ทัณฑ์นางโลม นิยาย บท 44

“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยถาม

“ค่ะ” หล่อนกระชับผ้าห่มแนบตัวมากขึ้น ความเย็นที่กระทบร่างเปลื่อยเปล่าทำให้เนื้อตัวหล่อนสั่นสะท้าน การได้เบียดร่างกายเข้าหาคนกำยำจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สร้างความอบอุ่นให้ตัวเอง

“จุ๊บ ผมมีความสุขมากคุณรู้ไหม” ดนุพรหันสบตาคู่งาม เขาช่างมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล ยิ่งใกล้หัวใจที่เคยผลักไส้ก็อยากจะโอบกอดเขาไว้

“คุณทำแบบนี้ทำไม”

“ผมรักคุณ”

“คุณธีร์ อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ เดี๋ยวพิตต้ามาได้ยินเข้าจะเสียใจ”

“ฮึ คุณก็แบบนี้ทุกที ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย พิตต้าเค้าไม่ได้รักผมคุณก็รู้ จะมาบังคับให้แต่งงานกับผม แล้วพิตต้าจะมีความสุขได้ยังไง”

“แต่โด่งไม่อยากให้คุณต้องเสียใจมากกว่านี้ พิตต้าจะทำให้คุณลืมโด่งได้ค่ะ”

“ไม่มีวันนั้นหรอก ผมไม่ได้รักพิตต้า เราสองคนไม่ได้รักกัน ที่ยอมทำทุกอย่างก็เพื่อคุณ ทำไมคุณไม่คิดจะทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้างล่ะ” เรียวปากสวยเม้มแน่น ดนุพรคิดตามที่เขาพูด หล่อนอ้างโน่นนี่มากมายเพื่อให้หลานสาวยอมแต่งงานกับธีร์ ยิ่งเขาโวยวายเรียกร้องความยุติธรรมให้หญิงสาวอย่างนี้หล่อนก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที

“โด่งไม่อยากให้คุณทรมานใจนี่คะ”

“พอเถอะ ผมขอร้อง”

“พิตต้าก็ตกลงยอมแต่งงานกับคุณแล้ว อีกอย่างแกก็ไม่ได้แสดงอาการลำบากใจนี่คะ”

“เพราะพิตต้าเป็นเด็กดี ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักเช่นคุณ”

“โด่งไม่รู้ค่ะ พิตต้าไม่เคยบอกอะไรโด่ง”

“คุณไม่เคยถาม ไม่เปิดใจยอมรับว่าพิตต้ามีชีวิตเป็นของตัวเอง” ดนุพรสลดลง

“โธ่ ยายพิตต้าของอา โด่งขอโทษค่ะ”

“ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าใครจะว่ายังไง อีกอย่างฐานะของผมในตอนนี้มันก็ทำให้เราอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องออกไปพบเจอใคร”

“คุณจะยอมทิ้งทุกอย่างไม่ได้นะคะ”

“โด่งคุณจะห่วงอะไรอีก”

“บาร์กรีนเนอร์รี่”

“ผมจัดการทุกอย่างแล้ว...คุณไม่ต้องเป็นห่วง” ดนุพรลุกขึ้นนั่งโดยไม่ลืมที่จะดึงผ้ามาปกปิดร่างกาย

“การ์ดงานแต่งก็แจกไปแล้ว แบบนี้หลานสาวโด่งก็เสียหายสิคะ”

“พอเถอะเลิกพูดเรื่องนี้ ผมเตรียมทุกอย่างให้พิตต้าแล้วรับรองว่าพิตต้าจะไม่เสียอะไรทั้งนั้น” ดนุพรมองหน้าคนพูดอย่างสงสัย เขาไม่เคยวางแผนอะไร ทำไมตอนนี้ถึงดูลับลมคมนัยพิลึก

“พิตต้าอยู่ไหนคะ”

“ผมให้เค้าไปอยู่ดูแลเจ้าธัญญ์...ป่านนี้คงจะกำลังคุยปรับความเข้าใจกันแน่ๆ”

“ตายจริง คุณธัญญ์ หวังว่าคงจะไม่ทำให้หลานสาวโด่งร้องไห้เสียน้ำตาอีกนะคะ”

“นี่คุณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม”

“อะ เอ่อ เรื่องอะไรคะ” ดนุพรแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ชายหนุ่มถาม ใครจะกล้าบอกว่าพิยะตานั้นมีใจให้หลานชายตัวดีของเขา ทั้งๆ ที่กำลังจะแต่งงานด้วยกันแล้วแท้ๆ

“ก็เรื่องเจ้าธีร์กับหนูพิตต้าไง”

“มะ ไม่รู้ค่ะ สองคนนี้ทะเลาะกันประจำเลย น่าจะเป็นคู่กัดกันมากกว่านะคะ”

“โด่งคุณนี่ไม่เคยสังเกตอะไรเลยเหรอ”

“ช่างเถอะค่ะ...โด่งขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ดนุพรลุกเตรียมเดินไปยังห้องอาบน้ำ แต่มันติดตรงที่ว่าผ้าห่มนั้นมีผืนเดียวอีกทั้งชายหนุ่มก็ใช้ปกปิดร่างกายเช่นกัน เขาจึงไม่ยอมปล่อยมือจากผ้าง่าย

“อุ๊ยคุณธีร์ ปล่อยผ้าสิคะ”

“จะปล่อยได้ยังไง ผมก็ไม่ได้ใส่อะไรเหมือนกันนะ” ดนุพรมองเขาหน้าแดงกล่ำ หล่อนผุดคิดถึงสรีระที่กำยำแล้วเลยไปจนถึงความแข็งแกร่งที่ผงาดง้ำจนหล่อนหัวใจสั่นไหว เสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบดึงผ้าห่มกระชับแน่นกว่าเดิม

“ว๊าย” เขาดึงด้วยความอาย แต่มันทำให้ผ้าหลุดจากตัวคนที่ยื่น ร่างกายเปลื่อยเปล่าขาวนวลเย้ายวนสายตาให้ชายหนุ่มต้องจับจ้องอยู่นาน

“อีตาบ้า” ดนุพรแก้เขินด้วยการโวยวายใส่เขาแล้วเจ้าหล่อนก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำ

“ฮึๆ ทำเป็นอาย ทีของเราล่ะมองเอาๆ” ชายหนุ่มพลางเปิดผ้าห่มแล้วมองของสงวนของตัวเอง

“ในที่สุดก็ได้ใช้งาน หลังจากพักศึกมาหลายปีนะลูกพ่อ”

“ทุเรศ แบร่” เสียงบ่นดังออกมาจากห้องน้ำ

“อะไรนะ จะให้ผมเข้าไปอาบน้ำด้วยเหรอ”

“ว๊าย อย่าเข้ามานะ อีตาบ้า”

สายลมที่พัดเกลียวคลื่นเข้ากระทบฝั่ง เย็นเฉียบราวกับอยู่ในช่วงฤดูหนาว ใบหน้าสวยหวานมองเลื่อนลอยไปยังคลื่นหนา ปอยผมถูกลมพัดสยายเกี่ยวใบหน้าจนหญิงสาวต้องรวบผมเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง หญิงสาวทอดสายตาไปไกลเธอหวังจะได้เห็นเส้นขอบของท้องฟ้า

“แก๊ง” เสียงสิ่งของกระทบพื้นทำให้พิยะตาต้องหันไปมอง

“คุณธัญญ์” ชายหนุ่มที่มีผ้าปิดตา พยายามคลำหาทางเดินมาหาคนสาว เขาพลาดสะดุ้งอะไรบางอย่างจึงล้มลง

“เป็นยังไงบ้างคะ...ค่อยๆ ลุกนะคะ” หญิงสาวประคองให้เขาลุกขึ้นอย่างห่วงใย

“ไม่เป็นไรหรอก ผมเห็นคุณหายไปนานเลยออกมาดู”

“โธ่ พิตต้าแค่มายืนสูดอากาศค่ะ”

“ทำไมไม่ชวนผมบ้างล่ะ รู้ไหมว่าการได้อยู่กับคุณสองต่อสองมันมีความกับผมมากแค่ไหน ผมไม่อยากจะเสียมันไปซักวินาที” ชายหนุ่มพูดราวกับว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับเธอเช่นนี้อีกแล้ว

“ไม่เอาค่ะ เรายังอยู่ด้วยกันอีกหลายวันนะคะ”

บทที่ 19.2 สองคนสองใจ 1

บทที่ 19.2 สองคนสองใจ 2

บทที่ 19.2 สองคนสองใจ 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม