ชายหนุ่มนิ่งเงียบพิงโซฟา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือหนายกขึ้นกุมขมับ เขาพยายามควบคุมไม่ให้เนื้อตัวสั่นจากอาการสะท้านโหยหาใครอีกคน
“คุณธีร์คะ คิดทบทวนใหม่ดีไหมคะ คราวนี้พิตต้าว่าอาโด่งต้องยอมใจอ่อนแน่ๆ เดี๋ยวพิตต้จะช่วยพูดอีกทางนะคะ”
“พอเถอะพิตต้า...ฉันรู้คำตอบนั้นดี” เขาส่ายหน้าอย่างคนสิ้นหวัง
“พิตต้าไม่อยากให้เราต้องมาทุกข์ใจ”
“ฉันไม่ได้ทุกข์ใจเลยนี่นา ออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้อยู่ใกล้เธอ” เขาพยายามตอบในสิ่งที่เขาแสร้งทำตลอดทั้งวัน ถึงจะรู้สึกดีแต่มันก็ไม่ใช่ในฐานะคนรัก
“จะไม่ลองอีกครั้งเหรอคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม